วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก



ประภาส ชลศรานนท์ เชื่อในพลังของดนตรีและบทเพลง เขาใช้เพลงทั้งคำร้อง และทำนอง สร้างงาน สร้างความสุข และความสุนทรีย์อย่างทรงพลังมาเกือบสามทศวรรษ เขาบอกเล่าความคิด ความเชื่อผ่านงานกว่าสองร้อยเพลงของเขาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่เพลงของเฉลียง
เจ้าภาพจงเจริญ - สามโทน
รักเป็นดั่งต้นไม้ -หนุ่มเสก
ฟั่นเฟือน - พงษ์พัฒน์ รุ้งอ้วน
พี่ชายที่แสนดี
ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน
โคโค่ แจ๊ซ เยื่อไม้ ทีโบน มาม่า บลูส์ฯลฯ และเพลงเหล่านั้นยังเป็นเพลงโปรดระดับเพลงในดวงใจของใครหลายคน ทั้งในแง่บำรุงความคิด และประเทืองอารมณ์
เพลงของเขา ไม่เพียงก้าวข้ามเส้นคำว่า ยุคสมัย ขึ้นมาอยู่แถวหน้าเท่านั้น แต่ยังครองความนิยมอย่างต่อเนื่องข้ามทศวรรษอีกด้วย หลายเพลงเป็นเพลงที่หยิบมาฟังได้ไม่รู้เบื่อ อะไรเป็นปัจจัยความสำเร็จดังกล่าว แฟนเพลง หรือท่านผู้อ่านที่ชอบฟังเพลงของเขา นอกจากมีคำตอบในใจแล้ว น่าจะได้คำตอบเพิ่มจากหนังสือเล่มนี้ ส่วนนักอ่านท่านอื่น อาจมีทางเลือกใหม่ให้ลองแลกเปลี่ยนมุมมอง และความคิดกับเขา
นักแต่งเพลงบ้านเราที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับเดียวกับเขานั้น มีมากไม่เกินนับนิ้วมือ และจำนวนน้อยกว่านั้นคือ นักแต่งเพลงที่มีผู้รวบรวมงานเพลงไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา นับจากอดีต ถึงปัจจุบัน ผมพบไม่เกินห้าเล่ม ตั้งแต่ ครูไพบูลย์ บุตรขัน จรัล มโนเพ็ชร แอ๊ด คาราบาว นิติพงษ์ ห่อนาค และประภาส ชลศรานนท์ ที่รวบรวม เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก ฉบับพิมพ์ครั้งแรกไว้ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน หนังสือเล่มนี้มักได้รับการถามถึงอยู่เนืองๆ รุ่นแล้วรุ่นเล่า ทั้งในภาวะปกติ และตามงานสัปดาห์หนังสือทุกปี ผมจึงเชื่อว่า มีผู้อ่านจำนวนหนึ่งรออยู่
และสุดท้าย “เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก” ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือน ตุลาคม ๒๕๓๗ และพิมพ์ครั้งที่ ๒ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๔๒ ทั้งสองครั้งได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากผู้อ่าน บางท่านมีมากกว่าหนึ่งเล่ม ทั้งเพื่อเก็บ เพื่ออ่านเอง เพื่อแจกเพื่อนพ้อง หรือคนที่ชอบพอนับถือและเชื่อว่าหลายเล่มอยู่ในครอบครองของนักร้อง นักดนตรีรุ่นต่อๆมา ไม่นับที่เป็นเล่มโปรด หนังสือแนะนำ หรือวางอยู่บนชั้นหนังสือของนักคิดนักเขียนหลายท่าน หลายวงการ ดังจะเห็นได้จากบทสัมภาษณ์หลายวาระตามสื่อแขนงต่างๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ไม่หวังทำเพลงที่วิเศษวิโสเลิศเลอฟังแล้วเกือบนิพพานหรือชาติไทยพัฒนาไปเป็นมหาอำนาจความโลภในเพลงของพวกเขาก็คือเพลงที่เป็นความรู้สึกของมนุษย์เพลงที่เป็นเพียงเรียกร้องสำนึกดีดี ความรู้สึกดีผมเชื่อเสมอว่าคนทุกคนมีความสุข มีความรู้สึกดีดีเฉพาะตัว ต่างคนต่างมีเมื่อใครโชคดีมีหรือสร้างจนมี ก็ย่อมเป็นชีวิตที่งามแล้วและความสุข ความรู้สึกดีดีนั้น ก็จะทำให้คนสร้างสิ่งที่ดีดีออกมาให้สังคมนี้งาม ประเทศนี้งาม และโลกนี้งาม

ประภาสเป็นเพื่อนผมเอง มันเก่งตั้งแต่เรียนหนังสือ เห็นมันเก่งมาจนผมชิน ทำกิจกรรมมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน กอดคอกันมา รักกันบ้าง ตีกับมันบ้างมาตลอดยี่สิบกว่าปี ผมคงไม่อธิบายว่ามันเก่งอะไร จะเพลง จะรายการโทรทัศน์ หนังสือ คนเขารู้กันทั่วเมือง ขี้เกียจเล่าซ้ำกับเนื้อหาข้างใน อยากพูดอยู่แต่อย่างเดิมว่า ประภาสเป็นเพื่อนผม ผมรักเพื่อนแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ "จิก กูนับถือมึง"
นิติพงษ์ ห่อนาค

ไม่มีความคิดเห็น: