วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

จากมะเฟืองรอฝาน

ความสนุกของงาน มันไม่ได้อยู่ที่งานไหนสนุกหรือไม่สนุก มันอยู่ว่าเราเอาใจของเราเข้าไปทำงานนั้นด้วยหรือเปล่าต่างหาก

โสเครติส : หนึ่งในบรรดาความเชื่อมากมายที่ข้าฯ มีก็คืออำนาจแห่งกฏหมายพลเมือง ในเมื่อกฏหมายแห่งเอเธนส์พิพากษาประหารข้าญ ข้าญ ก็ต้องตาย นี่คือตรรกะที่ชอบแล้ว

กาลิเลโอ : เอ..เปร..ชิ..มู..เบ แปลว่าถึงอย่างไรโลกก็ไม่เคยหยุดหมุน

ประเทศที่คนรู้หนังสือมากที่สุดในโลก อันดับหนึ่งนั้นมีญี่ปุ่นและเยอรมันผลัดกันเป็นแชมป์อยู่
ประเทศที่รบกับคนทั้งโลกมาแล้วนั่นเอง

เซนถือว่าการเข้าใจและรู้แจ้งในชีวิตเกิดจากการเฝ้าดูชึวิตให้มันผ่านไปเรื่อยๆ ผ่านไปเหมือนสายน้ำในลำธารแล้วแวบหนึ่งแสงแห่งณาณก็จะสว่างขึ้น
ในหยินมีหยางและในหยางก็มีหยิน

ก่อนมีเต๋าก่อนมีเซน กระบี่ดีอยู่ที่เนื้อเหล็ก
เมื่อมีเต๋า...กระบี่อยู่ที่ใจ
และเมื่อมีเซน ไม่มีทั้งกระบี่ไม่มีทั้งใจ

ดูกรมหากัสสปะ เราได้แสดงขุมทรัพย์อันไพศาลแห่งจิตใจคือโลกุตรธรรมให้เห็นแล้ว เราขอส่งมอบให้เธอ ณ บัดนี้

เป้าหมายที่สัคัญกว่าสิ่งอื่นใด คือเมื่องานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะเห็นทีมงานจับมือกัน ส่งเสียงดีใจกัน เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด

ปราชญ์จีนโบราณถือกันว่า งานสิ่งใดจะประสบความสำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสามอย่าง....นั่นคือ ฟ้า ดิน และคน
ฟังแล้วผมก็ชอบอยู่

ปัจจัยแรก คน สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีปัจจัยนี้ย่อมไม่มีงานเกิดขึ้น แม้แต่ในนิทาน ถ้าเทวดาไม่แปลงร่างลงมาเป็นคน วีรกรรมต่างๆ ก็คงไม่อุบัติขึ้น ในตำรับตำราทางโหราศาสตร์ของจีน คนที่ว่านี้ยังหมายถึงความสมบูรณ์ทางนรลักษณ์ศาสตร์หรือรูปลักษณ์ของใบหน้าร่างกายที่เราเรียกทับศัพท์ภาษาจีนกันว่าโหงวเฮ้งอีกด้วย

ปัจจัยที่สอง ดิน ถ้าเป็นซินแสนักดูทำเลก็จะบอกว่าดินนี้หมายถึงภูมิประเทศที่เหมาะตามศาสตร์ของฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งของการใชัชีวิตเป็นอย่างมาก วิชาฮวงจุ้ยเชื่อว่ามีพลังสองอย่างอยู่ในที่ต่างๆ บนโลกนั้นคือพลังดีและพลังร้าย การตั้งเคหาหากวางตัวอาคารและตำแหน่งหอห้องให้รับพลังดีเข้ามาและคอยหลีกหนีพลังร้าย ชีวิตและการงานจะประสบความสำเร็จ

ปัจจัยที่สาม ฟ้า หรือชะตาฟ้าลิขิตนั่นเอง

แต่ถึงขงเบ้งจะเชื่อว่าคนเป็นผู้สร้างและฟ้าเป็นผู้กำหนด ขงเบ้งก็ไม่เคยหยุดสร้าง เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าฟ้าจะกำหนดไปทางไหน และฟ้าคงไม่ว่าอะไรเราหรอก ถ้าจะโยนความผิดเล็กๆ น้อยๆ ไปให้เขาบ้าง


"นิรันดร" กับ "ความไม่มี"...มันอยู่ใกล้กันเหลือเกินครับ ใกล้กันจนบางครั้งผมก็รู้สึกว่ามันเป็นอันหนึ่งอันเดียว

เล็กที่สุดและใหญ่ที่สุดคืออันเดียวกัน ความไม่มีและความไม่สิ้นสุดก็คืออันเดียวกัน

จักรวาลอันกว้างใหญ่เหลือคณาที่เราเห็นอยู่นี้ รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นอยู่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นอดีต ภาพที่เราเห็นคือการเดินทางของแสง จุดสุดท้ายของการเดินทางของแสงจะเป็นอะไรไปได้...นอกจาก "ปัจจุบัน"

มรรคก็สำคัญไม่แพ้ผล

คลาสสิกต้องไม่ดูถูกแจ๊ซ แจ๊ซต้องไม่ดูถูกร็อก ร็อกต้องไม่ดูถูกป๊อบ ป๊อปก็ต้องไม่ดูถูกลูกทุ่ง และลูกทุ่งก็อย่าไปรู้สึกว่าคลาสสิกน่ะมันคนละชั้นกับเรา มันสูงกว่าเรา
คนที่สนใจเรื่องสุริยจักรวาลก็อย่าไปดูแคลนคนที่สนใจเรื่องการถักโครเชต์ ทีนี้จะให้แปลกแยกกันอีกเท่าไร ผมว่าโลกก็ยังคงวิไลอยู่ไม่เสื่อมคลาย

รถที่ออกวิ่งบ่อยๆ นอกจากเครื่องยนต์จะคล่อง สายพานและเพลาต่างๆ จะไม่ติดนขัดแล้ว ทำเล่นไปนะครับ เผลอๆ เราอาจเจอเส้นทางใหม่ๆ ที่เราไม่เคยไป และถ้าโชคดี...ไอ้ทางที่เราเจอใหม่นั้นราดยางมะตอยอย่างดีด้วย รถเราจะได้วิ่งได้อย่างสบายขึ้น ถึงตอนนั้นไอ้ความสับสนก็คงจะเบาบางลง ค่าที่คล่องกับเส้นทางเสียแล้ว

ชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคน แต่งานแต่งงานมันเป็นเรื่องของคนหลายคน เพราะมันเป็นเรื่องของพิธีการ เป็นเรื่องของความสมานฉันท์ในหมู่ญาติมิตร
เพราะไม่ว่าจะจัดพิธีแบบไหนก็ตาม มันก็ไม่เคยพิสูจน์ได้เลยว่ามันจะทำให้คู่ไหนอยู่กันยืดกว่าคู่ไหนเลย

การเตรียมเทศกาล สนุกกว่าเทศกาล ใครหนอเป็นคนคิด มันเป็นความจริงทีเดียว

พระพุทธเจ้าพูดถึงวัฏสงสาร การเวียนว่ายเกิดแก่เจ็บตาย พระองค์กำลังพูดถึงอินฟินิตี้ หรือจักรวาลอยู่ใช่ไหม


ไม่มีความคิดเห็น: