วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

"เจ้าชายไร้สิว"

นิทานล้านบรรทัด
ประภาส ชลศรานนท์


นานมาแล้ว ยังมีเจ้าชายรูปงามองค์หนึ่งซึ่งมีนิสัยประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือทรงเกลียดใบหน้าที่มีสิวอย่างไร้เหตุผล

เจ้าชายเฝ้าเพียรถามเหล่าองครักษ์แทบทุกวันว่า 
“วันนี้ใบหน้าของเรามีสิวขึ้นไหม ใบหน้าของเราเกลี้ยงเกลาดีไหม” 

ตลอดเวลาเจ้าชายจะต้องรักษาความสะอาดของใบหน้าตัวเองอย่างพิถีพิถัน ด้วยการล้างหน้าทุกครั้งที่นึกออก บางคืนก็ถึงกับตื่นขึ้นมาล้างหน้าด้วยความคิดไปเองว่าสิวกำลังจะขึ้น

แล้ววันที่เจ้าชายกลัวมากที่สุดว่ามันจะมาถึงก็ใกล้เข้ามา นั่นคือวันเลือกคู่ 
ทำไมเจ้าชายผู้รักในใบหน้าสะอาดสะอ้านถึงเกิดวิตกจริตกับวันเลือกคู่หรือ พระองค์ตรัสกับองครักษ์ว่า “ฉันไม่อยากพบหน้าหญิงผู้เลอโฉมของเมืองนี้ด้วยใบหน้าที่ไม่พร้อมของฉัน”

องครักษ์รีบทูลตอบ“แต่ตอนนี้ พระพักตร์ของพระองค์ก็ไม่มีสิวแม้แต่เม็ดเดียว นะพ่ะย่ะค่ะ” 

เจ้าชายหันมองกระจก “หากมีสิวแม้แต่เม็ดเดียว ฉันก็ไม่ยอมเจอหญิงสาวคนใด”

ว่ากันว่า คนเรานั้นเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้น เจ้าชายไร้สิวของเราก็เช่นกัน อาจจะเป็นด้วยความเครียดหรือความกังวล และแล้วในเช้าวันหนึ่ง องครักษ์ทั้งหมดก็ต้องรีบวิ่งกรูมาที่ห้องบรรทมของเจ้าชายด้วยตกใจในเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นไปทั้งวัง

“เป็นไปไม่ได้ ฉันมีสิวขึ้นที่จมูกได้อย่างไร” เจ้าชายกรีดร้องพลางขว้างแจกันลงกับพื้นด้วยความโกรธ “ไปเอาสบู่ที่ดีที่สุดในเมืองนี้มา อาทิตย์หน้าแล้วที่จะถึงวันเลือกคู่ ฉันไม่ยอมที่จะมีสิวแม้แต่เพียงเม็ดเดียว” พูดจบเจ้าชายก็อาละวาดอยู่ในห้องบรรทมจนข้าวของล้มระเนระนาด

ยิ่งเครียดสิวก็ยิ่งขึ้น หนำซ้ำยิ่งฟอกสบู่มากเกินไป ผิวหน้าก็ยิ่งแห้ง ผิวหน้ายิ่งแห้งก็ยิ่งคัน ยิ่งคันก็ยิ่งเกา ยิ่งเกาก็ยิ่งอักเสบ พอผิวอักเสบผิวก็ยิ่งติดเชื้อง่ายขึ้น

หกวันผ่านไป เจ้าชายไม่ยอมออกจากห้องบรรทมแม้แต่จะไปร่วมโต๊ะเสวยกับพระบิดา เจ้าชายเอาเฝ้าแต่นั่งอยู่หน้ากระจก ใครจะไปเชื่อผ่านไปเพียงหกวันใบหน้าของเจ้าชายก็แทบจะไม่มีที่ว่างที่ไม่มีสิว

ถึงตอนนี้ เจ้าชายของเรากำลังมองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่มีสิวมากที่สุดในโลกอยู่ในกระจก

“อีกวันเดียวเท่านั้น” เจ้าชายพูดเสียงสั่น แล้วก็หันไปจะคว้าแจกันมาขว้างทิ้ง แต่ก็ไม่สามารถหาได้เนื่องจากห้องบรรทมของพระองค์ ไม่เหลือแจกันให้ขว้างแล้ว

องครักษ์คนเดิมรีบคลานเข้ามาอย่างลุกลน “กระหม่อมไปพบแม่มดตามพระองค์รับสั่งให้ไปหาแล้ว แม่มดได้มอบขวดยาวิเศษมาให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ชูขวดแก้วเล็กๆเท่าฝ่ามือ

เจ้าชายหันกลับมามองอย่างดีใจแล้วรีบคว้าขวดแก้วไปถือ “มันรักษาสิวเราได้อย่างนั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ มันใช้ทาลงที่สิวทีละเม็ด แม่มดบอกว่า เมื่ออรุณรุ่งมาเยือน สิวทุกเม็ดที่ถูกทาจะหายไปจนไม่เหลือแม้แต่ริ้วรอย” องครักษ์ทูลบอก

เจ้าชายฟังดังนั้นก็รีบเปิดขวดเพื่อจะเทยาวิเศษมาทาสิวของพระองค์

“แต่มันมีข้อแม้บางอย่างพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์รีบทูล 
แม่มดในนิทานเรื่องไหนๆก็มีข้อแม้ทั้งนั้น ไม่เคยช่วยใครฟรีๆหรอก

“ข้อแม้อะไร” เจ้าชายทรงยั้งมือไว้

องครักษ์ทูลตอบ “แม่มดบอกว่า เมื่อสิวของใครก็ตามที่ยุบหายไปเพราะยาวิเศษนี้ มันจะไปขึ้นที่ใบหน้าคนอื่นแทน และไม่ได้ขึ้นแทนแบบเม็ดต่อเม็ดด้วย แต่จะขึ้นแทนแบบสิวหนึ่งเม็ดต่อสิวเต็มหนึ่งใบหน้า”

เจ้าชายนั่งนึกทวนคำที่แม่มดบอก สิวหนึ่งเม็ดจะหายไปและไปขึ้นบนใบหน้าคนอื่นเต็มใบหน้า ช่างปะไร มันไม่ใช่ใบหน้าของเราเสียหน่อย เจ้าชายรีบเทขวดยาวิเศษลงฝ่ามือ แล้วก็ละเลงบนใบหน้าตัวเอง

ราตรีนั้น เจ้าชายทรงบรรทมหลับไปด้วยความกังวลว่า ยาวิเศษนั้นจะวิเศษจริงสมคำที่แม่มดบอกหรือไม่ เพราะอรุณรุ่งพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเลือกคู่แล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น พลันที่เจ้าชายรู้สึกตัวตื่น พระองค์ก็รีบพุ่งตัวไปที่กระจกทันที
ช่างมหัศจรรย์อะไรอย่างนี้ ใบหน้าของเจ้าชายได้กลับกลายเป็นใบหน้าของชายหนุ่มที่สะอาดสะอ้านดังเดิม ไม่มีร่องรอยของสิวแม้แต่น้อย เจ้าชายรีบแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศเพื่อไปงานเลือกคู่ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ท้องพระโรง

แล้วเจ้าชายก็พบกับสิ่งมหัศจรรย์มากกว่าที่คิดไว้ องครักษ์ทุกคนของพระองค์มีสิวเต็มใบหน้า พระบิดาและพระมารดาก็เช่นกัน พระญาติและเสนาบดีทุกคนล้วนมีสิวอยู่เต็มใบหน้า

ไม่เว้นแม้แต่สาวเลอโฉมที่มาให้เลือกคู่ ทุกคนมีใบหน้าที่บวมเป่งไปด้วยสิว
..............................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น: