วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

บทสนทนาก่อนวันลอยกระทง

บทสนทนาก่อนวันลอยกระทง - "คอลัมน์ คุยกับประภาส"
โดย ประภาส ชลศรานนท์
กาลครั้งหนึ่งยังมีคนอยู่สี่คนนั่งคุยกันอยู่ สามคนเป็นผู้ชาย คนแรกชื่อคนแบกโลก คนที่สองชื่อคนขวางโลก และคนที่สามชื่อคนจ้องโลก ส่วนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเป็นสาวสวยชื่อคนกอดโลก ทั้งสี่คนเป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนจะเป็นเพื่อนสนิทแบบในหนังเรื่องเพื่อนสนิทหรือเปล่า ผมก็มิอาจเดาได้
ลองฟังเขาคุยกันดูครับ เขาคุยกันเรื่องลอยกระทงครับ

คนกอดโลก - "ปีนี้จะไปลอยกระทงที่ไหนกันน่ะ"
คนขวางโลก - "ลอยที่ไหนก็ไม่ต่าง เพราะมันก็แค่เอากระทงลอยลงไปในน้ำ ที่ไหนมีน้ำที่นั่นก็ลอยได้"
คนแบกโลก - "ไม่ว่าจะลอยที่ไหน มันก็คือการทิ้งลงไปนั่นเอง"
คนจ้องโลก - "ตอนที่ลอยนั้นเราควรจะคิดอะไรด้วย เพราะมันมีตำนานอยู่"

คนกอดโลก - "คิดอะไรหรือ"
คนจ้องโลก - "มันมีหลายตำนาน จะเอาตำนานไหน"

คนกอดโลก - "ลอยกระทงนี่มีแต่บ้านเราหรือเปล่า มันเกี่ยวกับศาสนาหรือเปล่า"
คนขวางโลก - "ศาสนาพุทธสอนให้ปล่อยวาง ไม่เคยสอนให้ยึดติดพิธีกรรม"

คนจ้องโลก - "พม่าก็ลอย ลาวก็ลอย จีนก็ลอยนะ แต่รายละเอียดไม่เหมือนกัน ความเชื่อก็ไม่เหมือนกัน"
คนกอดโลก - "อยากรู้ เล่าหน่อยเถอะ"
คนขวางโลก - "จะรู้ไปทำไม รู้แล้วทำให้ลอยสนุกขึ้นหรือ"
คนจ้องโลก - "ถ้าเอาตำนานทางพุทธ เขาก็ว่าเป็นการลอยเพื่อไปบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นการบูชารอยพระพุทธบาท ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำนัมมทา"

คนขวางโลก - "แล้วมันจะลอยถึงได้อย่างไร บางคนลอยในสระน้ำ ลอยในคลอง เอ้า...ต่อให้ลอยในแม่น้ำด้วย แม่น้ำที่ไหนไหลทวนไปอินเดียได้"

คนกอดโลก - "แต่บางคนเขาก็ลอยเพื่อขอขมาและขอบคุณแม่น้ำที่ให้เราใช้มาตลอดนะ"
คนแบกโลก - "ขอขมาประสาอะไร ทำร้ายมากกว่า ทิ้งขยะเต็มแม่น้ำภายในวันเดียวเยอะกว่าทิ้งทั้งปีอีก"
คนจ้องโลก - "ประเทศที่มีการลอยกระทงนี่ล้วนทำกสิกรรมทั้งนั้น เห็นไหม เราบูชาอะไรบ้าง แม่คงคา พระพิรุณ น้ำทั้งนั้น เพราะเราต้องพึ่งน้ำเป็นอย่างมาก"
คนขวางโลก - "ประเทศอุตสาหกรรมก็ต้องพึ่งน้ำ มีใครไม่พึ่งน้ำบ้าง ไม่เห็นเขาต้องมาไหว้ มาบูชาอะไรเลย"

คนแบกโลก - "ลอยเอาแค่สนุกมั้ง จะมีสักกี่คนที่ลอยเพื่อขอขมา หรือรำลึกถึงบุญคุณแม่น้ำ ไหนจะเรื่องจุดพลุดอกไม้ไฟอีก อันตรายทั้งนั้น"
คนจ้องโลก - "มันก็ต้องมีอุบายบ้าง ถ้าไม่สนุกมันจะสืบสานต่อไปได้หรือ"
คนกอดโลก - "อย่างน้อยก็สอนให้คนรุ่นหลังรู้ว่าเรามีประเพณีขอขมาธรรมชาติที่เราได้ล่วงเกินมาตลอดทั้งปี สอนไปทีละนิดมันก็คิดขึ้นได้เองล่ะน่า"

คนแบกโลก - "สอนให้ทำลายธรรมชาติสิไม่ว่า"
คนจ้องโลก - "ตำนานล้านนาเล่าว่า เกิดอหิวาต์ระบาดที่อาณาจักรหริภุญไชย ทำให้คนต้องอพยพไปอยู่เมืองหงสาวดี บางคนก็มีครอบครัวอยู่ที่นั่น พออหิวาต์สงบลงแล้ว บางส่วนจึงอพยพกลับ และเมื่อถึงวันครบรอบที่ได้อพยพไปก็เกิดการคิดถึง เลยจัดของกินของใช้ใส่กระทงลอยน้ำไป หวังจะให้ถึงหงสาวดี"
คนขวางโลก - "บ้าแล้ว มันคงลอยถึงหรอก"

คนกอดโลก - "แค่ลอยก็สบายใจแล้วนี่ เหมือนทำบุญทำทานไง จะถึงผู้รับแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่อง"
คนขวางโลก - "คนแบบนี้แหละ ที่เขาเรียกว่าเหยื่อ"

คนแบกโลก - "สองปีที่แล้ว กทม.นับกระทงที่มีผู้คนมาลอยได้ 1,075,792 ใบ เป็นกระทงที่ทำจากโฟม 30.52 เปอร์เซ็นต์ โฟมใครๆ ก็รู้ว่าสลายยากแค่ไหน เผาไปทีก็ทำลายชั้นบรรยากาศที รู้จักปฏิกิริยาเรือนกระจกใช่ไหม โลกมันร้อนน้ำท่วมพายุกระหน่ำก็จากสาเหตุพวกนี้แหละ"
คนจ้องโลก- "นี่ก็เหยื่ออีกรายมั้ง เชื่อ กทม.หรือว่าเขาจะนับกระทง ใครจะนับไหว เป็นล้านกระทงอย่างนั้น"
คนขวางโลก - "เขาก็มีวิธี วิชาสถิติก็ทำได้ นับโดยการสุ่มตัวอย่างก็ได้"

คนกอดโลก - "นับได้ขนาดนี้แสดงว่าก็คงเก็บไปรีไซเคิลได้"
คนแบกโลก - "ทุกปีจะเก็บได้ไม่หมด เหลือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ บรรลัยแล้วเห็นไหม"
คนจ้องโลก - "ตามตำนานพราหมณ์เล่าว่า พิธีลอยประทีปนี่แต่เดิมเป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ ทำขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าทั้งสามคือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม"

คนกอดโลก - "ถ้าเราจะช่วยกันคิดใหม่ว่าให้ใช้กระทงร่วมกันเป็นกลุ่มน่าจะดีนะ ครอบครัวละกระทง แฟนกันก็กระทงหนึ่ง เพื่อนกันก็กระทงหนึ่ง จะได้ลดจำนวนลงบ้าง"
คนขวางโลก - "หลวงเขาก็รณรงค์อยู่ไม่เห็นหรือ แล้วได้ผลตรงไหน คนไทยชวนทำอะไรดีๆ ยาก"

คนจ้องโลก - "ตำนานจีนเล่าว่า สมัยก่อนทางตอนเหนือเมื่อถึงหน้าน้ำ น้ำจะท่วมเสมอ บางปีน้ำท่วมจนชาวบ้านตายนับเป็นพันเป็นหมื่น และหาศพไม่ได้ก็มี จึงจัดกระทงใส่อาหารลอยน้ำไป เพื่อเซ่นไหว้ผีเป็นงานประจำปี"
คนขวางโลก - "แล้วทำไมไม่ลอยกลางวัน อยากรู้มานานแล้ว ไม่ว่าจะตำนานไหน ทำไมไม่ลอยกลางวัน สมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าด้วย ลอยกลางคืนน่าจะมืดจนน่ากลัว"

คนกอดโลก - "ไม่น่ากลัวหรอก จุดเทียน มีแสงวอมแวม ดูสวย ขลังดีออก"
คนจ้องโลก - "แล้วผีที่ไหนโผล่มาตอนกลางวัน คนจีนเขาก็ว่าจุดเทียนก็เพราะหนทางไปเมืองผีมันมืด จึงต้องจุดให้แสงสว่าง ในภาษาจีนเรียกลอยกระทงว่า ปั่งจุ๊ยเต็ง แปลว่า ปล่อยโคมน้ำ"

คนกอดโลก - "ใครจะลอยเพื่ออะไรก็เอาเถอะ แต่ขอลอยเพื่อระลึกถึงผู้มีพระคุณต่อเราก็แล้วกัน ทั้งพระพุทธเจ้า พระแม่คงคา"
คนขวางโลก - "ระลึกถึงผู้มีพระคุณ แล้วอธิษฐานขอนู่นขอนี่ทำไม"

คนแบกโลก - "อีกข้อมูลหนึ่งที่ผู้คนไม่ค่อยรู้กัน เมื่อปีที่แล้ว หนึ่งในสิบของกระทงที่ลอยกันในแม่น้ำเจ้าพระยา ลอยไกลไปถึงอ่าวไทย เก็บยากเลยทีนี้"
คนจ้องโลก - "เรื่องลอยกระทงนี่มันมีหลายเรื่องอยู่ในเรื่องเดียวกันนะ ไหนจะเรื่องประเพณี ไหนจะเรื่องโบราณคดี แล้วเรื่องสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมอีกล่ะ"

คนแบกโลก - "เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่สุด"
คนกอดโลก - "เรื่องประเพณี เรื่องประวัติศาสตร์ก็สำคัญนะ"
คนจ้องโลก - "อันที่จริงที่มาลอยกันเยอะๆ นี่ก็สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม นี่เองนะ เพลงลอยกระทงก็ยุคนี้แหละ ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่สามยังเป็นเรื่องของเจ้านายอยู่เลย พิธีใหญ่และโอ่อ่ามาก พอถึงรัชกาลที่สี่พระองค์เห็นว่ามันฟุ่มเฟือยมากไป ก็ย่อเหลือแค่ลงเรือพระที่นั่งไปลอยประทีป"

คนกอดโลก - "กระทงที่ทำจากขนมปังก็ดีนี่ ปลากินได้"
คนแบกโลก - "กินไม่ทันหรอก บางแหล่งน้ำไม่ได้มีปลาเยอะขนาดกินได้หมดในหนึ่งวัน แล้วรู้ไหม ขนมปังที่เอามาทำกระทง หลายแห่งเลยใส่สารกันบูดเยอะเสียจน ปลากินปลาก็ตาย แล้วถ้าเหลือเยอะน้ำก็เน่า เคยเห็นบ่อเลี้ยงปลาที่ให้อาหารเยอะเกินไปหรือเปล่า น้ำเน่าหมด"

คนกอดโลก - "ทำกระทงจากน้ำแข็งได้ไหม ลอยไปพอละลายก็กลายเป็นน้ำ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย"
คนจ้องโลก - "ทำได้ง่ายๆ หรือ แล้วจะไม่ละลายหมดระหว่างเดินทางหรือ แล้วจะขายกันอย่างไร สงสัยต้องขนตู้เย็นไปแช่กระทงด้วย"
คนขวางโลก - "ขืนลอยกระทงน้ำแข็งกันเยอะๆ พอน้ำแข็งละลายอุณหภูมิของน้ำก็จะลดลง ปลาก็ตายนะ"
คนกอดโลก - "แม่น้ำทั้งสายนี่นะ อุณหภูมิจะลดลงได้ด้วยกระทงน้ำแข็ง"

คนแบกโลก - "ธูปเทียนที่อยู่ในกระทงล่ะ ขยะทั้งนั้นนะ ทิ้งกันเข้าไป"
คนกอดโลก - "พูดไปแล้วเหมือนการลอยกระทงนี่ไม่มีอะไรดีเลย ปีนี้สงสัยต้องไปคนเดียวแล้ว ว่าจะไปลอยที่คลองข้างวัดเสียหน่อย"

คนขวางโลก - "ถ้าไม่มีใครไปด้วย ไปเป็นเพื่อนให้ก็ได้นะ"
คนจ้องโลก - "คลองข้างวัด น่าสนใจนี่ ไปด้วย"
คนแบกโลก - "อยากได้กระทงน้ำไหม จะลองทำมาจากบ้านให้ ว่างพอดีเลย"

ที่มา : นสพ. มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2548

ไม่มีความคิดเห็น: