วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รวบรวมข้อคิด คำคม จาก ประภาส ชลศรานนท์

รวบรวมข้อคิด คำคม จาก ประภาส ชลศรานนท์ 
 
The overgrown grasses in the backyard might be useless.
But for the ants, the clump of grasses produces oxygen for thousands of them to breathe.
"หญ้ารกๆ หลังบ้านอาจจะไร้ประโยชน์เหลือเกิน แต่สำหรับมดแล้ว หญ้ารกๆ กอนั้นสามารถผลิตออกซิเจนไว้ให้มดเป็นพัน ๆ ตัวไว้ใช้ดมได้"

"แท่งดินสอทำให้เรามองเห็นว่าถึงแก่นจะสำคัญเพียงไร แต่กระพี้นี่แหละเป็นตัวทำให้แก่นทำหน้าที่สำคัญลุล่วง"

Knowing oneself and recognizing oneself are the best medicine to cure loneliness
การรู้จักตัวเองและยอมรับตัวเองคือยารักษาความเหงาขนานดี

One does not study just to earn ones living. Learning,
in school or elsewhere, is not only for making a living,
but also for making it a good one.
คนเราไม่ได้เรียนวิชาเพื่อเอาไปประกอบอาชีพเพียงอย่างเดียว
การเรียนรู้ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือที่ไหน
นอกจากเอาไว้ประกอบอาชีพแล้วเราเรียนเพื่อจะเป็นมนุษย์ที่ดีด้วย

Money and power do not change people. They just enlarge what already exists.
เงินและอำนาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงคน มันเพียงแต่ขยายสิ่งที่มีอยู่ให้ใหญ่ขึ้น

Respect different ideas is the most important component of love
การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างนั่นแหละ เป็นส่วนประกอบอันสำคัญที่สุดของความรัก

When you claim,"I will achieve my dream" are you awake?
เวลาที่เราพูดว่า"เราจะทำให้ได้ดังฝัน"เราพูดตอนที่ตื่นอยู่หรือเปล่า

We tend to mess up our relationships
คนเราชอบทำซุ่มซ่ามกับสัมพันธภาพกันได้ง่ายๆ

มนุษย์เรานั้นเกิดมาจากศูนย์ และในที่สุดก็กลับไปหาศูนย์เหมือนกับเอกภพ ....

whenever we try to chase a butterfly , it will fly away.
but whenever we sit down quietly , with peace of mind
and body , there always come beautiful butterflies
fluttering around us. such is the same with happiness.
ทุกครั้งที่เราวิ่งไล่จับผีเสื้อ มันจะยิ่งบินหนีจากเราไป
แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานั่งลงเงียบๆ นิ่งทั้งกิริยาและนิ่งทั้งหัวใจ
ผีเสื้อแสนสวยจะโบยบินมาอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
ความสุขก็เป็นอย่างนั้น

" Does a hero need a uniform ? "
ยอดมนุษย์จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบด้วยหรือ?

ที่ใดก็ตามเมื่อมีการพิจารณา ที่นั่นก็ต้องการถกเถียงตามมาเป็นธรรมดา

ก็ด้วยจินตนาการตัวนี้นี่เอง มนุษย์จึงมาอยู่ไกลถึงเพียงนี้ ไม่ได้เป็นสัตว์ขนยาวที่แอบอยู่ตามหลืบถ้ำอีกต่อไป

มนุษย์แต่ละคนมีสิ่งพิเศษในตัวเองที่คนอื่นไม่มี อย่างน้อยก็หนึ่งอย่างกับแทบทุกคน ...

Stamping other people to the ground on the basis of racial differences is just chidish.
Humans should respect others from the heart not by the race.
การเหยียบอีกฝ่ายหนึ่งให้จมโดยใช้ชาติพันธุ์มาแบ่งแยก
ยอมรับได้แค่เป็นความคิดของเด็กๆ เท่านั้น
มนุษย์น่าจะยอมรับนับถือมนุษย์ด้วยกัน
ที่ข้างในหัวใจมากกว่านับถือกันที่ชาติพันธุ์

คนที่ฉลาด...คือคนที่รู้ว่าเขาควรจะแสดงความฉลาดออกมาเวลาใด

“หนังสือคือ เครื่องมือเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์”

A half-truth is a whole lie.
พูดความจริงครึ่งเดียว ก็คือการโกหกทั้งหมด

"มีแต่ความดีเท่านั้นแหล่ะครับ ที่มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น"
"It is only the virtuousness that differentiates human beings from other creatures."

"เพราะมนุษย์เกิดมาจากธรรมชาติ ยิ่งเรากลับไปหามันมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับเรากลับเข้าไปใกล้ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น"
"Human beings come from nature. The more we get back to it, the closer we get ourselves."

"สงครามของมนุษยชาติ ก็เกิดจากไม้บรรทัดคนละอันทั้งนั้น"
"Human wars all stem from clinging to different yardsticks."

There are seasons in human life.
We cannot force the season to change at will.
For those so imbedded in sorrow,
if they come to realize that human life does not have
only one side or one season,
they might be able to deal with the sorrow
and be prepared to face the different seasons in life.

ชีวิตมนุษย์ก็มีฤดูกาล เราไม่สามารถบังคับให้เกิดฤดูกาลได้ตามใจเรา
สำหรับคนที่ทุกข์ตรมอย่างแสนสาหัส ถ้าคิดได้อย่างนี้ว่า
ชีวิตมนุษย์ไม่ได้มีด้านเดียว ไม่ได้มีฤดูเดียว
บางทีเราอาจจะทำใจและเตรียมใจสู้กับฤดูกาลของชีวิตแต่ละฤดูได้

Do your best with whatever in your hands, and forget about what out of reach.

สิ่งที่อยู่ในมือเรา จงทำมันให้เต็มที่
สิ่งที่อยู่นอกมือเรา อย่าไปยุ่งกับมัน

Unsolvable puzzles and problems may come from self-created illusions.

บางครั้งสถานการณ์หรือปัญหาที่เราเห็นว่าแก้ไม่ได้ มันอาจจะเกิดจากภาพลวงตาของเราเอง

คนเราสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้ตลอดชีวิต
ไม่ว่าจะใช้มันเป็นวิชาชีพหรือไม่ก็ตาม

การทำงานด้วยความชอบอย่างเดียวนั้นไม่พอ
ต้องหลงมันชนิดโงหัวไม่ขึ้นเท่านั้น จึงจะสามารถสร้างงานชนิดเปลี่ยนโลกได้
ถ้าเราทำสิ่งที่เรารัก เราจะอยู่กับมันได้นาน....
หรือถึงแม้จะรักในงานที่ทำก็อาจจะไม่เพียงพอ แต่เราต้องถึงขั้นคลั่งไคล้มันเลยล่ะ...

"ศรัทธา ทัศนคติมนุษย์เราทำอะไรก็ได้ ถ้าทำด้วยศรัทธาละก็มันจะมีพลังมหาศาล ไม่คิดถึงตัวเอง ไม่คิดว่าคุ้มไม่คุ้ม อย่าไปบวกลบคูณหาร ไม่ว่าจะเรื่องเวลา เรื่องเงินทอง เรื่องเเรงกาย ซึ่งมันเหมือนคนจิตว่าง มันเป้นการทำเพื่อธรรม ไม่ใช่ทำเพื่อทอง ทำเพื่อทน หรือทำเพื่อเท่ ศรัทธาจะเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้เราเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนทัศนคติดีๆมันจะควบคุมพลังอันมหาศาลของตัวศรัทธาได้"

"คนเราเกิดมาเพื่อรักคนอื่น มันเป็นสิ่งให้เรายึดไว้ ทำให้ตัวเองมีคุณค่ากับคนอื่น มีเราอยู่แล้วคนอื่นดีขึ้น"

@ ทุกครั้งที่เราวิ่งไล่จับผีเสื้อ มันจะยิ่งบินหนีจากเราไป...แต่เมื่อใดก็ตามที่เรา นั่งลงเงียบๆ นิ่งทั้งกริยา นิ่งทั้งหัวใจ...ผีเสื้อแสนสวยจะโบยบินมาอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ...ความสุขก็เป็นอย่างนั้น...

@ ผลงานอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ ล้วนเกิดจาก
จินตนาการทางศิลปะและผลงานอันเกรียงไกรทางศิลปะ
ก็ล้วนเกิดจากแรงส่งทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น

@ ทุกคนมีเส้นรอบวง ของตัวเอง มีโลกของตัวเองมีหัวใจของตัวเองที่จะตัดสินใจว่า จะเลี้ยวซ้าย เลี้ยว ขวา เดินหน้าถอยหลัง ...

@ ผู้ชายมักจะเฮงซวยกับเรื่องความละเอียดอ่อนของความรักเสมอ คำว่าเฮงซวยหมายถึง อาการที่ไม่ค่อยจะละเอียดอ่อนของความรู้สึกของผู้หญิง

@ to hear the music, use tour heart.
to hear the silence, use your brain.
ได้ยินดนตรีด้วยหัวใจ
ได้ยินความเงียบด้วยสมอง

@ sometimes we set a very concrete goal in life
and overlook the happiness and dreans along the way.
บางทีคนเราก็มองเป้าหมายของชีวิตเป็นรูปธรรมมาก
จนละเลยความสุขและความฝันที่อยู่ระหว่างทาง

@ คนเราชอบทำซุ่มซ่ามกับสัมพันธภาพกันได้ง่ายๆ

@ discover your own faith and work with that faith.
หาศรัทธาตัวเองให้เจอและทำงานด้วยศรัทธานั้น

@ " Love " should be the best answer for life.
" ความรัก " น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับชีวิต


@ คนเรานั้นสิ่งใดก็ตามที่ทำด้วยความรักมันมักจะได้ผลดีเสมอ

@ เด็กทุกคนเป็นเหมือนผ้าขาว แต่เป็นผ้าขาวคนละเนื้อ แต่ละคนซึมซับสีสันที่เราแต่งแต้มลงไปได้ไม่เหมือนกัน เรียนรู้ได้ไม่เท่ากัน เก่งได้ไม่เท่ากัน ตามลักษณะของเนื้อผ้าแต่ทุกคนเป็นคนดีได้เท่ากัน

@ มนุษย์ทุกคนเกิดมามีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น
แต่ทุกคนก็มีสิทธิที่จะมีชีวิตบนโลกใบนี้
อย่างมีความสุขบนวิถีของตัวเอง
จนกว่าจะลาจากโลกใบนี้ไปโดยไม่ทำร้ายคนอื่น

@ มนุษย์เราต้องมีความรับผิดชอบ
นักเขียนต้องรับผิดชอบต่อคนอ่านที่รออ่านอยู่
นักแต่งเพลงต้องรับผิดชอบต่อคนฟัง
คนจับกุ้งต้องรับผิดชอบต่อคนกินกุ้ง
เรื่องเงินค่าตอบแทนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

@ ความเคารพกับการวิเคราะห์วิจารณ์เป็นคนละเรื่องกัน
ถ้ามันจะมาด้วยกันมันก็ไม่น่าทำให้อีกอันหนึ่งด้อยลง
บางวันสังคมก็ตบมือให้เรา บางวันสังคมก็ตีก้นเรา
แต่แม้ว่าเราจะเจ็บก้นเท่าใดก็ตาม
ความคิดที่จะทำอะไรดีๆเพื่อสังคม
ก็ไม่ควรระเหยไปจากใจเรา
เพราะมันคนละเรื่องกัน

