วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มาทดสอบกันว่า คุณยังเป็นคนที่องค์กรต้องการหรือไม่‏

มาทดสอบกันว่า คุณยังเป็นคนที่องค์กรต้องการหรือไม่‏






เร็วๆนี้องค์กรของผมเพื่อจัดกิจกรรมเพื่อสร้างแรงจูงใจ เพื่อต่อสู้ฟันฝ่าเพื่อเอาชนะปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี ผมซึ่งอยู่ฝ่ายพัฒนาองค์กรก็เลยคิดเกมสนุกๆแบบเกมวัดดวงมาเล่นกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในหลายๆกิจกรรมในวันนั้น แต่เป้นเกมจาก OD ทั้งทีต้องไม่ธรรมดา ต้องสอดแทรกแนวคิดในการเป็นพนักงานที่ดี ทั้งด้านทัศนคติ ความเชื่อ และความรักองค์กร เกมนี้เน้นด้านทัศนคติที่ดีในการเป็นพนักงานที่องค์กรต้องการ ลองทำนะครับ เพียงแค่ ๗ ข้อเอง
เริ่มข้อแรก พนักงานยังไม่โดนหลอกครับ เพราะยังง่าย เอ้า...เลือกคับ 1 หรือ 2














ถ้าคุณเลือกข้อ ๒
ตกรอบแรกเลยครับ
เพราะองค์กรต้องการคนรักดี-หามจั่ว ไม่ต้องการคนรักชั่ว-หามเสา
เอา ไปต่อกันครับ .................
...........................................................

















ถ้าคุณเลือก ข้อ ๑
คุณตกรอบ
เพราะว่า คุณเป็นคนที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ไม่ช่วยองค์กรและยังทำลายองค์กรอีกด้วย แบบนี้ตกรอบ องค์กรไม่ต้องการแล้วองค์กรต้องการคนแบบใดครับ ต้องแบบข้อ ๒ ขยัน "ขันแข็ง"ครับ
ดูภาพต่อมาแล้วเลือกครับ ................

...........................................................


...........................................................











ถ้าคุณเลือก ข้อ๑ คุณเข้ารอบครับ เพราะสภาวการณ์เช่นนี้ เราต้องทำงาน"ตัวเป็นเกลียว"ครับ ไม่ใช่แบบข้อ ๒ ถึงแม้จะน่ารัก แต่ไม่ดีเลยครับ เพราะ ขี้เกียจ "ตัวเป็นขน"





















ข้อนี้เริ่มยากครับ
ลองคิดดูดีดี มีเวลาครับ
หนึ่ง
...
สอง ........
สาม ...................
เลือกครับ
ถ้าเลือก ๑ คุณ เข้ารอบ เพราะ คุณทำอะไร ก็"เข้าท่า" สำหรับคนที่เลือก "ไม่เข้าท่ายังลอยเรืออยู่กลางทะเล" ตกรอบครับ เราต้องการคนที่ทำอะไรดูเข้าท่า ทั้งช่วยองค์กรขยายตลาด ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น บริการลูกค้าให้ดีครับ
...........................................................



ข้อต่อมาเป็นเรื่องผลไม้ครับ
ใช่ครับ "ท้อ"




















เอ๊ แล้วมันท้อเหมือนกัน จะเลือกอย่างไร
ถ้าคุณเลือก ข้อ ๒
แสดงว่าคุณเป็นคน
"ย่อท้อ" เพราะท้อมันถูกย่อให้เล็กลง เราต้องการคนที่ทำงานไม่ย่อท้อ ข้อ ๑ เข้ารอบตอนนี้ พนักงานที่ร่วมเล่ยเกือบ ๘๐๐ คน เหลือไม่ถึง ๑๐ คนครับ เพราะโดนหลอก แต่สนุกๆ ไม่ถือสา ระหว่างเฉลย ผมก็บรรยายตามที่เขียนครับ พนักงานก็ค่อยๆซึมซับไปครับ เป็นการเรียนรู้แบบหนึ่งครับ เอา ข้อต่อไปครับ ......
...........................................................












ครับ ลูกไหน












ถ้าคุณ
เลือก 2 "ไม่เอา (ลูก)ไหน" คุณตกรอบครับ
เพราะตอนนี้ คนไม่เอาไหน ไม่เป็นที่ต้องการครับ

...........................................................


















สุดท้ายข้อชิงชนะเลิศ
ถ้าคุณเลือก
2 ไข่ คุณแพ้ครับ
เพราะที่ถูกต้องคือ คุณต้อง "เอาถ่าน"ครับ คนไม่เอาถ่าน องค์กรไม่อยากได้ครับ จากการทำกิจกรรมนี้ พนักงานสนุก ได้ข้อคิด และ ร่วมแรงร่วมใจเป็นคนที่มีทัศนคติ บุคลิก และค่านิยมแบบที่องค์กรต้องการครับไม่ต้องตกใจถ้าตอบผิดมาก เพราะสิ่งที่ต้องการให้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ ค่านิยมของการเป็นพนักงาน หรือเป็นผู้ประกอบการที่ดีครับ ลองนำไปทดสอบกับคนในองค์กรนะครับ

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

online learning tool‏

online learning tool‏
From: à©ÅÔÁªÑ àÍ×éÍÇÔÃÔÂÐÇÔ·Âì (konkum2000@yahoo.com)
Sent: Fri 7/27/07 2:31 PM
To: chalermchai_a@hotmail.com; konkum2000@yahoo.com; torostudio@hotmail.com; pokjung@hotmail.com
http://www.unesco.org/cgi-bin/webworld/portal_freesoftware/cgi/page.cgi?d=1&g=Software/Courseware_Tools/index.shtml

http://www.nwlink.com/~donclark/knowledge/knowledge_typology.html

http://edubuntu.com/Download


http://www.kaboodle.com/supriya97/Knowledge-Management.html

http://dmoz.org/Reference/Knowledge_Management/Software/

http://www.manageability.org/blog/stuff/open-source-document-repository/view

http://www.manageability.org/blog/stuff/open-source-learning-management-systems/view

http://www.unescap.org/icstd/events/documents/egm_km/Pan.ppt

http://resources.ecommercetimes.com/search/keyword/ecommercetimes/Open%20Source%20Knowledge%20Management%20Portal/Open%20Source%20Knowledge%20Management%20Portal

Tri-Force - Open Source Solutions
http://www.triforce-inc.com/pages/open_source.htm

KnowledgeTree - Document Management System -
http://www.knowledgetree.com/About

Developing an Enterprise Web-Based Knowledge
Management System ...
http://whitepapers.zdnet.co.uk/0,1000000651,260159178p,00.htm

http://www.insead.fr/CALT/Encyclopedia/ComputerSciences/Groupware/Workflow/

Knowledge Management and Solutions
http://www.folden.info/knowledgemanagement.shtml

http://www.inspired.org/KMinAcademicAdmin.pdf

http://www.ednes.org/ist4balt/materials/presentations/seminarTradeFair/Bigelis_Zalatorius.ppt

รัก ใครได้ขนาดนี้อ๊ะเป่า ??



A girl and guy were speeding over 100 kmph on the road on a motorcycle...

ชายหญิงคู่ หนึ่งเร่งมอ`ไซค์กว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Girl: Slow down. Im scared.
ช้าๆหน่อยสิ เค้ากลัวนะ

Guy: No this is fun.
ไม่เอาอ่ะ สนุกมากเลย

Girl: No its not. Please, its too scary!
ไม่ตลกนะ ขอร้องล่ะ เค้ากลัวมาก จริงๆ

Guy: Then tell me you love me.
งั้นบอกผมก่อนสิ ว่ารักผม

Girl: Fine, I love you. Slow down!
ก็ได้ เค้ารักตัว ลดความเร็วลงสิ

Guy: Now give me a BIG hug.
แล้วก็กอดผมแน่นๆ

Girl hugs him
และเธอก็กอดเขา

Guy: Can you take my helmet off & put it on yourself? Its bugging me.
เอาหมวกกันน็อคผมไปใส่สิ ผมรำคาญน่ะ

In the paper the next day :( A motorcycle had crashed into a building because of brake failure.
วันต่อมา หนังสือพิมพ์ลงข่าว มอไซค์ชนตึก เนื่องจากเบรค แตก

Two people were on it, but only one had survived.
มีคน นั่งมอไซค์ 2 คน แต่ว่า รอดคนเดียว

The truth was that halfway down the road, the guy realized that his brakes broke, but he didn't want to let the girl know.
ความจริงคือ ทางสายนั้นเป็นครึ่งสายลาดลง ผู้ชายรู้ว่าเบรคเขา แตก แต่ก็ไม่อยากใฟ้แฟนสาวรู้

Instead, he had her say she loved him & felt her hug him one last time, then had her wear his helmet so that she would live even though it meant that he would die.
แทน ที่จะบอกเธอ เขาให้เธอบอกรักและรู้สึกถึงอ้อมกอดเธอเป็นครั้งสุดท้าย แล้วให้ เธอ ใส่หมวกกันน็อคเพื่อเธอจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ถึงแม้เขาจะตายไปก็ ตาม

คนที่เป็นเพื่อน


** คน ที่เป็น เพื่อน ** ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับเดียวกัน

ไม่จำเป็นต้องมีฐานะเท่าเทียมกัน

ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าเทียมกัน
ถ้าคิดแบบนั้น คุณจะไม่มีเพื่อนแท้ดีๆเลยสักคน
คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง
คอยฟัง ยามเพื่อนขอ
คอยรอ ยามเพื่อนสาย
คอยพาย ยามเพื่อนพัก
คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์
คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
คอยง้อ ยามเพื่อนงอน
คอยสอน ยามเพื่อนผิด
คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ
คอยเจอ ยามเพื่อนหา
คอยลา ยามเพื่อนกลับ
คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว
คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน
คอยหอน ยามเพื่อนเห่า
คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ
คอยอุบ ยามเพื่อนปิด
คอยคิด ยามเพื่อนถาม
คอยปราม ยามเพื่อนหลง
คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง
คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
คอยอด ยามเพื่อนทาน
คอยคาน ยามเพื่อนล้ม
คอยชม ยามเพื่อนชนะ
คอยสละ ยามเพื่อนชอบ
ส่งให้คนที่คุณคิดว่าเค้าเป็น... ' เพื่อน' และอย่าลืมส่งกลับให้กับ ' เพื่อน' คนที่ส่งมาให้คุณ เพื่อนที่
รักเราหาไม่ง่ายเลย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีแล้ว จงรักษามันไว้ให้ดีดี รักกันไว้ให้มาก ๆ ไม่มีอีกแล้วถ้า
เราเสียเพื่อนที่ดีไปเพราะ แค่เหตุผล โง่โง่

ความสำคัญของครอบครัว

ฉันเดินชนคนแปลกหน้า ฉันเอ่ยขอโทษไม่ตั้งใจ

เขากลับตอบ "ขออภัย ผมเองไม่ทันเห็นคุณ" เราต่างสุภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัยแสดงน้ำใจ แม้ไม่รู้จักกัน

แต่ที่บ้านเย็นวันนั้น ฉันทำอาหารอยู่ในครัว ลูกสาวตัวน้อยแอบมายืนข้างหลัง ไม่ทันระวังฉันหันกลับมาชนเธอล้มลง

"อย่ามายืนเกะกะ" ฉันดุใส่ ลูกสาวเดินจากไป หัวใจเธอปวดร้าว

คืนนั้นฉันได้ยินเสียงกระซิบจากเบื้องลึกของหัวใจ กับคนแปลกหน้าเจ้าสุภาพได้กับลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ

ดูที่พื้นครัวสิดอกไม้หลากสีที่ลูกอุตส่าห์เก็บมาหวังให้เจ้าแปลกใจตกเกลื่อนอยู่ทั่วไป น้ำตาเธอใหล เหตุใดไม่แลเห็น"

ฉันเพิ่งรู้ตัว เลยค่อยๆ ย่องเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างเตียงลูก
"
ตื่นเถิดคนดีดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"

ลูกตอบ " ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่ รู้ว่าคุณแม่ต้องชอบโดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"

ฉันตื้นตันใจนัก " ลูกรัก แม่ขอโทษจริงๆ ที่เอ็ดหนู"

"แม่จ๋า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูรักแม่ "

"แม่ก็รักลูก แม่ชอบดอกไม้ของหนูมาก โดยเฉพาะสีน้ำเงินจ้ะ"


หากเราตายจากไปในวันพรุ่งนี้


อีกไม่กี่วันนายจ้างก็หาคนใหม่มาทำแทนได้

แต่ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังอาจโศกเศร้าไปชั่วชีวิต

ลองคิดดูว่าคุ้มไหมหากเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับงานมากกว่าครอบครัว


รู้ไหมคำว่าFAMILY ย่อมาจาก


FATHER

AND

MOTHER

I

LOVE

YOU.


