จากhttp://chaliang.com/Board-Detail.asp?ID=11781 เมื่อเช้านี้เอง
มีความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมา
ขออนุญาตนำมาเล่าไว้ในนี้เผื่อทีหัวจะเอาไปบันทึกเก็บไว้
ตอนนั้นเฉลียงทำอัลบั้มอื่นๆอีกมากมาย กับบริษัทครีเอเทียอาร์ตติส
แล้วพวกเราก็นั่งคุยกัน ถึงเทปจะขายดีประมาณหนึ่ง
แต่ทุกคนก็มีภารกิจกันอยู่ แม้แต่เกี๊ยงก็กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ จุ้ยนั้นถึงไม่เรียนแล้วแต่ก็กำลังจะปลุกปล้ำไปยาลใหญ่อยู่ แต๋งมีงานประจำอยู่ที่ยามาฮ่าซาวดน์ ดี้นี่เลิกจากการเป็นดีเจแล้ว และกำลังเป็นนักแต่งเพลงมือทองของแกรมมี่ ส่วนเจี๊ยบเป็นนักแสดงอิสระที่มีงานแสดงล้นมือมาก
ก็คุยๆกันว่าจะพัก
แล้วก็คุยกันต่อว่าทำคอนเสิร์ตส่งท้ายก่อนพักหน่อยไหม
ผมก็เลยไปลองคุยกับครีเอเทีย รู้สึกหุ้นส่วนบางคนของเขาไม่เห็นด้วย เหตุผลคือแฟนเพลงของเฉลียงไม่น่าเยอะพอที่จะจัดคอนเสิร์ตได้ แล้วรายการทีวีก็มีฟรีคอนเสิร์ตเต็มไปหมด ทั้งโลกดนตรี ทั้งคอนเสิร์ตแดดเดียว ทั้งเจ็ดสีคอนเสิร์ต ฯลฯ จัดไปก็รังแต่จะเสี่ยงต่อการขาดทุน
ผมก็ยืนยันไปว่า เราอยากทำคอนเสิร์ต ถ้าบริษัทไม่ทำ พวกเราจะทำกันเอง
แล้วผมก็คุยกับจุ้ยต่ออีกหลายครั้ง (คอนเสิร์ตนี้จุ้ยอยากทำและตื่นเต้นที่จะทำมากที่สุด เพราะถ้าใครเคยอ่านประวัติของเขา น่าจะจำได้ว่าตอนเป็นนิสิตเขาเคยไปช่วยเขาทำคอนเสิร์ต ไปช่วยยกไฟแล้วก็ใฝ่ฝันว่า วันหนึ่งเขาจะไปยืนบนเวทีคอนเสิร์ตให้ได้)
ประจวบกับมีน้องๆจากธรรมศาสตร์ มาติดต่อขอทำคอนเสิร์ตเฉลียงเพื่อหาทุนทำอะไรสักอย่าง
(นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคอนเสิร์ตนี้จึงจัดที่ธรรมศาสตร์)
พวกเฉลียงนี่ตลก วงจรชีวิตของวงนี้ข้องเกี่ยวกับการกุศลตลอด ราวกับว่าถ้าไม่เกี่ยวกับการกุศลแล้วจะจัดไม่ได้ อะไรทำนองนี้
ระหว่างนั้นผมก็ยังคุยกับครีเอเทียตลอด เพราะไม่อยากกินใจกันในเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าจะคุยอย่างไรเขาก็มองว่าไม่น่าจัด ยิ่งมารู้จากปากผมว่า คอนเสิร์ตนี้ชื่อคอนเสิร์ตปิดอัลบั้ม เขายิ่งไม่เห็นด้วยอย่างแรง
อันนี้ต้องบอกก่อน สมัยนั้นไม่เคยมีหรอกคอนเสิร์ตปิดอัลบั้ม มีก็แต่เปิดอัลบั้ม ใครเขาจะบ้าไปปิดอัลบั้ม ฟังดูไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง (ชื่อปิดอัลบั้มนี่ คนคิดคือนายจุ้ย ผมฟังครั้งแรกผมหัวเราะก๊ากเลย แล้วก็ชอบมากชื่อนี้ มันฟังดูขวางโลกแบบน่ารักสไตล์เฉลียง)
สุดท้ายเราก็เลยมาทำคอนเสิร์ตนี้ร่วมกับน้องๆธรรมศาสตร์ ที่ธรรมศาสตร์
แล้วก็เลยกลายเป็นรอยบาดหมางเล็กๆกับครีเอเทีย (แต่เดี๋ยวนี้หายแล้ว เจอกันกับพรรคพวกเก่าๆครีเอเทียยังได้รื้อฟื้นความหลังอันขบขันกันสนุกอยู่ เลย)
จึงพออนุมานสรุปได้ว่า คอนเสิร์ตนี้คือคอนเสิร์ตปิดอัลบั้มครั้งแรกของประเทศไทย
คอนเสิร์ตนี้เป็นชนวนทำให้ผมต้องมาก่อตั้ง คีตา เพราะครีเอเทียเขาไม่เอาเราแล้ว ไม่น่าเกลียดใช่ไหมถ้าจะบอกว่าเพราะกลัวเฉลียงไม่มีบริษัทเทปไหนจะออกเทปให้ เลยไปยุให้พี่สมพงษ์เขาตั้งบริษัทเทปขึ้นมาใหม่
โดยคุณ :พี่จิก - [7:28:18 15 ส.ค. 2552]
วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552
หนีตามเฉลียง
หนีตามเฉลียง" --- เรื่องเล่าจากพี่จิก :+:+:
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น