@ บางอย่างในชีวิตเราก็ไม่ได้ใช้เหตุผลตัดสินใจ ใช้แต่สัญญาเท่านั้น

@ ความไม่ปล่อยวางนั้นแหล่ะครับคือมูลก้อนใหญ่ที่แมลงชื่่อใจร้อนชอบมาตอม

@ คนเราถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง แล้วจะหาความภูมิใจจากที่ไหนได้

Competition is not a bad thing that needs to be rejected.
People make a fuss about it or suffer from it merely
because they do not acquire the right spirit.
@ จะว่าไปการแข่งขันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรที่ต้องปฏิเสธ
ที่มันวุ่นวายหรือระทมทุกข์กันอยู่
ก็เพราะว่า รู้แพ้รู้ชนะกันไม่เป็นต่างหาก

คำว่า LISTEN กับ SILENT มีตัวอักษรเหมือนกัน
แต่สะกด และมีความหมายต่างกัน

we cannot change anything,
if we don't change the attitude first.
คนเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าไม่เปลี่ยนทัศนคติก่อน

Too much anxiety about what has yet to happen is like high electrical resistance.

Too much of it in the circuit dims the bulbs.
when you love someone so much,
you would feel yourself smaller than your beloved.
In turn,
if you are loved so much,
you would feel yourself bigger
- - - - - - - - - - -
เวลาที่เรารักใครมากๆนั้น
ตัวเราจะเล็กลงเมื่อเทียบกับคนที่เรารัก
และเวลาที่เราถูกใครสักคนรักมากๆ
ตัวเราก็จะใหญ่ขึ้นเช่นกัน

“เรียนอะไรมา ก๊เป็นนักเขียนได้ อ่านเยอะๆ เขียนมากๆ มีตระกร้าใบโตๆก็พอแล้ว”

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นิพพานที่นี่และเดี๋ยวนี้



จิตถึงนิพพานได้ ต้องละอุปาทาน ละความยึดมั่นถือมั่น อวิชชา 
ต้องควบคุม รู้ทัน ผัสสะ และเวทนา เพื่อไม่เกิดอุปาทาน
เมื่อคุณบังคับความรู้สึกได้ครั้งหนึ่ง เมื่อนั้นแหละ
คือสร้างบารมี ครั้งหนึ่ง.
 ถ้าคุณปล่อยจิต ไปตามอารมณ์
ก็เพิ่มๆๆๆ บวกๆๆๆ อนุสัย; บังคับจิตไว้ได้, กูไม่ไปอร่อยกับมึง.
บังคับจิตไว้ได้อย่างนี้ ทีหนึ่ง มัน ลบๆๆๆหนึ่งๆๆ อนุสัยมันเป็นลบ;
ไม่เท่าไรมันก็หมด มันไม่มีพื้นฐานรากฐาน ไม่มีเดิมพันที่จะเกิด
กิเลส ก็เป็นนิพพานโดยสมบูรณ์ 
 ระวังทำให้อุปาทานลดลง จะถึงนิพพานโดยลำดับ

สุขเพราะไร้ทุกข์   สุขเพราะสงบ  สุขเพราะปราศจากความกังวลใจ  สุขเพราะไม่ต้องร้อนใจในเรื่องใด ๆ  สุขเพราะปราศจากเรื่องกระวนกระวายใจ  สุขเพราะจิตเป็นเอกไม่แปรปรวนตามปัจจัยอื่นใด

พระนิพพานเป็นสุขเพราะพ้นจากอุปาทานักขันธ์ ๕ คือ พ้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ดับไป เกิดขึ้นไม่ได้อีก



นิพพาน ปรมัง สุขขัง

หน้าต่าง 4 บาน โจฮารี

" การใช้จิตวิทยาในการสื่อสารระดับบุคคล "ซึ่งเอ้เชื่อว่าคนเราต้องมีการพูดจาปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ
หรือการติดต่องานกันอยู่แล้ว
ยิ่งการพูดสื่อสารกับเพื่อนๆ ในชีวิตประจำวันด้วยแล้ว
เอ้ว่า การรู้จักเขาและทำความเข้าใจในตัวเรา นั้นสำคัญมาก....
เห็นได้จากเหตุผลของคนที่เลิกคบกัน
กว่า 75 เปอร์เซ็นเป็นเพราะการพูดจาไม่เข้าหูกัน
ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน คบหากันมานาน
แต่ต้องทะเลาะกันเพราะ " พูดไม่เข้าหู "

ทฤษฎีนี้มีชื่อว่า ทฤษฎีหน้าต่าง 4 ช่อง
กรุณาดูภาพและทำความเข้าใจกันอย่างง่ายๆ ก่อนนะครับ....



เปิด หรือ Open
ตนเองรู้ และ คนอื่นรู้ 

บอด หรือ Blind
คือ คนอื่นรู้ แต่ตัวเองไม่รู้ 

ซ่อนเร้น หรือ Hide
คือ คนอื่นไม่รู้ แต่เรารู้ 

สุดท้าย คือ ลึกลับ หรือ Unknow
คือ ทั้งคนอื่นและเราก็ไม่รู้ 
Johari Window


·       พื้นที่สาธารณะ OPEN , Arena   : เป็นพื้นที่ที่ตนเองและผู้อื่นรู้ซึ่งจะเรียกว่าเป็น พื้นที่เปิด พฤติกรรมที่แสดงออกในพื้นที่นี้ไม่จำเป็นต้องมีการปกป้องตนเอง ซึ่งจะรู้จักคุ้นเคยทั้งตนเองและผู้อื่นรอบข้าง เช่น ความมีหน้ามีตาในสังคม เป็นต้น
·       พื้นที่ลับ  SECRET , Facade : ได้แก่ พื้นที่ที่คนนั้นรู้จักตนเอง แต่ผู้อื่นไม่รู้ ซึ่งจะเรียกว่า พื้นที่ซ่อนเร้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทุกคนจะเก็บเป็นความลับเพราะกลัวว่าผู้อื่นจะทำการโต้ตอบ ความลับนี้มักเป็นเรื่องของความรู้สึก เจตคติ และพฤติกรรม
·       พื้นที่บอด BLIND,Blind Spot : ได้แก่พื้นที่ของคนๆ นั้น ที่คนอื่นรู้จักแต่ตนเองไม่รู้ ซึ่งเป็นพื้นที่บอดสำหรับตนเอง เพราะคนอื่นอาจจะไม่บอกกล่าวให้เจ้าตัวรู้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่พอใจและเรียกพื้นที่นี้อีกอย่างหนึ่งว่า พื้นที่กลิ่นไม่สะอาด
·       พื้นที่มืด UNKNOWN : เป็นพื้นที่ที่ตนเองไม่รู้และผู้อื่นก็ไม่รู้ แต่เป็นที่บรรจุขีดความสามารถและความถนัดต่างๆ ที่ยังไม่ค้นพบ และยังไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งเรียกพื้นที่นี้ว่า อนาคต หรือ ไม่ค้นพบ หรือเรียกง่ายๆ ว่า พื้นที่ไม่ทราบ

                                หน้าต่างโจฮารี มีประโยชน์หลายอย่าง ประการหนึ่งในแง่ของการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นถ้าเราพร้อมที่จะเปิดตนเองต่อผู้อื่นมากเพียงใด คนอื่นก็พร้อมที่จะสนองตอบมากเพียงนั้นเป็นผลต่อการขจัดสิ่งขวางกั้นและการเป็นอยู่ทางสังคม ทำนองเดียวกันในขณะที่เปิดตนเอง เราอาจจะได้ผลสะท้อนกลับ  อีกประการหนึ่งในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เรารู้จักคนอื่นมากเท่าไรเราก็ยิ่งมีความเข้าใจและเรียนรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนมากขึ้นเท่านั้น
                นอกจากนั้นยังช่วยพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการที่มีอาชีพอิสระที่มีความสามารถมีความเชื่อมั่นในตัวเอง สามารถแก้ปัญหาด้านต่างๆ กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ลูกค้า ผู้จัดจำหน่าย ข้าราชการ คู่แข่ง เป็นต้น สามารถใช้ความคิดรวบยอดของหน้าต่างโจฮารีเป็นแนวทางในกหารสร้างกลยุทธ์  ในการแก้ไขปัญหา เช่น ผู้ประกอบการอาจจะเปิดเผยความในใจเรื่องวิธีการจัดการและเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ของเฒ่าแก่ นายธนาคาร แต่กับคู่แข่งแล้วเขาจะเปิดเผยพื้นที่ให้น้อยที่สุด
                ในทำนองเดี่ยวกันนี้เราสามารถใช้หน้าต่างโจฮารีเป็นกลยุทธ์เพื่อการเจรจาต่อรอง ถ้าท่านรู้ข้อมูลของคู่แข่ง หรือรู้ความต้องการของคู่แข่งมากเท่าไร นั่นก็หมายความว่าท่านได้เปิดพื้นที่ซ่อนเร้นของคู่แข่งและอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบในการต่อรอง ซึ่งมีโอกาสที่จะชนะ

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บางบทบางตอนจากหนังสือ "ปั้นมากับมือ"

บางบทบางตอนจากหนังสือ "ปั้นมากับมือ"


ความรักนั้นคล้ายของไหล
ไม่เข้าใครออกใครหรอกลูกเอ๋ย
แต่มักไหลไปข้างคนที่คุ้นเคย
หากเฉยหากห่าง ไหลต่างกัน

ความรักใช่วัตถุคงรูป
เดี๋ยวพองเดี๋ยวซูบลดหลั่น
มีขึ้นมีแรมไปตามวัน
ฉะนั้น..ระวังให้ดี

ดังบอกแล้วความรักคลายของไหล
หมายความว่า มันไม่คงที่
เต็มเปี่ยมเฉพาะวันนี้
ลดลงทันทีเมื่อรุ่งเช้า

เมื่อรู้สภาพของของไหล
อย่าปล่อยตัวปล่อยใจให้ว่างเปล่า
จงรักคนรอบข้างอย่างบางเบา
อย่ารักอย่างมัวเมาหลงงมงาย

อย่าปล่อยรักเปี่ยมล้นจนถึงขอบ
จะผิดหวังช้ำบอบเสียง่ายๆ
อย่าเกลียดชังเอาเป็นเอาตาย
เพราะใจเราเปลี่ยนได้เหมือนสายน้ำ

แม่เคยหลงรักคนจนแทบคลั่ง
ต่อมาเกลียดชังขั้นเหยียบย่ำ
ที่รำคาญไม่อยากเห็นเป็นประจำ
กลับมาคร่ำครวญตอนหลังก็ยังมี

ลูกเอ๋ยความรักเหมือนของไหล
รู้แน่แก่ใจไม่คงที่
ควบคุมของไหลให้ดี
ไหลรินสู่ที่ชอบและควร

โดย เตือนใจ บัวคลี่ 

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อย่าโกรธกันเลย

เวลาเถียงอะไรกับใครสักคน นอกจากจะคิดว่าความคิดของคนนั้นผิด ลึกๆแล้วเราก็มักจะคิดว่าความคิดของตัวเองน่ะถูก 

ทักษะสัมพันธ์ (ฉบับส่วนตัว): 
เราผิด จงขอโทษ
เราโกรธ จงทำความเข้าใจ
หากเขาอธิบายแล้วยังไม่เข้าใจ ถ้าอยากคบกันต่อไป จงให้อภัยกัน
โดยนิ้วกลม

ฉะนั้นก็ต้องใช้สติกันสักนิด เอาความคิดของตัวเองออกไปก่อน กันจะไปตัดสินคนอื่น

ถ้าผิด จงขอโทษ
ถ้าโกรธ จงทำความเข้าใจ
หากอธิบายแล้วยังไม่เข้าใจ ถ้าอยากคบกันต่อไป จงให้อภัยกัน

โดยเฉพาะเมื่อไหร่เป็นคนพิเศษของเราด้วย

ใครไม่รู้นะครับเคยบอกผม

คุณพร้อมจะให้อภัยเค้ากี่ครั้ง (ถ้าเป็นผม ผมตอบไม่รู้) ----(เค้าตอบมาว่า) ทุกครั้งที่เค้าทำผิด

หล่อมาก


วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คนเราก็มีดีบ้างชั่วบ้าง สนใจมันทำไมมากมาย

ความรักไม่ได้มีไว้เพื่อพิสูจน์ ทั้งในนิทานและชีวิตจริง

บางครั้งเราก็ต้องกลับมาคิดว่าบางอย่างมันไม่จำเป็นในชีวิตเราเลย เราจะไปเครียดกับมันทำไม

".. ถ้าไม่รู้จักทุกข์ มันก็ทุกข์ 
ถ้ารู้จักทุกข์ มันก็ไม่ทุกข์ ..."

หลวงปู่ชา สุภทฺโท

ส่วนใหญ่การคิดให้ง่าย กลับทำได้ยาก

ไม่ว่าเราจะเรียนสูงส่งเพียงใด ถ้าตราบยังไม่รู้อยู่ ยังยึดติดอยู่ ก็ยังไม่เพียงพอ

แค่ยอมรับนี่คือเรื่องจริง ที่เราต้องเจอ แค่นั้นเอง
อย่าเสียเวลาหาคำตอบ อย่าเสียเวลา แม้มันจะนานแค่ไหน
ถึงแม้จะรู้ในคำตอบ รู้แล้วจะทำให้เราดีขึ้นไหม แค่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง

ในหลายๆครั้งคนเรามักชอบตั้งคำถ­ามกับตัวเอง เพื่อที่จะหาคำตอบในเวลาที่เราผ­ิดหวังหรือเสียใจ แต่ในทุกๆครั้ง เราก็มักจะไม่เจอคำตอบที่ชัดเจน เพราะสุดท้าย สิ่งที่เราทำได้ และทำได้ดีที่สุด ก็คือการยอมรับในความเปลี่ยนแปล­ง....แค่นั้นเอง

จริงๆเท็จๆ เท็จๆจริงๆ ชีวิตคนความจริงเป็นละครบทหนึ่ง ไยต้องยึดถือเป็นจริงเป็นจังไป ? (แค้นสั่งฟ้า น. 100)

เรามองหาอะไรกันอยู่ อย่าลืมมองหาความหมายของเราด้วย

ความฝันไม่มีขา ความสำเร็จไม่มีขา เรามีขาต้องเดินไปหามัน

ยิ่งโตขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งอยากกลับไปเป็นเด็ก

“เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเหลือเกิน. .เวลาที่ใครรักเรา.เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน. .แต่ถ้าเราเจอคนที่รักกัน เราจะผลัดกันตัวเล็กตัวใหญ่.” ชอบจังเลย เพราะส่วนใหญ่คนที่อยู่รอบๆตัวเรา เค้ามักจะอยากเป็นคนตัวเล็กๆ ที่มีความสุข มากกว่าคนตัวใหญ่ๆที่รู้สึกผิด เพราะบางทีการถูกรักมากเกินไป ก็อึดอัด 

when you love someone when you love someone so much, you would feel yourself smaller than your beloved. In turn,if you are loved so much,you would feel yourself bigger
คำบางคำจากคุณประภาส ชลศรานนท์

ความรักจะมีความสุข ถ้าผลัดกันตัวเล็กบ้าง ผลัดกันตัวใหญ่บ้าง อย่างเหมาะสมนะครับ
ตัวเล็กมากเกินไปมันก็ไม่มีค่า
ตัวใหญ่เกินไปบางทีก็อึดอัดนะครับ

จงใช้ชีวิตโสดในแบบฉบับที่คนมีแฟนเห็นแล้วต้องอิจฉา