วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567

How to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร / นิ้วกลม

 

Authorนิ้วกลม, ผู้แต่ง
TitleHow to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร / นิ้วกลม
Imprintกรุงเทพฯ : KOOB, 2566
Editionพิมพ์ครั้งที่ 10
Descript304 หน้า ; 21 ซม



CONTENT

เต๋า อย่าแสวงหาความสุข จงเป็นความสุข -- เต๋า ธรรมชาติเดิมแท้คือความสุข -- เต๋า หลงรักตัวเอง -- สามคัมภีร์สำคัญแห่งเต๋า -- สโตอิก พายุร้ายเจียระไนเพชร -- สโตอิก ดีแค่ไหนที่มีแก้วใบนั้นมาตั้งแต่ต้น -- สโตอิก อยากมีความสุขให้หมั่นนึกถึงเรื่องร้าย -- ชีวิตที่ดีในมุมมองสโติอิก -- อิคิไก มองเห็นเส้นชัย หลงใหลกระบวนการ -- อิคิไก ชีวิตงดงามเมื่อเราใส่ใจ -- อิคิไก มีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่กับสิ่งที่รักตลอดเวลา -- ชีวิตที่ดีในมุมมองอิคิไก -- วะบิ-ซะบิ ในโลกนี้มีสิ่งใดบ้างสมบูรณ์แบบ -- วะบิ-ซะบิ สงบงามกลางโกลาหล -- วะบิ-ซะบิ ชีวิตธรรมดาที่งดงาม -- ชีวิตที่ดีในมุมมองวะบิ-ซะบิ -- นิกเซน ความสุขคืออะไร -- นิกเซน องค์ประกอบความสุข -- นิกเซน พักสักนิกส์ -- ชีวิตที่ดีในมุมมองนิกเซน -- ฮุกกะ ความสุขคือการกอดคนอื่น -- ฮุกกะ ABC ของความสุข -- ชีวิตที่ดีในมุมมองฮุกกะ -- ชิสุ เย็นเฉียบ-ร้อนฉ่า พาเป็นสุข -- ชิสุ ประคองไว้ แล้วไปต่อ -- ชีวิตที่ดีในมุมมองชิสุ -- เดอสแต็ดนิง จงแวดล้อมตัวเองด้วยสิ่งที่ทำให้เป็นสุข -- เดอสแต๊ดนิง ปล่อยข้าวของไป เก็บไว้เพียงสิ่งสำคัญ -- ชีวิตที่ดีในมุมองเดอสแต๊ดนิง -- ชีวิตที่ดีคืออะไร -- ชีวิตที่ดี ที่ผมได้เรียนรู้


จาก 

How to Live a Good Life


"เต๋า อย่าแสวงหาความสุข จงเป็นความสุข " นิ้วกลมอธิบายบทนี้ใน หนังสือ "How to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร / นิ้วกลม" ว่าอย่างไร
ChatGPT

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมได้อธิบายเกี่ยวกับแนวคิด "เต๋า อย่าแสวงหาความสุข จงเป็นความสุข" โดยเน้นว่าแนวทางนี้มาจากหลักการของเต๋าและความคิดเชิงปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและสมดุล

การอธิบายแนวคิด "อย่าแสวงหาความสุข จงเป็นความสุข"

1. การไม่แสวงหาความสุขภายนอก

หลักการ: ความสุขไม่ควรเป็นสิ่งที่เราตามหาอยู่ตลอดเวลา หรือมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องได้รับจากภายนอก เช่น การมีทรัพย์สินหรือความสำเร็จ แต่ควรมองว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายในตัวเราเอง

วิธีการ:

  • การตระหนักถึงความสุขภายใน: เรียนรู้ที่จะพอใจกับสิ่งที่มีอยู่และรู้สึกดีภายในตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอก
  • การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ: ปรับทัศนคติให้มองความสุขเป็นสภาวะของจิตใจที่มีอยู่ในขณะนี้ มากกว่าการแสวงหาจากภายนอก

2. การเป็นความสุข

หลักการ: การเป็นความสุขหมายถึงการมีทัศนคติและวิธีการใช้ชีวิตที่สร้างความสุขในตัวเองและสำหรับผู้อื่น โดยไม่ต้องรอให้มีสิ่งที่สมบูรณ์แบบมาถึง

วิธีการ:

  • การใช้ชีวิตอย่างมีสติ: ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างเต็มที่และสัมผัสความสุขจากสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน
  • การทำสิ่งที่รัก: มุ่งเน้นการทำสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีและเติมเต็มโดยไม่คาดหวังผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง

3. การสร้างความสุขจากภายใน

หลักการ: ความสุขที่แท้จริงเกิดจากการมีความพอใจและความสงบในจิตใจ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ

วิธีการ:

  • การฝึกสติและสมาธิ: การทำสมาธิและการฝึกสติช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและพัฒนาอารมณ์ที่ดี
  • การพัฒนาความรักตัวเอง: การรักและดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ทำให้คุณมีความสุขและพอใจในชีวิต

4. การเข้าใจความหมายของชีวิต

หลักการ: การเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิตช่วยให้คุณค้นพบความสุขที่แท้จริงจากภายในตัวเอง

วิธีการ:

  • การตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิต: ค้นหาความหมายและเป้าหมายที่แท้จริงในชีวิตของคุณ ซึ่งสามารถนำไปสู่ความพอใจและความสุข
  • การมองเห็นความงามในชีวิต: มองหาความงามและความหมายในสิ่งที่คุณทำและสิ่งที่คุณมีอยู่ในชีวิต

สรุป

นิ้วกลมใน "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" อธิบายว่าการไม่แสวงหาความสุขจากภายนอกและการเป็นความสุขเองนั้นเป็นแนวทางที่มาจากหลักการของเต๋า โดยเน้นให้เราเรียนรู้ที่จะสร้างความสุขจากภายในตัวเอง การใช้ชีวิตอย่างมีสติและทำสิ่งที่เรารัก โดยไม่ต้องรอให้มีสิ่งที่สมบูรณ์แบบมาถึง การเป็นความสุขคือการค้นพบและสร้างความสุขในปัจจุบัน โดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอก

ในหนังสือ "How to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบาย "เต๋า อย่าแสวงหาความสุข จงเป็นความสุข" ว่าอย่างไร
ChatGPT

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายหลักการของ "เต๋า" หรือ Taoism ซึ่งพูดถึงแนวคิดที่ว่า "อย่าแสวงหาความสุข จงเป็นความสุข" ได้อย่างลึกซึ้งและชัดเจน:

ตามแนวคิดของเต๋า การแสวงหาความสุขเป็นสิ่งที่อาจทำให้เราพลาดการเข้าถึงความสุขที่แท้จริง เพราะเมื่อเรามุ่งมั่นไปที่การแสวงหาความสุขอย่างต่อเนื่อง เรามักจะพบว่าความสุขนั้นเป็นสิ่งที่หลบเลี่ยงและไม่สามารถจับต้องได้อย่างแท้จริง

นิ้วกลมอธิบายว่า สิ่งที่สำคัญคือการเข้าใจและรับรู้ถึงความสุขที่มีอยู่ในปัจจุบันของเรา โดยการทำความเข้าใจและยอมรับในตัวตนของเราเอง เราจะสามารถเป็นความสุขแท้จริงได้ ไม่จำเป็นต้องแสวงหาอะไรเพิ่มเติม

การเป็นความสุขคือการอยู่ในปัจจุบันอย่างเต็มที่ ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงหรือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว การเป็นความสุขนั้นคือการปล่อยวางความคาดหวังและการแสวงหา และหันกลับมามองสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบันอย่างจริงจังและจริงใจ

โดยรวมแล้ว แนวคิดนี้สนับสนุนให้เราปรับมุมมองจากการวิ่งตามความสุขเป็นการรับรู้และเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในตัวเราเอง

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ สโตอิก ที่ว่า "พายุร้ายเจียระไนเพชร" ในลักษณะที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงวิธีการมองสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิต:

คำพูดนี้สื่อถึงแนวคิดที่ว่าความยากลำบากและความท้าทายในชีวิตมีบทบาทในการเจียระไนและพัฒนาความแข็งแกร่งภายในของเรา เช่นเดียวกับที่พายุร้ายอาจดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ แต่ก็สามารถช่วยขัดเกลาและเพิ่มความเงางามให้กับเพชรได้

นิ้วกลมอธิบายว่าความท้าทายและปัญหาในชีวิตไม่ใช่เพียงอุปสรรค แต่เป็นโอกาสในการเติบโตและเรียนรู้ การเผชิญหน้ากับความยากลำบากอย่างมีสติและรับมือด้วยความอดทนจะช่วยให้เราเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งและมีคุณค่ามากขึ้น การเรียนรู้ที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ดีและการใช้ประสบการณ์นั้นเพื่อพัฒนาตนเองเป็นสิ่งที่สโตอิกให้ความสำคัญ

ดังนั้น "พายุร้ายเจียระไนเพชร" คือการที่เราต้องเห็นความท้าทายและความยากลำบากเป็นโอกาสในการเติบโตและพัฒนาตนเอง เราควรเรียนรู้ที่จะรับมือและนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ในการพัฒนาความแข็งแกร่งและความดีงามในตัวเรา การมองสถานการณ์เหล่านี้ในแง่บวกช่วยให้เรามีมุมมองที่ดีและมีความสุขจากการพัฒนาตนเองผ่านประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

ในหนังสือ "How to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบาย "สโตอิก ดีแค่ไหนที่มีแก้วใบนั้นมาตั้งแต่ต้น" ว่าอย่างไร
ChatGPT

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ สโตอิก เกี่ยวกับการมองชีวิตในแบบ "ดีแค่ไหนที่มีแก้วใบนั้นมาตั้งแต่ต้น" ไว้ดังนี้:

แนวคิดนี้เป็นการสะท้อนถึงหลักการของสโตอิกที่ว่าเราควรมองสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบันอย่างเต็มที่และมีความพอใจในสิ่งที่เรามี มากกว่าการคาดหวังว่าจะต้องมีสิ่งที่ดีกว่าหรือสิ่งที่เรายังไม่มี

"แก้วใบนั้น" ในที่นี้หมายถึงสิ่งที่เรามีอยู่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ความสามารถ หรือประสบการณ์ หากเรามองสิ่งที่เรามีเป็นสิ่งที่ดีและมีคุณค่า เราจะรู้สึกพอใจและมีความสุขมากขึ้น เมื่อเราหยุดคิดถึงสิ่งที่เราอาจไม่มีหรือสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะต้องได้ เราจะสามารถรับรู้คุณค่าและความสำคัญของสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

โดยการเปลี่ยนวิธีคิดจากการมองหาและคาดหวังสิ่งใหม่ๆ มาเป็นการให้ความสำคัญและชื่นชมในสิ่งที่มีอยู่แล้ว เราจะสามารถสร้างความพอใจและความสุขจากสิ่งที่มีอยู่ในมือ โดยไม่ต้องรอให้สิ่งอื่นมาทำให้เรารู้สึกดี

นิ้วกลมจึงเสนอว่า "ดีแค่ไหนที่มีแก้วใบนั้นมาตั้งแต่ต้น" เป็นการเน้นย้ำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และเรียนรู้ที่จะชื่นชมในความดีและความพอใจที่เราสามารถสร้างได้จากสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน การใช้ชีวิตในลักษณะนี้จะทำให้เรามีความสุขและความพอใจมากขึ้นอย่างยั่งยืน

ในหนังสือ "How to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบาย "สโตอิก อยากมีความสุขให้หมั่นนึกถึงเรื่องร้าย" ว่าอย่างไร
ChatGPT

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ สโตอิก (Stoicism) ซึ่งพูดถึงการ "อยากมีความสุขให้หมั่นนึกถึงเรื่องร้าย" ไว้ดังนี้:

