Malcolm Gladwell (Author, Narrator), Hachette Audio (Publisher)
หนังสือเรื่อง “Outliers: The Story of Success” โดย มาลคอล์ม แกลดเวลล์ เป็นหนังสือที่เขียนเชิงกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจ โดยมองไปที่ทุก ๆ คนในหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่ดาวรุ่งวงดนตรีร๊อคไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ มหาเศรษฐีทางซอฟต์แวร์ไปจนถึงผู้ปราดเปรื่องทางวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะให้เห็นถึงเรื่องราวสู่ความส าเร็จ เกิดขึ้นได้กับทุกอาชีพ เป็นที่น่าประหลาดใจมากกว่าที่จินตนาการไว้ และยืนยันได้ว่าไม่ว่าเขาจะมาจากไหน ท าอะไร เป็นใคร ไม่มีใครที่จะก้าวข้ามข้อยกเว้นไปได้ แม้แต่คนที่ฉลาดปราดเปรื่อง ก็ไม่สามารถประสบความส าเร็จได้ด้วยตนเอง ต้องมีปัจจัยต่าง ๆ เสริม Outliers จะเปลี่ยนวิธีการคิด/แนวคิดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของตนเองว่าอะไรที่ท าให้พวกเขาทั้งหลายมีเอกลักษณ์เฉพาะตน หนังสือเล่มนี้เขียนได้ดี เต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าสนใจและสารสนเทศ หลังจากผู้อ่านอ่านจบแล้วจะได้รับแรงบันดาลใจอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนคำสำคัญ: เส้นทางสู่ความสาเร็จ กฎ 10,000 ชั่วโมง แรงบันดาลใจ
หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า Outliers: The Storyof Success ประกอบด้วย 9 บทและบทส่งท้ายแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่หนึ่ง เป็นเรื่องของโอกาส แนวปฏิบัติ พร้อมตัวอย่างข้อมูลเชิงวิเคราะห์ประกอบด้วย 5 บท ได้แก่ ปรากฏการณ์ของเมทธิวกฎ 10,000 ชั่วโมง ความยากล าบากกว่าที่จะมาเป็นคนที่ประสบความส าเร็จจากประสบการณ์ที่หลากหลายซึ่งมี 3 บทเรียนจาก Joe Flom ส่วนที่สอง เป็นมรดกตกทอดให้เป็นของขวัญหรือข้อคิดให้คนรุ่นต่อ ๆ มาได้เข้าใจและน าไปใช้ประกอบด้วย 4 บท ได้แก่ ฮาร์แลนแห่งเคนตักกี้ทฤษฎีจากชนกลุ่มน้อยกรณีเครื่องบินตก ทุ่งนาข้าวและการทดสอบทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งข้อต่อรองของมาริต้า บทส่งท้ายเรื่องชนชาวจาไมก้า จะหยิบยกเฉพาะบางบทที่น่าสนใจมาวิเคราะห์ค่อนข้างละเอียดให้ท่านได้ทราบพร้อมทั้งตัวอย่างบุคคลที่ท่านผู้อ่านรู้จักและติดตามได้จากสื่อต่าง ๆ ส่วนบทอื่น ๆ จะน าเสนอแบบสรุป เพื่อให้เข้าใจได้ตรงกับความหมายที่ผู้เขียนประสงค์ จึงได้น าความหมายของ Outliers ที่ผู้เขียนได้เสนอไว้ในหนังสือ คือ Outliers เป็นค านามมีได้ 2 ความหมาย ดังนี้ 1. Something that is situated awayfrom or classed differently from a main orrelated body.2. A statistical observation that ismarkedly different in value from the othersof the sample.เมื่อได้ทราบทั้งสองความหมายแล้ว เวลาที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะท าให้เข้าใจความหมายของOutliers ซึ่งผู้เขียนใช้ จะดีกว่าการแปลซึ่งจะตรงกับที่ผู้เขียนตั้งใจได้มากกว่าจะกล่าวถึงประเด็นเด่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับคนที่มีผู้คนรู้จักกันทั่วโลกจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้
ปรำกฏกำรณ์แมทธิว ที่มา: จากค าสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ที่บันทึกในหนังสือเล่มหนึ่งใน 4 เล่มแรกของพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับใหม่: ทุกคนได้รับโอกาส มีโอกาสอยู่ในมือ ไม่มีใครที่จะฉกฉวยเอาโอกาสเหล่านั้นไปจากสิ่งที่มีอยู่ในมือได้ ซึ่งแต่ละคนจะต้องฉกฉวยโอกาสนั้นไว้ด้วยตนเองนักสังคมวิทยา กล่าวว่า ความส าเร็จเป็นผลมาจากประโยชน์ที่ได้สั่งสมไว้ตัวอย่างนักฮ๊อกกี้มืออาชีพ เริ่มต้นจากสิ่งที่ดีกว่าเพื่อนของเขาเพียงเล็กน้อย ความแตกต่างเล็ก ๆ เช่นนี้จะน าไปสู่โอกาส ซึ่งท าให้เกิดความแตกต่างที่ใหญ่ขึ้น (มากขึ้น) มองอีกมุมหนึ่งก็คือเป็นโอกาสที่เริ่มต้นจากความแตกต่างเพียงน้อยนิดก็สามารถพัฒนาไปเป็นความแตกต่างที่ใหญ่ขึ้นและสามารถเห็นได้ชัดเจนขึ้น เป็นเช่นนี้รอบแล้วรอบเล่าเกิดการสะสม จนกระทั่งได้เป็นนักฮ๊อกกี้มืออาชีพ เป็น Outliers ที่แท้จริง แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เริ่มจากการเป็น Outliers มาตั้งแต่แรกแต่เขาเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ดีกว่า และมีการพัฒนาไปเป็นสิ่งใหญ่ๆ ที่ดียิ่งกว่านักสังคมวิทยาและนักจิตวิทยาได้วิเคราะห์ข้อมูลพบว่านักฮ๊อกกี้มืออาชีพล้วนเกิดในช่วงเดือนแรกของปี ไม่เกี่ยวกับโหราศาสตร์หรือสิ่งลึกลับในช่วง 3 เดือนแรกของปีแต่เป็นเพราะว่าการคัดเลือกตัวนักฮ๊อกกี้ใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันตัดสิน เด็กอายุ 10 ปี (ณ วันที่ 2 มกราคม) ก็จะเล่นอยู่กับเด็กที่มีอายุไม่ถึง 10 ขวบไปจนถึงปลายปีช่วงอายุนี้เป็นช่วงก่อนถึงวัยหนุ่มสาว ช่วงเวลา12 เดือน จะมีความแตกต่างอย่างมากมายในแง่การพัฒนาทางสรีรวิทยา ในด้านความสมบูรณ์และโตเต็มวัย ได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกซ้อมมากกว่า มีการสั่งสมประสบการณ์ยาวนานกว่า ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะไปถึงยอดปิรามิดได้มากกว่า
กฎ 10,000 ชั่วโมง...กฎแห่งควำมสำเร็จ การที่จะประสบความส าเร็จในวิชาชีพใด ๆ ก็ตาม ต้องมีประสบการณ์ซึ่งเกิดจากการฝึกฝนมายาวนานพอสมควร แต่ถ้าได้ฝึกฝนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10,000 ชั่วโมง จะเกิดทักษะความเชี่ยวชาญ และน าไปสู่ความส าเร็จได้ในหลากหลายอาชีพ เป็นจริงได้เสมอ
การที่จะประสบความส าเร็จในวิชาชีพใด ๆ ได้อย่างโดดเด่นซึ่งมีจ านวนไม่มากนักที่จะก้าวขึ้นไปอยู่ในส่วนยอดของปิรามิดต้องมีองค์ประกอบปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้1. ต้องมีประสบการณ์ในวิชาชีพด้านนั้น ๆหรือมีพื้นฐานที่ช่วยสนับสนุนการท างานในวิชาชีพด้านนั้นไม่น้อยกว่า 10,000 ชั่วโมง เรียกว่าเป็นกฎแห่งความส าเร็จ... กฎ 10,000 ชั่วโมงใช้ได้และเป็นจริงกับทุกสาขาวิชาชีพ
การได้รับโอกาสพิเศษ (ที่คนอื่นไม่ได้รับ) ในบางช่วงของชีวิตและสามารถคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ประสบความสาเร็จในวิชาชีพนั้น ๆ ได้เช่นกัน
เกิดในช่วงเวลาที่เหมาะสม และช่วงที่มีอัตราการเกิดของประชากรค่อนข้างต่า
มีพฤติกรรมส่วนตัว ขยันขันแข็ง มุ่งมั่นและอดทน รวมทั้งต้องท างานหนักและมากกว่าคนอื่น ๆ
เป็นคนฉลาดพอสมควร ไม่ต้องฉลาดที่สุดก็ได้
https://www.tci-thaijo.org/index.php/journal_sct
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น