วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เหมือนก่อไฟก่อฟืนแล้วไฟคุ

เหมือนก่อไฟก่อฟืนแล้วไฟคุ


โอ้หน้าหนาวแล้วหนาเจ้าข้าเอ๋ย
กระไรเลยยังร้อนรุ่มทุกเรือกไร่
ใครมาบอกวิบัติคงขัดใจ
ทั้งที่ไฟไล่รุนใต้ถุนเรือน

ถึงยามนอนนอนไม่หลับคล้ายจับจด
หวาดไปหมดบ้านใต้ใครจะเหมือน
พระพายซ่านผ่านล่วงทรวงสะเทือน
อีกกี่เดือนล่วงลับจะดับลง

ฝ่ายหนึ่งนั่งตั้งแง่แต่เรื่องเก่า
อีกฝ่ายเย้าแยกยุดที่พุทธสงฆ์
แบ่งมนุษย์มุสลิมให้ร้าวลง
ฝ่ายหนึ่งถือมั่นคงตรงอุบาย

ฝ่ายหนึ่งมุ่งพุ่งตรงประจงจ้อง
เหมือนไม่ใช่พี่น้องคลองร่วมสาย
ทุกวารวันฟันคอให้ขาดตาย
ต้องเป็นผีกี่ร้อยรายไม่เว้นวาง

ที่ตากใบวิปโยคโลกย่อมเศร้า
ธูปและเทียนเปลี่ยนเข้าทุกกระถาง
คนละใจสองใจมอบให้พลาง
อีสานกลางยังปันทุกวันคืน

มีอะไรเราก็แบ่งไม่แคลงจิต
เนาอย่างมิตรคิดอย่างญาติไม่ขัดขืน
คริสต์หรือพุทธมุสลิมเรากลมกลืน
ยังแช่มชื่นชิดกันเป็นสันดาน

เลิกหักโหมโจมจับสัประยุทธ์
ให้ม้วยมุดยับแยกแตกกระสาน
ชัยชนะบนซากพังไม่กังวาน
เหมือนเผาถ่านได้เถ้าเอาอันใด

พระแม่ของแผ่นดินยังทรงตรัส
ให้เร่งรัดสร้างสันติทันวิสัย
อย่ามัวคิดหลบหลีกว่าอีกไกล
พี่น้องพบประสบภัยไม่ไกลเลย

เหมือนก่อไฟก่อฟืนแล้วไฟคุ
สะเก็ดแตกปุปุพ่อคุณเอ๋ย
กระดอนติดกองฟางสว่างเลย
อย่าแชเชือนเฉยๆ เพราะชินตา

ขอพรองค์อัลเลาะห์อัลหล่าเจ้า
สยามท้าวเทวราชที่รักษา
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงเมตตา
ช่วยดับไฟให้ประชาร่มเย็นเทอญฯ

จาก คอลัมน์ คุยกับประภาส(มติชนวันอาทิตย์)
โดย ประภาส ชลศรานนท์
21/11/2547 : เหมือนก่อไฟก่อฟืนแล้วไฟคุ
คอลัมน์ คุยกับประภาส โดย ประภาส ชลศรานนท์ เซคชั่น
อาทิตย์สุขสรรค์

ไม่มีความคิดเห็น: