วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

a day 95 ปีที่ 8 ฉบับที่ 95 ประจำเดือน เดือนกรกฎาคม 2551

a day 95 ปีที่ 8 ฉบับที่ 95 ประจำเดือน เดือนกรกฎาคม 2551
แถมฟรี
ซีดีเพลงแบบประภาสด้วยคน + หนังสือ Margin

5 ศิลปินที่เอาเพลงของพี่จิกมาคัฟเวอร์ใหม่

***************************
1.เพราะอะไร - ภานุพันธุ์ สงวนพรรค
2.ยังมี - penquin villa
3.เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ - สครับบ
4.ฟั่นเฟือน - a girl who hee na name
5.ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน - ริค วชิรปลันธ์

- ธนชัย อุชชิน หรือป๊อด โมเดิร์นด็อก เป็นศิลปินอีกคนที่ถูกเลือกให้มาร้องเพลง
ในคอนเสริ์ตเพลงแบบประภาสด้วย แต่เนื่องจากเจ้าตัวติดธุระอัดเสียงผลงาน
อัลบั้มใหม่ที่ต่างประเทศเลยมาร่วมคอนเสริ์ตนี้ไม่ได้

- มุข “เพื่อนตุ้ม”ที่โน๊ต อุดม แต้พานิช เล่าและเขียนจนตุ้มโด่งดังไปทั่วนั้น
เป็นเรื่องจริงของประภาส และตุ้มคนที่ว่าคือ อิสระ วีระนิตินันท์ หรือตุ้ม
เพื่อนที่เรียนธรรมศาสตร์ของประภาสนั่นเอง


--------------------------------------------------------------
"คุยกับประภาสหายไปไหนคะ คิดถึงจัง
น้อย "
--------------------------------------------------------------

เวลา ที่หญิงสาวบอกคิดถึงชายหนุ่มนั้นผมว่าน่ารัก แล้วถ้าชายหนุ่มที่ถูกบอกคิดถึงทำเฉยๆ ไม่ตอบอะไรสักอย่าง ผมก็ว่าชายหนุ่มคนนั้น เย็นชาเกินไป
คิดถึงเหมือนกันครับ


* ค่ายเทปเพลง : คีตา และ มูเซอร์ (ยังจำกันได้หรือเปล่า ? ... เฉลียง, หนุ่มเสก, สามโทน, โคโค่แจ๊ส, สมเกียรติ์ ซีมิกซ์, พงษ์พัฒน์, แอนนา โรจน์รุ่งฤกษ์, อังสนา ช้างเศวต, แสงระวี อัศวรักษ์, อ้อม สุนิสา, ฮันนี่ ภัสสร, ฯลฯ)

* นิตยสาร ฯลฯ (อ่านว่า ไปยาลใหญ่)

* สำนักพิมพ์ศิษย์สะดือ (เจ้าของ โลโก้ มัมมี่ถือกล้วย) ... จำได้ว่าสมัยมัธยมปลาย เคยไปเยี่ยมเยียนเหมือนกัน เนื่องจากชอบมาก ๆ ทั้งนิตยสาร ทั้งพ็อคเก็ตบุ๊ค ทั้งหลายแหล่ เคยส่งกลอน(เปล่า) ไปให้ ฯลฯ พิจารณาด้วย แล้วในที่สุด ก็ได้รับการตีพิมพ์ลงในคอลัมน์ของ "พี่หมีควาย" หรืออะไรสักอย่าง ตอนนั้นดีใจสุด ๆๆๆๆๆ

* พ็อคเก็ตบุ๊ค เล่มต่าง ๆ (สมัยนั้น ราคายังเป็นหลักยี่สิบกว่าบาทอยู่เลย) ... ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ, ห้องครูวิไลตึกใหม่ชั้นสอง, ว้าวุ่น, กว่าจะถึง(ท่า)พระจันทร์, หนุ่มนักโบกกับสาวขี้บ่น, หาดขาว ดาวสวย กล้วยตาก, เพียงความทรงจำเอาไว้เลย, แหวกฟ้าคว้าดอน ... และอีกหลาย ๆ เรื่อง

* เพลงอีกหลายเพลง จากปลายปากกาของพี่จิก ... พี่ชายที่แสนดี, เพราะอะไร, กล้วยไข่, หลาย ๆ เพลงของเฉลียง และอีกมากมาย


อ่านแล้วก็ได้แต่ยิ้มไป ... ยิ้มให้ในวันวานวัยเยาว์ ช่างสุขใจอะไรเช่นนี้

พี่จิกบอกว่า ความเชื่อ, ความศรัทธา, ความมีมุทิตา นั้นสำคัญกับการสร้างงานต่าง ๆ

ก็คงจะเหมือนกับที่ Albert Eistien บอกไว้ว่า ...


"Imagination is more important than knowledge"


ยังไงก็อย่าละทิ้งความฝันแล้วกันนะ ...


เป็ญฆณฌอปอ่าณนั๋งษือมาคฆ่ะ แฏ่ใม่เฆยฬู้จัขอาประพาฒเลย วรรณหณึ่งมาม๊าเภื่อณญื่ณณั๋งศือฆุยกัปประพาฏค๋องฆุณอามาหั้นอ่าณ หณุขฎีๆ ^^ แฏ่นู๋ฏอปมั่ยไฎ้อ่ะเวฬาเภื่อณฒ๋ามหว้าหนี้ณั๋งศืออะฬัย (-_”) ธ่าเป็ณฆุณอาจะบอคเฆ๋าหว้าฬัยฤๅฆะ ฏอปกลับฎ้วยณะ อิอิ


กับคำถามที่ว่า.......
เห็นอะไรในวิถีชีวิตแบบ Hi5 บ้าง?

กับคำตอบที่ว่า........
มันเป็นโลกใบที่สองของมนุษย์ ผมมองเรื่องโลกใบที่สองมาตั้งนานแล้ว คนเรามีโลกสองโลก โลกที่เราอยู่จริงๆ ในปัจจุบัน กับโลกอีกใบหนึ่ง จะใบเล็กใบใหญ่ก็แล้วแต่ ตอนที่สุนทรภู่เขียนพระอภัยมณี เขามีโลกอีกใบอยู่ที่เกาะแก้วพิศดาร นักอ่านบางคนมีอยู่ใน แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ศิลปินบางคนมีอยู่ในภาพเพนต์ของตัวเอง วัยรุ่นบางคนอยู่ในเกมออนไลน์

เวลาเราเข้าไปดูหนัง ตอนเดินออกมาจากโรงฯ เคยรู้สึกไหมว่าเราต้องปรับตัว กลับมาอยู่อีกโลกหนึ่ง เพราะตอนที่เราอยู่ในโรงฯ เราอยู่ในโลกนั้นจริงๆ เวลาก็เป็นเวลาของหนัง พอหนังเลิก เดินออกมาเลยมีความมึนอยู่นิดๆ มันมีความเชื่อมต่ออยู่ กี่โมงแล้ว กลับบ้านยังไง มันกลับมาหาความจริงแล้ว Hi5 ก็เป็นอีกโลกหนึ่ง มันไม่หลุดเข้าไปเลย มันทับโลกจริงของเราไม่สนิท เลือนๆ อยู่ บางคนก็เลือนมาก เลือนน้อย แต่สนิทเป๊ะนี่ไม่มี ผมมองว่า Hi5 คือโลกใบที่สองของมนุษย์ เป็นอีกโลกที่เอามาให้เลือก


ปล1.เล่มนี้ประภาสล้วนๆเลย หลายคอลัมส์เลยทีเดียว ใครชอบก็คุ้มอะ

ถ้อยคำของคนโปรด

“จงเชื่อมั่นว่าชีวิตมีค่าควรแก่การดำรงอยู่ แล้วความเชื่อจะช่วยให้มันเป็นจริงตามนั้น”

“หนังสือเป็นเครื่องมือเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์”

“สิ่งที่สวยงามเกิดขึ้นทุกวัน สำคัญที่เราได้หันไปมอง”

“พฤติกรรมกำหนดชะตากรรม”

“งานกับเล่นเป็นสิ่งเดียวกัน”

“ความคิดสร้างสรรค์ทุกชิ้นเกิดขึ้นต่อจากความคิดสร้างสรรค์อันเดิม”

“คนเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าไม่เปลี่ยนทัศนคติก่อน”

“ผมชอบโลกที่มีมุทิตาจิต คือโลกที่ชื่นชมคนอื่นอย่าชื่นชมตัวเองอย่างเดียว มันทำให้โลกเบา”

“มนุษย์ถูกสั่งให้เกิดมาแล้วคิดตลอดว่า พรุ่งนี้ต้องไม่เหมือนวันนี้”

“ผมคิดเรื่องการกลับมาเกิดใหม่แล้วมันจรรโลงชีวิต ความคิดนี้ศรัทธานี้ มันอุ้มชูชีวิตของเราได้”

“ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องการได้เป็นอะไรเท่ากับการได้ทำอะไร อย่าไปฝันว่าอยากเป็นอะไรกัน คุณต้องอยากทำอะไรก่อน แล้วมันจะเป็นเอง”

คนเราไม่ได้เรียนวิชาเพื่อประกอบอาชีพเพียงอย่างเดียว การเรียนรู้ไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือที่ไหน
นอกจากจะเอาไว้ประกอบอาชีพแล้ว เราเรียนเพื่อจะเป้นมนุษย์ที่ดีด้วย.....
-ถ้ามีเงิน 2 บาท ให้ใช้เงินบาทแรก ซื้อข้าว ส่วนอีกบาท ซื้อดอกไม้

มัน จริงอย่างที่เค้าเขียนรึป่าว ใจคุณคงไม่โกหกใจคุณเองหรอกนะ บางครั้งในชีวิต เราก็ต้องการใครบางคนมาบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้บ้าง เพราะมัน คิดเท่าไร ก็คิดไม่ถึงกันซะทีเหนอะ งานมันยุ่งเวลามันน้อย เงินต้องการมาก มาก จนคิดว่าเรื่องราวอื่นๆ ในชีวิตเป็นเรื่องไม่สำคัญ โดยเฉพาะคนใกล้ตัว แต่กลายเป็นคนไกลใจ
บทความต่อไปนี้เป็นเหมือนเศษ กระดาษหนึ่งใบแต่ความหมายในเศษกระดาษใบนี้ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะคิดว่าเป็น เศษกระดาษได้ โดยครั้งทีมักจะได้ยินว่า เราไม่รู้จะบอกเค้ายังงัยเพราะเราเป็นแค่เพื่อน แต่ความจริงแล้ว คุณเป็นตั้งเพื่อนต่างหากโลกไม่เคยทำให้มนุษย์สมบูรณ์แบบเพื่อเผื่อเนื้อที่ ให้คุณได้มีโอกาสแสวงหาโลกทำให้มนุษย์มีความเหงาเพื่อให้มนุษย์แสวงหาความ รักและมอบความรัก และได้รู้ว่าการมีเพื่อนให้โลกไม่เงียบเหงาจนเกินไป


>* ในแต่ละวัน...ให้เริ่มต้นวันด้วยการยิ้ม ไม่ว่าเรื่องที่จะทำให้ยิ้มได้ในแต่เช้านั้นจะมีไม่กี่เรื่อง
>* ในแต่ละวัน... ให้นึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ดีต่อเราวันละ 1 อย่าง หรือ 1 คน
>* ในแต่ละวัน... ให้จบทุกอย่างที่เป็นปัญหาไว้ที่ทำงาน ไม่ต้องแบกกลับมาที่บ้าน
>* ในแต่ละวัน... ให้ทำความรู้จักผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยวันละ 1 คน
และอย่าลืมรักษาคนรู้จัก ให้อยู่กับเราได้นานๆ ก่อนที่วันนี้คุณจะทำความรู้จักกับ ผู้คนใหม่ๆ

จง สำรวจตัวเองว่าได้ทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า หากวันนี้เหลือเพียงวันสุดท้าย รักแค่ไหนได้ทันบอกเธอหรือยัง หากว่าพรุ่งนี้สายเกินไปทุกอย่าง เรารักเราดีต่อกันพอไหม และถ้าเกิดว่า 24 ชั่วโมงต่อจากนี้คือวันสุดท้ายของคุณจริงๆ มันเพียงพอกับสิ่งที่คุณอยากจะทำมั้ย ?

เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น เมื่อเงินทองเป็นเจ้าของเวลาไปซะหมด แล้วเมื่อไหร่คุณจะเป็นเจ้าของเวลาบ้าง มีสติ-สตางค์อยู่ก็ปลีกเวลาไปใช้บ้าง อีกหน่อยไม่มีสติต่อให้มีสตางค์ก็สายไปซะแล้ว

>* เวลาที่เรารักใคร ..เราจะรู้สึกตัวเล็กเหลือเกิน
>* เวลาที่ใครรักเรา ..เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน
>* แต่ถ้าเราเจอคนที่รักกัน ..เราจะผลัดกันตัวใหญ่ตัวเล็ก

มี ชายหนุ่มผู้หนึ่งเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ถามผู้คุมว่า หลังจากผ่านการบำบัดแล้ว อีกนานแค่ไหนจึงจะออกเดทได้ ผู้คุมจึงแนะนำว่า... หลังจากออกจากที่นี่แล้ว ปีแรกให้ซื้อต้นไม้มาปลูก..ดูแลมันให้ดีๆ ปีต่อไปให้หาสุนัขมาเลี้ยง หลังจากนั้นถ้าต้นไม้และสุนัขไม่ตาย ก็แสดงว่าเริ่มมีความรักได้แล้ว

เราคือคนสำคัญเหลือเกินคนหนึ่ง ของครอบครัว แต่ต้องไปเป็นคนที่ไม่ค่อยมีคุณค่าของใครก็ไม่รู้ที่เราเชื่อมาตลอดว่าเขา สำคัญ ... เพื่ออะไร

อย่าปล่อยให้ข้อความในนี้เป็นเพียงเศษกระดาษ และจงให้มันได้แสดงถึงคุณค่าต่อความรัก ความรู้สึกที่คุณมีทั้งต่อตัวคุณ คนที่คุณรัก และครอบครัวของคุณ แต่ละท่อนมีความหมายและทรงคุณค่าในตัวของมันเอง จงอ่านและตีความอย่างละเอียด ถี่ถ้วน แล้วคุณจะพบว่าชีวิตของคุณได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ปล. เช่นเดิมนะคับ ถ้าอันไหนมันซ้ำกับ rep ไหน ช่วยบอกผมด้วย
อีนนี้ผมจำไม่ได้ว่า ซ้ำมั้ย แต่อยากให้ได้อ่านกัน วันนี้คุณนึก ขอบคุณใครซักคนแล้วรึยัง
สำหรับผม ขอบคุณพ่อแม่ของเธอคนนั้น ที่มีเธอขึ้นมา ทำให้ผมนึกถึงเธอทีไร ก้อยิ้มออกมาได้ทุกทีที่คิดถึง


ใครๆเขาก็ว่าผมเป็นนักคิด ภาพพจน์ฟังดูเป็นคนเครียดๆ นั่งเค้น นั่งคิดทั้งวัน แต่ในความเป็นจริงผมรักธรรมชาติมาก แม้แต่การคิด ผมก็เพียงทำตัวให้เป็นธรรมชาติ ไม่กดดันความคิดตัวเอง คิดอะไรต่อมิอะไรเหมือนกำลังหายใจอยู่ ผมว่าความเป็นธรรมชาติโดนใจมนุษย์ที่สุด คำแนะนำเดียวที่จะมีให้รุ่นน้อง คือ ต้องทำงานหนัก ไม่ว่าจะนักคิด นักเขียน หรือนักอะไร การทำงานหนักเป็นคุณสมบัติข้อแรกของคนที่จะพลิกโลกได้ แต่อย่าโหมเกินไป ถ้าเปรียบคือการวิ่งจ๊อกกิ้งนานๆ ให้ฮอร์โมนหลั่ง อย่าเร่งจนเหนื่อย จนล้ม ในขณะเดียวกัน ก็อย่าหยุดวิ่ง

แต่ข้อที่ต้องเตือนเด็กรุ่นใหม่มากๆ ก็คือ อย่าอยาก "เป็น" แต่จงอยาก"ทำ" ไม่ว่าจะนักแสดง นักเขียน วิศวกร หมอ เราต้องอยากแสดง อยากเขียน อยากออกแบบ อยากรักษาผู้คนก่อน เพราะการที่เราอยากเป็นนั่น คือเราคิดถึงตอนที่มันสำเร็จแล้ว ผมเป็นนักเขียน เพราะผมอยากเขียนหนังสือ ไม่ใช่อยากเป็นนักเขียน ถามนักแสดงตลกทุกคนดูก็ได้ ว่าทำไมเขาถึงมาเป็นนักแสดงตลก คำตอบของเขา คือ เขารักที่จะเห็นผู้คนหัวเราะ

(ตัดตอนจากบทสัมภาษณ์คุณปัญญา นิรันดร์กุลและคุณประภาส ชลศรานนท์ The Perfect Duo โดย ปารัณ-ศิริน ภาพโดย อิทธิศักดิ์ บุญปราศภัย ในหนังสือแพรว ปีที่ 29 ฉบับที่673 หน้า232 -242)



" คลาสสิกอย่าดูถูกแจ๊ซ
แจ๊ซอย่าดูแคลบป๊อป
ป๊อปก็อย่ารังเกียจลูกทุ่ง
ลูกทุ่งเองก็อย่ารังงอนหมอลำ
หมอลำก็อย่าไปคิดว่าคลาสสิกมันสูงส่ง "
ประภาส ชลศรานนนท์

ไม่มีความคิดเห็น: