Explore the shift toward meaningful connections, as age becomes irrelevant and emotional intimacy reigns supreme.

บางครั้งเมื่อใครสักคนพิจารณาถึงเกณฑ์ที่ผิวเผินมากขึ้น คนๆ นั้นก็ยังคงอยู่ในระยะของการ "ค้นหา" คนที่คิดว่าเหมาะสมกับรูปร่างของตน เขาหรือเธออาจพิจารณาว่าเขาสูงแค่ไหน เธอมีเสน่ห์แค่ไหน และเรามักจะหาคนที่ดีกว่าคู่ครองของเราได้เสมอ ในระยะนี้ ใครสักคนจะถูกมองว่าเป็นแฟนที่ดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อเราพบใครสักคนที่ยึดมั่นในค่านิยมเดียวกันและมีอนาคตที่สดใสคล้ายคลึงกัน คนๆ นั้นก็จัดอยู่ในประเภทคู่สามีภรรยา เมื่อเราพบใครสักคนที่ตรงตามความต้องการที่สำคัญของเรา เราก็มักจะมีความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอที่จะซื่อสัตย์ต่อบุคคลนั้น

การมีความสัมพันธ์ทางอารมณ์ เช่น การเข้าใจภาษาแห่งความรักของกันและกัน โดยไม่กดดันคู่รักให้ทำตามและปฏิบัติต่ออีกฝ่ายด้วยภาษาแห่งความรักฝ่ายเดียว ถือเป็นลักษณะสำคัญในการที่จะเป็นภรรยาหรือสามีที่ดี

People express their love differently. According to Dr. Gary Chapman, there are 5 love languages: acts of service, giving and receiving gifts, quality time, physical touch, and words of affirmation.

ผู้คนแสดงความรักแตกต่างกันออกไป ดร. แกรี่ แชปแมน กล่าวว่าภาษาแห่งความรักมีอยู่ด้วยกัน 5 ภาษา ได้แก่ การกระทำเพื่อการบริการ การให้และรับของขวัญ การใช้เวลาที่มีคุณภาพ การสัมผัสทางกาย และคำพูดให้กำลังใจ

แนวทางในการตัดสินใจ

ความมั่นคงของความสัมพันธ์ได้รับผลกระทบจากลักษณะของคุณสมบัติความเป็นผู้นำ ซึ่งบุคคลหนึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจในความสัมพันธ์ ความขัดแย้งเพียงเล็กน้อยในความสัมพันธ์สามารถส่งผลต่อความสัมพันธ์ได้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

Swipe smarter, find deeper

ปัดอย่างชาญฉลาด ค้นหาได้ลึกยิ่งขึ้น

Looks used to be everything, หน้าตาเคยเป็นทุกอย่าง "Not so fast"! "ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก"

Honesty is the best policy

ความซื่อสัตย์คือหลักประกันที่ดีที่สุด

Ditch ghosting and mind games! Be bold! The age-old tactic of playing hard-to-get is fading.

เลิกทำตัวเป็นผีและเล่นเกมจิตวิทยาได้แล้ว! กล้าหาญเข้าไว้! กลวิธีเก่าแก่ในการเล่นตัวให้คนอื่นจับได้ยากกำลังจะหมดไป

Be upfront, be yourself, and who knows, you might just find your paradise match!

เปิดเผย เป็นตัวของตัวเอง แล้วใครจะรู้ คุณอาจพบเนื้อคู่ของคุณก็ได้!

Lucille McCart ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Bumble เน้นย้ำถึงบทบาทของรายการในการเน้นย้ำถึงวัฒนธรรมการออกเดทที่หลากหลาย พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้คนทั่วโลกเชื่อมต่อกันในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน

“ในขณะที่เราก้าวผ่านยุคของความรักสมัยใหม่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะได้เห็นความหลากหลายในวัฒนธรรมการออกเดท สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับรายการนี้คือเราสามารถสังเกตวิธีที่ผู้คนเชื่อมต่อกันในส่วนต่างๆ ของโลก และโดยทั่วไปแล้ว เรามีความคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่างกัน” เธอกล่าว

“Ultimately, we’re excited to see women in the show make the first move, exercise their agency, take control of their dating lives, and in turn, push the boundaries of traditional gender roles.”

เราตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นผู้หญิงในรายการเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ใช้สิทธิของตนเอง ควบคุมชีวิตการออกเดทของตนเอง และผลักดันขอบเขตของบทบาททางเพศแบบดั้งเดิมออกไป

ingle’s Inferno do everything they can to preserve the core nature of the show: the search for a true romantic connection.

รายการ Single's Inferno เป็นรายการเรียลลิตี้ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์และความรักระหว่างผู้เข้าร่วม ซึ่งมีแนวคิดทางจิตวิทยาหลายอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการดำเนินเรื่องและปฏิสัมพันธ์ของผู้เข้าร่วม โดยเฉพาะในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonal Relationships) และจิตวิทยาสังคม (Social Psychology) มาดูกันว่ามีแนวคิดทางจิตวิทยาอะไรบ้างที่ปรากฏในรายการนี้:

1. การดึงดูดทางกายภาพและความใกล้ชิด (Physical Attraction and Proximity)

แนวคิด: ทฤษฎีความใกล้ชิด (Proximity Theory) และการดึงดูดทางกายภาพ (Physical Attraction) บอกว่าคนเรามักจะรู้สึกดึงดูดหรือสนใจคนที่อยู่ใกล้ตัวและมีลักษณะทางกายภาพที่ตรงกับความชอบส่วนตัว
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะสนใจคนที่อยู่ใกล้ตัวหรือคนที่พวกเขามีโอกาสปฏิสัมพันธ์บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การดึงดูดทางกายภาพยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้เข้าร่วมเลือกคู่ในตอนแรก

2. การเปรียบเทียบทางสังคม (Social Comparison Theory)

แนวคิด: ทฤษฎีการเปรียบเทียบทางสังคมของ Leon Festinger บอกว่าคนเรามักจะเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นเพื่อประเมินความสามารถหรือคุณค่าของตัวเอง
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นในเรื่องรูปลักษณ์ ความสามารถ หรือความนิยม เพื่อประเมินว่าตัวเองมีโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์หรือไม่

3. การแข่งขันและความอิจฉา (Competition and Jealousy)

แนวคิด: ในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน เช่น รายการเรียลลิตี้ ความอิจฉาและการแข่งขันมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีทรัพยากรจำกัด (ในที่นี้คือความสนใจจากคู่รัก)
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะรู้สึกอิจฉาหรือไม่สบายใจเมื่อเห็นคนที่ตัวเองสนใจสนิทสนมกับคนอื่น ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมเชิงแข่งขันเพื่อดึงดูดความสนใจกลับมา

4. การเปิดเผยตัวเอง (Self-Disclosure)

แนวคิด: การเปิดเผยตัวเอง (Self-Disclosure) เป็นกระบวนการที่คนเราแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวกับผู้อื่น ซึ่งช่วยสร้างความใกล้ชิดและความไว้วางใจในความสัมพันธ์
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมที่เปิดเผยตัวเองมากขึ้น (เช่น เล่าเรื่องส่วนตัวหรือความรู้สึก) มักจะสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคู่ของตัวเองได้ดีกว่า

5. การเลือกคู่ตามทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคม (Social Exchange Theory)

แนวคิด: ทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคมบอกว่าคนเรามักจะเลือกคู่หรือสร้างความสัมพันธ์โดยพิจารณาจากผลประโยชน์ที่ได้รับและต้นทุนที่ต้องจ่าย
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะเลือกคู่ที่พวกเขาคิดว่าจะให้ผลประโยชน์สูงสุด (เช่น ความสนใจ การดูแล หรือความนิยม) และหลีกเลี่ยงคนที่อาจทำให้พวกเขาต้องเสียใจหรือรู้สึกไม่มั่นคง

6. การยืนยันคุณค่าตัวเอง (Self-Validation)

แนวคิด: คนเรามักจะแสวงหาการยืนยันคุณค่าของตัวเองจากผู้อื่น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ต้องแข่งขันหรือได้รับการประเมิน
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะรู้สึกดีเมื่อได้รับการเลือกหรือได้รับความสนใจจากคนอื่น เพราะนี่เป็นการยืนยันว่าพวกเขามีคุณค่าและน่าดึงดูด

7. การสร้างอัตลักษณ์ (Identity Construction)

แนวคิด: ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ คนเรามักจะพยายามสร้างอัตลักษณ์หรือภาพลักษณ์ที่พวกเขาต้องการให้ผู้อื่นเห็น
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เช่น การแสดงออกถึงความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ หรือความอ่อนโยน เพื่อดึงดูดคู่รัก

8. การจัดการความไม่แน่นอน (Uncertainty Management)

แนวคิด: ในความสัมพันธ์ใหม่ๆ ความไม่แน่นอนมักจะเกิดขึ้นเมื่อเราไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรกับเรา
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะพยายามลดความไม่แน่นอนโดยการสังเกตพฤติกรรมของคู่รักหรือถามคำถามเพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย

9. การสร้างความใกล้ชิดผ่านกิจกรรมร่วมกัน (Bonding Through Shared Activities)

แนวคิด: การทำกิจกรรมร่วมกันช่วยสร้างความใกล้ชิดและความไว้วางใจระหว่างบุคคล
ในรายการ: กิจกรรมต่างๆ ในรายการ เช่น การทำอาหารหรือการแข่งขันกีฬา ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้น

10. การรับรู้ทางสังคม (Social Perception)

แนวคิด: การรับรู้ทางสังคมคือกระบวนการที่เราตีความพฤติกรรมและความตั้งใจของผู้อื่น ซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับอคติหรือประสบการณ์ส่วนตัว
ในรายการ: ผู้เข้าร่วมมักจะตีความพฤติกรรมของคนอื่นผิดไปจากความเป็นจริง เช่น คิดว่าคนที่ไม่พูดคุยด้วยเป็นคนไม่สนใจ ในขณะที่จริงๆ แล้วเขาอาจแค่เขินหรือไม่มั่นใจ

สรุป

รายการ Single's Inferno มีแนวคิดทางจิตวิทยาหลายอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น การดึงดูดทางกายภาพ การเปรียบเทียบทางสังคม การแข่งขัน การเปิดเผยตัวเอง และการสร้างความใกล้ชิด แนวคิดเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมและกระบวนการสร้างความสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมที่ต้องแข่งขันและถูกจำกัดด้วยเวลาและทรัพยากร

เราอาจเพลิดเพลินไปกับซีรีส์ไปพร้อมกับเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างแฟน/ภรรยาและแฟน/สามีที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเป้าหมายในอนาคตที่เราต้องการบรรลุ แทนที่จะเริ่มความสัมพันธ์เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ซึ่งอาจเสียเวลาและพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ จะดีกว่าหากเราสามารถค้นพบคุณลักษณะดังกล่าวได้ก่อนที่มันจะเริ่มต้น เพื่อวางรากฐานสำหรับความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืน จำเป็นต้องมีความเป็นผู้ใหญ่ทางอารมณ์ ความภักดี ความรับผิดชอบ ความผูกพันทางอารมณ์ และแนวทางในการตัดสินใจ

จาก https://www.meetnlunch.com/th/en/blog/lesson-learned-from-singles-inferno-3/