นิทานล้านบรรทัด
ประภาส ชลศรานนท์
เรื่อง เกมโชว์
...................
รายการเกมโชว์ที่มีรางวัลเป็น โลกทั้งใบให้ครอง ได้ผ่านมาถึงรอบสุดท้ายแล้ว พิธีกรประกาศเสียงลั่น
“คำถามรอบนี้ ถามเพียงสั้นๆ หากใครตอบแล้วเสียงของคนทั้งโลกโห่ร้องพอใจและตบมือเสียงดังยาวนานที่สุด คนผู้นั้นก็จะได้เป็นแชมป์และรับรางวัลโลกนี้ไปครอง และคำถามคือ...”
พิธีกรหยุดเสียงเพื่อให้ได้ยินคำถามชัดเจน
“1+1 เป็นเท่าไร”
ผู้แข่งขันคนที่หนึ่งซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดที่สุดกดปุ่มได้ก่อนแล้วตอบว่า “มันอยู่ที่ว่า 1นั้นมีค่าเป็น 1 สัมบูรณ์ไหม”
ทนายความเป็นผู้แข่งขันคนที่สองกดปุ่มได้เป็นคนต่อมา “มันอยู่ที่ตัวบทกฎหมายว่าเขียนไว้อย่างไร หากเขียนไว้ว่า 1+1 เท่ากับ 2 เราก็ต้องมาตีความว่า 1+1 มันเป็นอย่างอื่นได้อีกไหม”
ผู้แข่งขันคนคนที่สามและสี่เป็นฝาแฝดกัน และมีอาชีพเป็นนักธุรกิจใหญ่ทั้งคู่ “คุณคิดว่ามันเป็นเท่าไรละ” แฝดคนแรกถามพิธีกรกลับ แฝดคนหลังพูดต่อ “คุณมีตัวเลือกให้เราเลือกไหมละว่ามันควรจะเป็นเท่าไร โจทย์แบบนี้มันน่าจะมีช้อยส์ให้เลือกนะ”นักธุรกิจต่อรองกลับ
มาถึงคนที่ห้าผู้แข่งขันคนนี้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ “ผมคิดว่า1+1 เท่ากับ 1000000 ผมเสนอตัวเลขกลมๆอย่างนี้ก่อน แต่ต้องดูบริบทอื่นประกอบด้วย การรวมกันในของสองสิ่งมันมักมีค่ามากกว่าเดิมเป็นทวีคูณ ผมไม่ได้มองเป็นเครื่องหมายบวกอย่างเดียว”
ผู้แข่งขันคนที่หกกดปุ่มตอบต่อทันทีหลังจากที่นักเศรษฐศาสตร์เพิ่งตอบไป “1.00 บวกกับ1.00 เท่ากับ 2.00” เธอเป็นนักสถิติ
ยังคงเหลือผู้แข่งขันอีกสี่คนที่ยังไม่ได้กดปุ่มตอบ นั่นคือ นักการเมือง กวี นักบวช และเด็กอนุบาล
“หากมิมีใครแก่งแย่งกันแล้ว ดอกไม้คงเผยความจริง” กวีกล่าวขึ้นทำลายความเงียบ “หนึ่งผสานหนึ่ง คำตอบนั้นอยู่ในสายลม”
นักการเมืองหันไปทางนักบวชพนมมือนอบน้อม “นิมนต์ก่อนเลยขอรับ”
นักบวชแต่งชุดขาวซึ่งนับเป็นผู้แข่งขันคนที่แปดตอบว่า “ 1+ 1 เท่ากับ ศูนย์”
ความเงียบเข้าปกคลุมเวทีแข่งขันเกมโชว์ไปพักใหญ่ มีเสียงขานสาธุเบาๆมาจากกลุ่มคนดู อีกมุมหนึ่งมีคนได้ยินเสียงขานรับอาเมนดังขึ้้นด้วย
นักการเมืองขยับตัวมาด้านหน้าเพื่อตอบเป็นคนที่เก้า “สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประชาชน ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อสิ่งนั้น”
พิธีกรทำหน้านิ่วเหมือนจะถามว่านี่คือคำตอบของคำถามที่ว่าหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับเท่าไร แล้วใช่ไหม
“ให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้” นักการเมืองย้ำ
แทบจะไม่มีใครสังเกตเลยว่าเด็กน้อยผู้แข่งขันคนที่สิบซึ่งยืนอยู่ตั้งนานแล้วนั้น มีอาการตัวสั่นเบาๆด้วยความตื่นเต้น เขาตอบเป็นคนสุดท้าย
“1 + 1 เท่ากับ 2 ครับ” เด็กน้อยตอบ
ดนตรีตื่นเต้นดังรับ พิธีกรเดินเข้ามาตรงกลาง
“คำตอบที่ผู้แข่งขันทั้งสิบ ตอบไปหมดแล้ว ท่านผู้ชมพร้อมหรือยังที่จะให้คะแนน ถ้าพร้อมแล้ว เครื่องตรวจรับเสียงตบมือทั่วโลกก็พร้อมแล้ว เมื่อสัญญาณไฟแดงสว่างขึ้นที่จอทีวีท่านตบมือเลยนะครับ ผมจะขานทีละหมายเลข พร้อมนะครับ....”
เรื่อง เกมโชว์
...................
รายการเกมโชว์ที่มีรางวัลเป็น โลกทั้งใบให้ครอง ได้ผ่านมาถึงรอบสุดท้ายแล้ว พิธีกรประกาศเสียงลั่น
“คำถามรอบนี้ ถามเพียงสั้นๆ หากใครตอบแล้วเสียงของคนทั้งโลกโห่ร้องพอใจและตบมือเสียงดังยาวนานที่สุด คนผู้นั้นก็จะได้เป็นแชมป์และรับรางวัลโลกนี้ไปครอง และคำถามคือ...”
พิธีกรหยุดเสียงเพื่อให้ได้ยินคำถามชัดเจน
“1+1 เป็นเท่าไร”
ผู้แข่งขันคนที่หนึ่งซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดที่สุดกดปุ่มได้ก่อนแล้วตอบว่า “มันอยู่ที่ว่า 1นั้นมีค่าเป็น 1 สัมบูรณ์ไหม”
ทนายความเป็นผู้แข่งขันคนที่สองกดปุ่มได้เป็นคนต่อมา “มันอยู่ที่ตัวบทกฎหมายว่าเขียนไว้อย่างไร หากเขียนไว้ว่า 1+1 เท่ากับ 2 เราก็ต้องมาตีความว่า 1+1 มันเป็นอย่างอื่นได้อีกไหม”
ผู้แข่งขันคนคนที่สามและสี่เป็นฝาแฝดกัน และมีอาชีพเป็นนักธุรกิจใหญ่ทั้งคู่ “คุณคิดว่ามันเป็นเท่าไรละ” แฝดคนแรกถามพิธีกรกลับ แฝดคนหลังพูดต่อ “คุณมีตัวเลือกให้เราเลือกไหมละว่ามันควรจะเป็นเท่าไร โจทย์แบบนี้มันน่าจะมีช้อยส์ให้เลือกนะ”นักธุรกิจต่อรองกลับ
มาถึงคนที่ห้าผู้แข่งขันคนนี้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ “ผมคิดว่า1+1 เท่ากับ 1000000 ผมเสนอตัวเลขกลมๆอย่างนี้ก่อน แต่ต้องดูบริบทอื่นประกอบด้วย การรวมกันในของสองสิ่งมันมักมีค่ามากกว่าเดิมเป็นทวีคูณ ผมไม่ได้มองเป็นเครื่องหมายบวกอย่างเดียว”
ผู้แข่งขันคนที่หกกดปุ่มตอบต่อทันทีหลังจากที่นักเศรษฐศาสตร์เพิ่งตอบไป “1.00 บวกกับ1.00 เท่ากับ 2.00” เธอเป็นนักสถิติ
ยังคงเหลือผู้แข่งขันอีกสี่คนที่ยังไม่ได้กดปุ่มตอบ นั่นคือ นักการเมือง กวี นักบวช และเด็กอนุบาล
“หากมิมีใครแก่งแย่งกันแล้ว ดอกไม้คงเผยความจริง” กวีกล่าวขึ้นทำลายความเงียบ “หนึ่งผสานหนึ่ง คำตอบนั้นอยู่ในสายลม”
นักการเมืองหันไปทางนักบวชพนมมือนอบน้อม “นิมนต์ก่อนเลยขอรับ”
นักบวชแต่งชุดขาวซึ่งนับเป็นผู้แข่งขันคนที่แปดตอบว่า “ 1+ 1 เท่ากับ ศูนย์”
ความเงียบเข้าปกคลุมเวทีแข่งขันเกมโชว์ไปพักใหญ่ มีเสียงขานสาธุเบาๆมาจากกลุ่มคนดู อีกมุมหนึ่งมีคนได้ยินเสียงขานรับอาเมนดังขึ้้นด้วย
นักการเมืองขยับตัวมาด้านหน้าเพื่อตอบเป็นคนที่เก้า “สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประชาชน ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อสิ่งนั้น”
พิธีกรทำหน้านิ่วเหมือนจะถามว่านี่คือคำตอบของคำถามที่ว่าหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับเท่าไร แล้วใช่ไหม
“ให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้” นักการเมืองย้ำ
แทบจะไม่มีใครสังเกตเลยว่าเด็กน้อยผู้แข่งขันคนที่สิบซึ่งยืนอยู่ตั้งนานแล้วนั้น มีอาการตัวสั่นเบาๆด้วยความตื่นเต้น เขาตอบเป็นคนสุดท้าย
“1 + 1 เท่ากับ 2 ครับ” เด็กน้อยตอบ
ดนตรีตื่นเต้นดังรับ พิธีกรเดินเข้ามาตรงกลาง
“คำตอบที่ผู้แข่งขันทั้งสิบ ตอบไปหมดแล้ว ท่านผู้ชมพร้อมหรือยังที่จะให้คะแนน ถ้าพร้อมแล้ว เครื่องตรวจรับเสียงตบมือทั่วโลกก็พร้อมแล้ว เมื่อสัญญาณไฟแดงสว่างขึ้นที่จอทีวีท่านตบมือเลยนะครับ ผมจะขานทีละหมายเลข พร้อมนะครับ....”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น