ดรีมทีม
คอลัมน์ คุยกับประภาส
โดย ประภาส ชลศรานนท์
จู่ๆ ผมก็ได้รับมอบหมายให้มาคุมทีมๆ หนึ่งเพื่อเข้าแข่งขันเกมอะไรสักอย่าง
ทีมนี้มี 7 คนครับ เจ็ดอันตรายเลยก็ว่าได้ อ่านบทความตอนนี้จบผมว่าท่านผู้อ่านก็ต้องเห็นด้วยกับผมว่าเจ็ดอันตรายจริงๆ ตอนที่เจอกันครั้งแรกผมก็ถามพวกเขาว่า มีชื่อทีมหรือยัง พวกเขาส่ายหน้าไม่พูดอะไร
เริ่มต้นผมก็พบบรรยากาศไร้ไมตรีเสียแล้ว
"แนะนำตัวกันหน่อยดีไหม" ผมเปลี่ยนคำถาม แล้วก็แนะนำตัวเองก่อน
ชายหนุ่มหน้าตาขี้เบื่อที่นั่งซ้ายมือสุดยกมือขึ้น "ผมชื่อหงิด"
"ชื่อใสค่ะ" ผู้หญิงผมยาวที่ผมด้านหน้าของเธอแทบจะปรกหน้าแนะนำตัว "ข้างๆ นี่ชื่อสานเป็นน้องสาวค่ะ" เธอชี้ไปที่หญิงสาวหน้าตาซีดๆ ที่นั่งติดอยู่กับเธอ
เงียบไปพักหนึ่ง ชายหนุ่มคนที่นั่งถัดมาจึงแนะนำต่อ "ชื่อติ"
"ชื่อกัวครับ" ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่นั่งติดกับติพูดเบาๆ
"ผมโกครับ" หนุ่มคนที่นั่งถัดไปแนะนำต่อ
"ชื่อคล้ายกันนะ กัวกับโก" ผมทักด้วยอยากให้บรรยากาศกันเองกว่านี้
"คล้ายตรงไหน สระก็คนละสระกัน" เสียงมาจากชายหนุ่มที่ชื่อหงิด
หญิงสาวคนสุดท้ายพูดไม่ยิ้ม "ดิฉันชื่อโทค่ะ" ดูจากท่ากัดเล็บตัวเองก็พอรู้ได้ว่า ผู้หญิงคนนี้มีความในใจอยู่เยอะ
"หัวหน้า...ผมว่าถ้ามัวแต่แนะนำตัวกันอยู่อย่างนี้แล้วเราจะทันทีมอื่นเขาหรือ" หงิดส่งเสียงตามมาอีก
"ขอโทษทีครับ ผมก็แค่อยากให้บรรยากาศของทีมเวิร์กมันดีหน่อย" ผมบอก "ภารกิจของทีมคืออะไรรู้หรือยังครับ"
"พาตะกวดตัวนี้ข้ามแม่น้ำ จากฝั่งนี้ไปฝั่งนู้นพร้อมกับสมาชิกทั้งทีม" คนที่ชื่อติพูดพลางชี้ไปที่ตะกวดที่ล่ามเชือกไว้ที่ต้นไม้ "มาเป็นหัวหน้าเขา ทำไมไม่รู้ว่าภารกิจคืออะไร" ประโยคหลังนี่เขาพูดเบาๆ
"แล้วพวกเราจะข้ามไปกันได้หรือ ดิฉันไม่ได้ว่ายน้ำมาหลายปีแล้ว" หญิงสาวที่ชื่อใสรีบบอก
"อ้าว...แล้วมาอยู่ทีมนี้ทำไม" ติร้องเสียงหลง
"เลือกได้ที่ไหน เราถูกจัดมาอย่างนี้ อย่าทำตัวเป็นหัวหน้าหน่อยเลย" คนชื่อโกส่งเสียงบ้าง
"แต่เรามีเรือนะ" ผมบอก
"เรือมันบรรทุกได้แค่สามคน" ติแย้ง
"มีใครพายเรือเป็นบ้าง" ผมถามเพื่อเปลี่ยนประเด็น
ติยกมือ
"อะไร พายเป็นอยู่แค่คนเดียว" ติเริ่มโวย
"อย่าทำเสียงดังใส่หน้าผมนะ ผมไม่ชอบ" โกลุกขึ้นยืน
"ใครทำเสียงดังใส่หน้าคุณ ทำอะไรไม่เป็นแล้วอย่าทำเป็นพูดดี" ติปล่อยวาจาเชือดเฉือนต่อไป
โกเดินเข้าหาติด้วยความโกรธ ผมเห็นท่าไม่ได้การ จึงรีบเข้าไปดึงมือติออกมาพลางส่งสายตาดุๆ ใส่โก