แนวคิดของสโตอิกที่ว่าการนึกถึงเรื่องร้ายเป็นวิธีที่ช่วยให้เรามีความสุขได้เป็นแนวคิดที่น่าสนใจและลึกซึ้ง ในกรอบของปรัชญาสโตอิก ซึ่งเป็นปรัชญาที่เน้นการควบคุมอารมณ์และการรักษาความสงบภายใน การนึกถึงเรื่องร้ายหรือลองจินตนาการถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่ไม่ดีเป็นการฝึกฝนให้เรามีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

นิ้วกลมอธิบายว่า การคิดถึงเรื่องร้ายหรือการเตรียมใจสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่ดีนั้นช่วยให้เราไม่รู้สึกตกใจหรือท้อแท้เมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ การเตรียมตัวและคิดถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็ช่วยให้เรามีท่าทีที่เข้มแข็งและสามารถจัดการกับปัญหาได้ดีขึ้น

การนึกถึงเรื่องร้ายในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเราต้องจมอยู่กับความคิดเชิงลบตลอดเวลา แต่เป็นการเตรียมความพร้อมทางจิตใจเพื่อให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีสติและมีความสมดุล เมื่อเรามีความเข้าใจและรับมือได้ดีในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เราจะมีความสุขได้มากขึ้นจากความรู้สึกที่ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราสามารถรับมือได้

ดังนั้น แนวคิดของสโตอิกนี้ช่วยให้เรามีความแข็งแกร่งทางจิตใจและมองความสุขในรูปแบบที่เป็นจริงและยั่งยืน

ในหนังสือ "How to live a good life : เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบาย "อิคิไก มองเห็นเส้นชัย หลงใหลกระบวนการ" ว่าอย่างไร
ChatGPT

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" ของนิ้วกลม เขาอธิบายแนวคิดของ "อิคิไก" ว่าเป็นการมองเห็นเส้นชัยในชีวิตและหลงใหลในกระบวนการที่ทำให้เราเดินทางไปถึงจุดนั้น

อิคิไก (Ikigai) เป็นแนวคิดจากญี่ปุ่นที่หมายถึง "เหตุผลในการเป็นอยู่" หรือ "จุดหมายในชีวิต" ซึ่งรวมเอาสิ่งที่เรารัก, สิ่งที่เราทำได้ดี, สิ่งที่เราสามารถทำให้คนอื่นได้รับประโยชน์, และสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเรา แนวคิดนี้สอนให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและความพอใจ โดยการมองเห็นจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และในขณะเดียวกันก็คือการหลงใหลในกระบวนการที่เรากำลังทำอยู่ เพื่อที่จะรู้สึกถึงความสุขและความสำเร็จในทุกๆ วันของชีวิต

ดังนั้น การมี "อิคิไก" หมายถึงการมีความชัดเจนในเป้าหมายชีวิตของเรา และรู้สึกถึงความสนุกสนานในกระบวนการที่เรากำลังเดินทางไปถึงจุดหมายนี้ การมีอิคิไกทำให้ชีวิตเรามีความหมายและความสุขมากยิ่งขึ้น

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ วะบิ-ซะบิ (Wabi-Sabi) ที่ว่า "สงบงามกลางโกลาหล" ไว้ดังนี้:

แนวคิดของวะบิ-ซะบิ ซึ่งเป็นปรัชญาญี่ปุ่นเกี่ยวกับความงามในความไม่สมบูรณ์และความเป็นธรรมชาติสะท้อนให้เห็นถึงการมองหาความสงบและความงามในสถานการณ์ที่ไม่สมบูรณ์และมีความเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน วะบิ-ซะบิให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย ความไม่สมบูรณ์ และความชราภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความงามในธรรมชาติและในสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง

นิ้วกลมอธิบายว่า การมีมุมมองแบบวะบิ-ซะบิ หมายถึงการเรียนรู้ที่จะค้นหาความงามและความสงบในสถานการณ์ที่วุ่นวายหรือไม่สมบูรณ์ การมองเห็นความงามในความเรียบง่ายและความธรรมดา โดยไม่จำเป็นต้องมุ่งหวังให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือการยอมรับและสงบใจในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนหรือมีความยุ่งเหยิง

การ "สงบงามกลางโกลาหล" ในที่นี้หมายถึงการหาความสงบในใจและการพบกับความงามในชีวิตที่มีความไม่สมบูรณ์และความเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ช่วยให้เราไม่ต้องตึงเครียดกับความพยายามในการทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่สามารถยอมรับและชื่นชมสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น วะบิ-ซะบิ สอนให้เราเรียนรู้การรับมือกับชีวิตด้วยท่าทีที่สงบและมีความสุขในความเรียบง่ายและไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกดีและพอใจในทุกๆ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ วะบิ-ซะบิ (Wabi-Sabi) ว่าเป็นการมองชีวิตในแบบที่เรียบง่ายและงดงามในความธรรมดา โดยอธิบายว่าชีวิตที่ดีในมุมมองของวะบิ-ซะบิ คือการเรียนรู้ที่จะชื่นชมและพบความงามในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์และไม่คงที่

วะบิ-ซะบิ เป็นแนวคิดทางญี่ปุ่นที่มองหาความงามในความไม่สมบูรณ์และความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเน้นความเรียบง่ายและความธรรมชาติ ในมุมมองนี้ ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราสามารถยอมรับและชื่นชมความงามในสิ่งที่ธรรมดาและไม่สมบูรณ์แบบ

นิ้วกลมอธิบายว่า การมองชีวิตแบบวะบิ-ซะบิ ทำให้เราเข้าใจและรับรู้ถึงความงามในความเรียบง่าย เช่น ความงามของสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา ความงามของสิ่งที่มีร่องรอยของการใช้งาน หรือความงามของความไม่สมบูรณ์ การหาความสุขจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว และการเห็นคุณค่าในชีวิตประจำวันที่เป็นธรรมดา

โดยการมองชีวิตจากมุมมองของวะบิ-ซะบิ เราจะพบกับความสงบและความพอใจจากสิ่งที่มีอยู่จริงในปัจจุบัน แทนที่จะพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบหรือคาดหวังให้ชีวิตเป็นไปตามมาตรฐานที่สูงเกินไป การใช้ชีวิตในแบบนี้ช่วยให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับสิ่งที่เป็นอยู่และมีความสุขจากการเห็นคุณค่าในความธรรมดาและความไม่สมบูรณ์

ดังนั้น ชีวิตที่ดีในมุมมองวะบิ-ซะบิ คือการเรียนรู้ที่จะชื่นชมความงามในความธรรมดาและไม่สมบูรณ์ของชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เราเป็นคนที่มีความสุขและพอใจในสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตของเรา

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ นิกเซน (Nihilism) ในหลายมุมมองที่เกี่ยวข้องกับความสุขและการใช้ชีวิตที่ดีดังนี้:

  1. นิกเซน ความสุขคืออะไร
    แนวคิดนิกเซนมองว่าความสุขเป็นสิ่งที่หลอกลวงหรือไม่สำคัญ เพราะมันอาจจะเป็นเพียงการหลบหนีจากความจริงที่ว่าโลกนี้ไม่มีความหมายโดยพื้นฐาน หรือไม่มีเป้าหมายที่แท้จริงในชีวิต การเข้าใจว่าความสุขอาจเป็นเพียงการหลอกลวงหรือสิ่งที่ไม่ยั่งยืนช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการพึ่งพาความสุขที่สร้างจากปัจจัยภายนอกและมุ่งไปที่การค้นพบความหมายในสิ่งที่แท้จริง

  2. นิกเซน องค์ประกอบความสุข
    ตามแนวคิดนิกเซน ความสุขอาจถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ของการรับรู้ว่าชีวิตไม่มีความหมายที่แท้จริง ดังนั้น องค์ประกอบของความสุขในมุมมองนี้อาจเกี่ยวข้องกับการยอมรับและเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตที่ไม่มีเป้าหมายหรือความหมายที่แน่นอน ซึ่งอาจทำให้เราเริ่มมองหาความหมายในปัจจุบันโดยไม่ยึดติดกับความสุขที่เป็นเป้าหมายหรือความต้องการของเรา

  3. นิกเซน พักสักนิกส์
    แนวคิดนี้หมายถึงการหยุดพักจากการแสวงหาความสุขหรือความหมายที่อาจดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด การหยุดพักหรือการให้เวลาตนเองในการรับรู้ถึงความว่างเปล่าหรือความไม่แน่นอนของชีวิต เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรามีความสงบและความสุขในสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน การพักสักนิกส์เป็นการรับรู้ว่าไม่จำเป็นต้องหาความหมายหรือความสุขตลอดเวลา เราสามารถยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่และใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่

  4. ชีวิตที่ดีในมุมมองนิกเซน
    ชีวิตที่ดีในมุมมองนิกเซนอาจไม่มุ่งหวังให้มีความหมายหรือความสุขที่เป็นเป้าหมายสูงสุด แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นจริงของชีวิตที่ไม่มีเป้าหมายหรือความหมายที่แน่นอน การมองเห็นความงามและความสงบในสิ่งที่มีอยู่และการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเป็นจริงของชีวิตอย่างมีสติและเป็นธรรมชาติ

โดยรวมแล้ว การมองชีวิตผ่านมุมมองของนิกเซนคือการรับรู้และยอมรับความจริงที่ว่าชีวิตอาจไม่มีความหมายที่แน่นอนหรือความสุขที่ยั่งยืน และมุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพยายามหาความหมายหรือความสุขที่อยู่นอกเหนือสิ่งที่มีอยู่

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ ฮุกกะ (Hygge) ซึ่งเป็นแนวคิดจากเดนมาร์กที่เกี่ยวข้องกับความสุขและการใช้ชีวิตที่ดี ดังนี้:

  1. ฮุกกะ ความสุขคือการกอดคนอื่น
    ความสุขในมุมมองของฮุกกะเน้นที่การเชื่อมโยงและการสร้างความอบอุ่นกับคนรอบข้าง การกอดหรือการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เรารักเป็นการสะท้อนถึงความสุขที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีและความรู้สึกของความเป็นหนึ่งเดียว ฮุกกะมองว่าความสุขมาจากการมีช่วงเวลาที่มีคุณค่ากับคนที่สำคัญในชีวิต เช่น การใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศที่สบายและอบอุ่น

  2. ฮุกกะ ABC ของความสุข

    • A: Aesthetics – ความงามในสิ่งที่เรียบง่ายและธรรมชาติ ฮุกกะให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่สบายและงดงามด้วยสิ่งของที่มีความสวยงามและเรียบง่าย เช่น การตกแต่งบ้านด้วยเทียนหรือผ้าห่มที่นุ่มสบาย
    • B: Bonding – การสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับคนอื่น การใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ในกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิด
    • C: Comfort – ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เช่น การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายที่บ้าน การมีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการให้ความสำคัญกับความรู้สึกสบายและผ่อนคลายในกิจกรรมต่างๆ
  3. ชีวิตที่ดีในมุมมองฮุกกะ
    ชีวิตที่ดีตามมุมมองของฮุกกะคือการสร้างความสุขจากสิ่งที่เรียบง่ายและการเชื่อมโยงกับคนรอบข้างอย่างจริงใจ มันเป็นการให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและการใช้เวลาที่มีคุณค่าในกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดี การมีความสุขในชีวิตที่ดีไม่จำเป็นต้องมีสิ่งของหรือความสำเร็จที่ใหญ่โต แต่เป็นการสร้างความพอใจและความสงบจากสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน

โดยรวมแล้ว ฮุกกะเป็นการมองหาความสุขจากความเรียบง่าย ความสะดวกสบาย และความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิตของเรา การใช้ชีวิตตามแนวคิดนี้ช่วยให้เราสามารถพบความสุขจากการใช้เวลาที่มีคุณค่าและการสร้างบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกดีและอบอุ่น

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ ชิสุ (Chisu) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาความสงบและความเป็นธรรมชาติในชีวิตตามมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนี้:

  1. ชิสุ เย็นเฉียบ-ร้อนฉ่า พาเป็นสุข
    แนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่จะรักษาสมดุลระหว่างความเย็นเฉียบ (การสงบและความควบคุม) และความร้อนฉ่า (ความหลงใหลและความตื่นเต้น) ในชีวิต เพื่อให้ได้ความสุขที่แท้จริง ความสามารถในการจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสุขและความเป็นอยู่ที่ดี การรู้จักควบคุมอารมณ์ในช่วงเวลาที่ต้องการความสงบ และการปล่อยให้ความหลงใหลได้แสดงออกในช่วงเวลาที่เหมาะสม เป็นการช่วยให้เรามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความสมดุล

  2. ชิสุ ประคองไว้ แล้วไปต่อ
    แนวคิดนี้หมายถึงการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความท้าทายและอุปสรรคในชีวิต โดยการประคองความสงบและความเข้มแข็งไว้แม้ในช่วงเวลาที่มีความยากลำบาก การไม่ปล่อยให้ปัญหาหรือความเครียดทำให้เราหยุดนิ่ง แต่กลับมุ่งมั่นและเดินต่อไปในเส้นทางของเรา การรักษาสมดุลทางจิตใจและอารมณ์ในขณะที่เผชิญกับอุปสรรคช่วยให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ดีขึ้น

  3. ชีวิตที่ดีในมุมมองชิสุ
    ชีวิตที่ดีในมุมมองของชิสุคือการมีความสามารถในการรักษาสมดุลระหว่างความสงบและความหลงใหล การจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์ในชีวิตอย่างมีสติ ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและมีความหมาย ความสามารถในการรับมือกับความท้าทายและอุปสรรคในชีวิตด้วยความสงบและความมุ่งมั่น เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างชีวิตที่ดีและมีคุณค่า

โดยรวมแล้ว ชีวิตที่ดีในมุมมองของชิสุคือการหาความสมดุลระหว่างความสงบและความหลงใหล และการรักษาความสงบในใจแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย การจัดการกับอารมณ์และสถานการณ์อย่างมีสติช่วยให้เราสามารถสร้างความสุขและความพอใจในชีวิตได้อย่างยั่งยืน

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมอธิบายแนวคิดของ เดอสแต๊ดนิง (Decluttering) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นไปที่การทำให้ชีวิตเรียบง่ายและมีความสุขด้วยการจัดระเบียบและปล่อยสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ดังนี้:

  1. เดอสแต๊ดนิง จงแวดล้อมตัวเองด้วยสิ่งที่ทำให้เป็นสุข
    แนวคิดนี้เน้นความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความสุขและความสงบในชีวิต การจัดระเบียบและเลือกสิ่งของหรือกิจกรรมที่เรามีความสุขและรู้สึกดีเมื่ออยู่ใกล้ สิ่งที่เราแวดล้อมตัวเองมีผลต่อความรู้สึกและความเป็นอยู่ของเรา การทำให้สภาพแวดล้อมของเราเป็นที่ที่ทำให้รู้สึกดีและผ่อนคลายจะช่วยให้เราเป็นสุขมากขึ้น

  2. เดอสแต๊ดนิง ปล่อยข้าวของไป เก็บไว้เพียงสิ่งสำคัญ
    แนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการปล่อยสิ่งของที่ไม่จำเป็นและการเก็บรักษาเฉพาะสิ่งที่มีความหมายและสำคัญ การทำความสะอาดและจัดระเบียบข้าวของในชีวิตของเรา ช่วยให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญและมีคุณค่าแทนที่จะเป็นภาระที่ไม่จำเป็น การปล่อยวางสิ่งที่เกินความจำเป็นช่วยให้เรามีพื้นที่มากขึ้นทั้งในทางกายภาพและทางจิตใจ

  3. ชีวิตที่ดีในมุมมองเดอสแต๊ดนิง
    ชีวิตที่ดีในมุมมองของเดอสแต๊ดนิงคือการมีชีวิตที่เรียบง่ายและมีการจัดระเบียบที่ดี การมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญและมีความหมาย การปล่อยสิ่งที่ไม่จำเป็นและการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความสุขและความสงบ ช่วยให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีคุณค่า

  4. ชีวิตที่ดีคืออะไร
    ชีวิตที่ดีในมุมมองของเดอสแต๊ดนิงคือการสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมที่ทำให้เรารู้สึกดี การมีความเรียบง่ายในการดำเนินชีวิต และการเก็บรักษาเฉพาะสิ่งที่สำคัญ การปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็นและการจัดระเบียบสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตทำให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของเรา

โดยรวมแล้ว เดอสแต๊ดนิงสอนให้เราเรียนรู้ที่จะรักษาชีวิตให้เรียบง่ายและจัดระเบียบ ทั้งในแง่ของสิ่งของที่เรามีและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งจะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ในหนังสือ "How to Live a Good Life: เราจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร" นิ้วกลมสรุปบทเรียนเกี่ยวกับชีวิตที่ดีจากการศึกษาต่างๆ ว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการมองชีวิตอย่างมีสติและเข้าใจลึกซึ้งในสิ่งที่สำคัญ โดยสรุปแนวคิดหลักที่นิ้วกลมได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตที่ดี มีดังนี้:

  1. การเข้าใจความหมายของชีวิต
    นิ้วกลมเน้นความสำคัญของการค้นหาความหมายและคุณค่าที่แท้จริงในชีวิต ซึ่งไม่สามารถวัดได้จากความสำเร็จภายนอกหรือสิ่งที่เป็นวัตถุเพียงอย่างเดียว แต่ควรมาจากความสัมพันธ์ที่ดี การมีเป้าหมายที่ชัดเจน และการทำสิ่งที่เรารู้สึกว่ามีความหมาย

  2. การมองชีวิตในหลายมิติ
    การใช้ชีวิตที่ดีนั้นต้องมีความเข้าใจในหลายมิติ เช่น การให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและกาย การมีความสัมพันธ์ที่ดี การทำงานที่มีความหมาย และการมีความสุขจากสิ่งที่เรียบง่ายและธรรมดา การสร้างสมดุลระหว่างความท้าทายและความสงบ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข

  3. การเรียนรู้และพัฒนา
    ชีวิตที่ดีเป็นการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ การเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และการเรียนรู้จากความท้าทายและอุปสรรค การเติบโตอย่างต่อเนื่องและการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างชีวิตที่ดี

  4. การรับรู้และยอมรับความไม่สมบูรณ์
    การเรียนรู้ที่จะรับรู้และยอมรับความไม่สมบูรณ์และความไม่แน่นอนในชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิตที่ดี การเข้าใจว่าชีวิตไม่ได้สมบูรณ์แบบและการเรียนรู้ที่จะหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่จริงในปัจจุบันช่วยให้เรามีความสงบและความพอใจ

  5. การให้คุณค่าแก่ความสัมพันธ์และความเชื่อมโยง
    ความสัมพันธ์ที่ดีและการเชื่อมโยงกับผู้อื่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้เรามีความสุขและรู้สึกว่ามีคุณค่าในชีวิต

โดยรวมแล้ว นิ้วกลมเสนอว่า "ชีวิตที่ดี" คือการค้นหาความหมายในชีวิต การมองหลายมิติของชีวิต การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง การยอมรับความไม่สมบูรณ์ และการให้คุณค่ากับความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ทั้งหมดนี้ช่วยให้เรามีชีวิตที่มีความสุขและเต็มไปด้วยคุณค่า.

ไม่มีความคิดเห็น: