เพื่อนกับแฟน
สวัสดีครับพี่ประภาส
ระหว่าง 1.เพื่อนสนิท 2.แฟน (พูดกว้างๆไม่ได้ปรึกษาปัญหาหัวใจนะ) ถ้าให้เลือกพี่จะ เลือกอะไร
ปัญหานี่เกิดขึ้นเมื่อไปถามคำถามที่กล่าวมาแล้วกับเพื่อน(ที่ยังไม่มีแฟน)เพื่อนคนนั้นตอบว่าเลือกแฟน ทั้งๆที่เพื่อนคนนี้ก็สนิทพอสมควร ผมอยากทราบว่าทำไมเมื่อคนเรามีแฟนแล้วความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนต้องห่างเหินกันด้วย คุณลองคิดดูนะกว่าจะเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันมันนานขนาดไหน ผมว่ายังไงๆคำว่าเพื่อนก็ยังคงอยู่ แต่คำว่าแฟนนี่สิคำว่า “เลิกกัน”ยังมาเยือนได้เสมอ ไม่ยั่งยืน แล้วทำไมบางคนยังให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่า
นัท
สมัยที่ผมยังอยู่ในวัยที่เรียกว่าหนุ่มกว่านี้ วัยที่เพื่อนในกลุ่มบางคนเริ่มคบผู้หญิงเฉกเช่นคนรัก คำถามประโยคเดียวกับที่คุณนัทถามมานี้จะถูกพูดให้ได้ยินบ่อยเหลือเกิน
“เพื่อนกับแฟนจะเลือกใคร”
ผมอยากจะเรียกประโยคข้างบนนี้ว่าเป็นประโยคคำถามที่ผิดไวยากรณ์แห่งชีวิตเลยทีเดียว
“ทำไมต้องเลือก” ผมคงต้องถามกลับ
เคยดูหนังไทยประเภทที่เนื้อเรื่องมีแม่ผัวไม่ชอบลูกสะใภ้ไหมครับ ลูกชายที่เป็นพระเอกจะต้องถูกแม่ของตัวเองถามว่า “ระหว่างมันกับฉัน ชายกลางจะเลือกใคร” แล้วพระเอกของเราก็มักจะตอบแม่ตัวเองไม่ได้ ด้วยตัวเองนั้นรักนางเอกอยู่เต็มหัวใจ ส่วน แม่ถึงจะปากจัดถูกใจคนดูไปสักหน่อยแต่คนเป็นลูกก็ย่อมต้องรักแม่เป็นธรรมดา สุดท้ายพระเอกก็ต้องไปนั่งกินเหล้าเมาหัวทิ่มกับเพื่อนพระเอก
นี่ถ้าสมมุติพ่อพระเอกคนนั้นไปนั่งร้านเดียวกับผมสักหน่อย ผมจะแนะนำให้ลองกลับไปถามคุณแม่ตัวดีดูด้วยคำถามนี้บ้าง
“ระหว่างให้แม่ไปอยู่เชียงใหม่กับให้กินก๋วยเตี๋ยวเป็ดใส่ถั่วงอกเยอะๆ แม่จะเลือกอะไร”
รับรองแม่ของเขาต้องทำหน้าไม่ถูกแน่
ก็มันจริงไหมล่ะครับ ของมันเลือกไม่ได้นี่ ความรักของคนรักกับความรักของแม่มันเหมือนกันที่ไหน ความรักของเพื่อนกับความรักของแฟนก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน แล้วทำไมเราต้องบังคับตัวเองให้เลือกด้วย เพราะในความเป็นจริงคุณอาจจะไปอยู่เชียงใหม่โดยยังสามารถกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดใส่ถั่วงอกเยอะๆได้นี่ครับ
ตำแหน่งของเพื่อน แฟน แม่ พ่อ พี่ ป้า ฯลฯ มันเป็นตำแหน่งคนละตำแหน่งกัน มนุษย์เราอยู่ในสังคมมันก็ต้องมีญาติสนิทมิตรสหายหลายตำแหน่งอย่างนี้ จะไปตั้งโจทย์ให้ต้องเลือกคนสนิทเพียงตำแหน่งเดียวทำไมกัน
ความสัมพันธ์ของคนรักไม่เหมือนกับความสัมพันธ์ของเพื่อนและญาติหรอกครับ เอาตัวอย่างง่ายๆ คุณมีลุงหลายคนได้ มีเพื่อนหลายคนได้
แต่คุณมีแฟนหลายคนไม่ได้นะครับ
คนหนุ่มคนสาวทั้งหลายที่ติดเพื่อนหน่อยคงต้องหัดทำใจว่า เมื่อเพื่อนมีคนรักเขาอาจจะใช้เวลาไปกับคนรักจนไม่มีเวลาเหลือให้เพื่อน เพราะคุณนัทรู้ไหมครับว่าพ่อแม่ที่มีลูกที่ติดเพื่อนแจเขาก็รู้สึกน้อยใจอย่างคุณเหมือนกันว่า ลูกให้เวลากับเพื่อนมากกว่าให้พ่อแม่
พูดถึงคำว่าเพื่อน ผมตั้งข้อสังเกตุว่าภาษาไทยคำนี้มันมีอยู่สามความหมาย
ความหมายแรก “เพื่อน”ที่หมายถึงคนที่รู้จักกัน อาจจะเป็นคนที่รุ่นราวคราวเดียวกัน มารู้จักเป็นเพื่อนกันเพราะชุมชนพาให้รู้จัก ตัวอย่างเช่น เพื่อนในห้องเรียน เพื่อนบ้าน เพื่อนที่ทำงาน ฯลฯ
ความหมายที่สอง “เพื่อน”ที่เป็นตำแหน่งชั่วครั้งชั่วคราว ตัวอย่างเช่น นั่งรถไปเป็นเพื่อนแม่เขาหน่อย ผมมาดูหนังเป็นเพื่อนลูก ฯลฯ
ความหมายที่สาม “เพื่อน”ที่มีความหมายถึง”เพื่อน”จริงๆ เป็นความหมายในทางลึก เพื่อนบางคนก็ไม่ใช่ว่าจะเจอกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ความผูกพันกลับลึกซึ้งกว่าคนที่เจอกันอยู่ทุกวัน และรู้สึกดีทุกครั้งที่นึกถึงกัน
เพื่อนของผมบางคนก็เป็นแบบนี้ครับ ร้อยวันพันปีแทบจะไม่ได้เห็นหน้ากัน ชีวิตประจำวันก็ไปกันคนละทางของแต่ละคน เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย แต่เมื่อใดก็ตามที่ใครคนใดคนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ เราจะไม่รั้งรอเลย
และเพื่อนแบบนี้นี่แหละครับที่เมื่อถึงเวลาที่เพื่อนของเขาไปมีคนรักเข้า เขาจะไม่มาตั้งคำถามที่ตอบยากๆว่า “จะเลือกใคร”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น