"แล้วเราจะทำสำเร็จหรือ มีคนพายเรือเป็นอยู่แค่คนเดียว" หนุ่มกัวพูดขึ้น "เขาคัดเอาแค่สามทีมที่ทำภารกิจเสร็จก่อนนะ อย่างนี้เราแพ้แน่ๆ"
"นั่นสิ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย โชคร้ายจริงๆ ที่มาอยู่ทีมนี้" สานบ่นกับตัวเอง
"เอาอย่างนี้ดีไหม เรามาจัดชุดแรกที่จะข้ามแม่น้ำกันดีกว่า สามคนแรกจะเป็นใครบ้าง" ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง
โกโพล่งออกมาอีก "บอกก่อน ผมไม่จับตะกวดนะ ผมเกลียดสัตว์เลื้อยคลาน เรือเที่ยวไหนขนตะกวดไป ผมไม่ไปด้วย"
"เฮ้อ...พายเรือก็ไม่เป็น จับตะกวดก็ไม่จับ" ติทำหน้าหน้ายั่ว โกเดินเข้าหาติอีกครั้ง ผมรีบยึดมือเขาไว้ "ใจเย็นๆ"
"หัวหน้า" ติหันมามองผม "ทำอะไรเป็นบ้างนอกจากห้ามคนนู้นคนนี้" ติเริ่มหันมาเล่นผม
"ใครจับตะกวดเป็นบ้าง" ผมหันไปทางใส บางทีผู้หญิงหน้าใสที่หน้านิ่วคิ้วขมวดคนนี้อาจทำให้บรรยากาศดีขึ้น "ในใบประวัติเขียนไว้ว่าคุณเคยช่วยพ่อจับกิ้งก่า จับงู"
"ค่ะ...ดิฉันเคยทำ แต่ถึงตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว ความมั่นใจไม่รู้มันหายไหนหมด" ใสบอก
"ไอ้คนคิดภารกิจมันสติดีหรือเปล่า ให้จับตะกวดข้ามฝั่ง" หงิดลุกขึ้นพูดแล้วก็เดินไปเดินมา "จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ อากาศยิ่งร้อนๆ อยู่ เสร็จแล้วจะได้กลับบ้านกัน"
ผมพยายามไม่ฟังหงิด "ลองดูสิคุณใส คุณเป็นคนเดียวที่เคยทำนะ"
"ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า" หน้าตาเธอมีแต่รอยลังเลเต็มไปหมด "ตะกวดตัวมันใหญ่กว่ากิ้งก่าเยอะเสียด้วย"
"จะทำอะไรก็ทำเถอะ มัวแต่พูดเดี๋ยวก็แพ้ทีมอื่นหรอก" หงิดเดินหัวโคลงพร้อมกับเสียงบ่น
กัวลุกขึ้นเดินไปชะโงกหน้าดูคุ้งน้ำอีกด้านหนึ่ง แล้วก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนเดินกลับมา "แพ้แน่เลย เราไปลาออกก่อนดีไหม แพ้บายยังเสียเงินน้อยหน่อย"
"โอ้ย...ช่างพูดกันจริ๊งจริง" หงิดยังคงเดินไปเดินมา จนจังหวะหนึ่งขาของหงิดไปเตะโดนหางตะกวดเข้า
"ยุ่งละสิ ตะกวดมันดิ้นใหญ่แล้ว" สานร้องขึ้น
"จับสิ ใครอยู่ใกล้ๆ จับสิ" ติพูดลิ้นรัว ทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่ใกล้ที่สุด
ใสหันไปมองตะกวดแล้วก็กลืนน้ำลายด้วยความไม่มั่นใจ "เร็วสิ" ติเร่ง และในระหว่างที่ใสกำลังลังเลที่จะเดินเข้าไป เจ้าตะกวดตัวสำคัญก็ดิ้นจนเชือกที่ล่ามอยู่ขาด
"ตะกวดหลุดแล้ว!" โกโวยขึ้นคนแรก
"ใส ทำไมไม่รีบจับเล่า" ติมองด้วยสายตาตำหนิ
ถึงตอนนี้ผมชักเริ่มไม่ค่อยอยากพูดอะไรแล้ว
"แพ้แน่ๆ ทีมเราถูกยึดเงินค่าสมัครหมดแน่" สานครวญ
แล้วจู่ๆ โทผู้หญิงที่พูดน้อยที่สุดก็ส่งเสียงขึ้น "ฉันต่างหากที่เป็นคนผิด ฉันหยิบเชือกเส้นเล็กเกินไปมาผูกตะกวด ฉันผิดเอง"
"โท...เธอเองหรือ แย่จริงๆ เลย นี่เธอจะทำตัวให้มีค่าบ้างไม่ได้หรืออย่างไร" ติส่ายหน้า "เธออย่าคิดว่าแค่เธอเคยเป็นแฟนฉัน แล้วเธอจะมาขออาศัยทีมเข้าแข่งง่ายๆ อย่างนั้นนะ"
เสียงหงิดพูดต่อทันทีจนแทบไม่มีช่องว่าง "โอย...มดแดงเต็มไปหมดเลยแถวนี้ เร็วๆ สิ ทำอะไรก็ทำ...น่ารำคาญจริงๆ ทั้งมดทั้งคน"
"แล้วเดือนนี้จะเอาอะไรกิน" สานนั่งก้มหน้า "เอาเงินเดือนมาเป็นค่าสมัครหมดเลย"
แล้วก็มีเสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้นจากโท "ฉันมันแย่จริงๆ...ฉันน่าจะหยิบเชือกอีกเส้นที่ใหญ่กว่านี้หน่อย ฉันเป็นตัวถ่วงอีกแล้ว...ชีวิตฉันไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลย"
"ใส คุณจะลองไปตามจับตะกวดกับผมไหม" หลังจากไม่รู้จะฟังใครดี ผมก็เลยลองชวนใสดูอีกที
"ดิฉันว่าคงยากแล้วละ มันเข้าไปในดงไผ่อย่างนั้นด้วย ถึงตอนนี้ดิฉันว่าแม้แต่กิ้งก่าดิฉันก็คงจับไม่ได้" ใสทรุดลงนั่ง
"ก็เธอเคยทำได้ เธอโง่หรือเปล่า" โกเตะโครมเข้าไปที่เรือที่คว่ำพาดอยู่บนคาน
ติไม่ยอมให้โอกาสตำหนิคนผ่านไป "ทำอะไรสิ้นคิดอีกแล้ว เดี๋ยวเรือพังขึ้นมา เราก็อดข้ามฝั่งกัน" โกได้ยินเข้าจึงเตะโครมเข้าที่เรืออีกครั้ง "จะเตะอีกมีอะไรหรือเปล่า"
"ไม่ว่าจะแข่งอะไรฉันไม่เคยชนะเลย เกิดมามีกรรมแท้ๆ" สานเดินหนีเสียงร้องไห้ของโทออกไปอีกทาง
ผมยืนฟังพวกเขาปล่อยของกันต่ออีกสักประเดี๋ยว ผมก็เริ่มหัวเราะแล้ว
………………………………………….
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผลลัพธ์ในภารกิจของทีมนี้เป็นอย่างไร
ตอนที่เอาใบรายชื่อไปคืนคณะกรรมการ ผมก็เพิ่งได้เห็นชื่อจริงของพวกเขาทั้ง 7 คน อยากรู้ไหมครับว่าเขาชื่ออะไรกันบ้าง
ชื่อจริงของสานคือสงสารตัวเอง ส่วนสาวใสชื่อคล้ายน้องสาวนั่นคือสงสัยตัวเอง พี่หงิดของพวกเรานั้นชื่อน่ารักว่าหงุดหงิดง่าย คุณโกนั่นชื่อเต็มว่าโกรธาหาเรื่อง ส่วนคุณกัวตี๋น้อยมีชื่อเต็มๆ ว่ากลัวความล้มเหลว นายตินั้นชื่อเต็มยาวกว่าใครว่าติเตียน แต่คนอื่นและคนสุดท้ายน้องโทที่นั่งร้องไห้มีชื่อเก๋เหลือเกินว่าโทษตัวเอง
สำรวจกันสิครับว่าใครมีเจ็ดอันตรายคนไหนสิงอยู่ในตัวบ้าง นักขวางภารกิจตัวกลั่นเลยพวกนี้
ยิ่งถ้าพวกเขารวมตัวกันเมื่อไร ดรีมทีมเลยล่ะครับท่านผู้อ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น