ให้เวลากับพ่อ-แม่ของคุณมากขึ้นยามท่านแก่ตัวลง

รู้จักแบ่งเวลาให้กับงานและคนที่บ้านให้สมดุลกัน

หากมีใครมาบอกให้จัดความสำคัญเสียใหม่


จงย้อนถามกลับไปว่าครอบครัวสำคัญน้อยกว่าหรือไร?

กอด

เคยสังเกตไหม... เวลาคุณ *'กอด' *ใคร

คุณมักซบไปทางด้านซ้ายของอีกฝ่าย
อาจเป็นเพราะนั่นคือตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ
หากคุณ *'กอด'* เขาไว้นานเพียงพอ
จังหวะการเต้นของหัวใจ 2 ดวง ก็จะเปลี่ยนเป็นจังหวะเดียวกัน ..ในที่สุด

*'
กอด'* คือเสื้อกันหนาวที่มีหัวใจ
*Hugging* is a jacket which has a heart.

ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะทำได้แทบทุกอย่าง แต่ข้อเสียของมันก็คือ ลุกขึ้นมา *'กอด'* คุณไม่ได้
Although a computer can do almost everything but certainly, it cannot give
you a hug.

ถ้าวันหนึ่งไม่มีเธอให้ *'กอด'* แล้วฉันจะโทษใครได้
If one day you are not here to *hug*, who else should I blame?

*'
กอด'* คือ การแสดงความเป็นเจ้าของที่น่ารัก
*Hugging* is a cute expression between lovers.

แม้ชีวิตนี้คุณจะมีใครให้ *'กอด'* แม้เพียงคนเดียว นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการดำรงชีวิต
Even though you've got only one person in your life to *hug*, that's
enough.

*'
กอด'* คือ การได้ให้และการได้รับพร้อม ๆ กัน
*Hugging* is at the same time, the giving and receiving.

ในอนาคต *'กอด'* อาจหายากพอ ๆ กับเวลา
In the near future, *hug* might be as hard to find as time.

*'
กอด'* ทำให้รู้ว่าเมื่อหัวใจอีกดวงมาเต้นอยู่ที่อกด้านขวาบ้างจะเป็นไง
*Hugging* displays that there will be a heart beat of others which keeps
beating while you hug?

เมื่อคุณถูก *'กอด'* คุณจะตัวเล็กลง
When you are being *hugged*, you will be smaller.

แต่เมื่อคุณ *'กอด'* คนอื่น คุณจะตัวใหญ่ขึ้น
BUT When you *hug* someone, you will be bigger.

*'
กอด'* คือคำว่า 'ฉันอยู่นี่'
*Hugging* is I am here.

*'
กอด'* ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
*Hugging* displays that we are not alone in the planet.

ภาษาพูดแทนความรู้สึกได้ดี แต่สำหรับบางเวลา *'กอด'* อาจเป็นตัวช่วยที่ดีกว่า
Speaking is the good way of feeling communication but sometime *hug* might
be a better assistance.

*'
กอด'* คือ การแลกเปลี่ยน 'ความลับทางอารมณ์' ระหว่างกัน
*Hugging* is the exchange of two peoples secret feelings and emotions.

*'
กอด'* ช่วยสลายทิฐิบางอย่างในใจเรา
*Hugging* disintegrates some conviction in our minds.

เมื่อคุณกลับบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังจาก สวัสดี คือ เข้าไป *'กอด'* คนที่คุณรัก
When you arrive home, thing you should do besides saying hello is *hugging*
the one you love.

บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าเราต้องการ *'กอด'* มากแค่ไหน จนกว่าจะได้เห็นคนอื่นเค้ากอดกัน
Sometime you may not realize to *hug* someone, once you observe it from
others.

*'
กอด'* คือ ทางสายกลางของการแสดงออกซึ่งความรัก
*Hugging* is a mind average of expression.

*'
กอด'* คือ การเต้นรำในจังหวะเดียวกัน ?
*Hugging* is the some rhythm of heart beating.

*'
กอด'* ทำให้รู้ว่ายังมีคนอ้วนกว่าเรา
*Hugging* defines that there will be someone who has more weight than you.

หากวันหนึ่งเราต้องไม่เหลือใคร
จงกอดตัวเองเอาไว้ แค่พออุ่น และจะรู้ว่าเราสามารถกอดตัวเองได้
โดยไม่ต้องรอให้ใครมากอดเรา

สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้อง *'กอด'* ตัวเองในที่แคบ ๆ

วันนี้คุณกอดใครแล้วหรือยัง ?