Alfred Adler, ผู้ก่อตั้ง **Adlerian Psychology**, มีมุมมองที่โดดเด่นเกี่ยวกับการพัฒนาความกล้า (Courage) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาตัวเองเพื่อเผชิญกับความท้าทายในชีวิตและการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ โดย Adler มองว่าความกล้าเป็นส่วนสำคัญของการเอาชนะความรู้สึกด้อยค่า (Inferiority) และการพัฒนาความสามารถในการมีชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมและในตนเอง
All Problems are Interpersonal Relationship Problems ปัญหาทั้งหมดคือปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
Alfred Adler & The Courage to Be Disliked
แอดเลอร์เชื่อว่าปัญหาทั้งหมดคือปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ฟังดูบ้าๆ ในตอนแรก แต่ยิ่งคิดมากขึ้น ฉันก็ยิ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ทะเลาะกับคู่สมรสของคุณเหรอ? แน่นอนว่าเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล กังวลที่จะนำเสนอหรือเปล่า? ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล: ความสัมพันธ์ของคุณกับผู้ฟังและการรับรู้ของพวกเขาที่มีต่อคุณ ปมด้อย? ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล: การรับรู้ส่วนตัวของคุณเกี่ยวกับตัวเองเมื่อเทียบกับผู้อื่นเป็นลบ
วิธีแก้ปัญหานั้นง่ายแต่ไม่ง่าย คุณต้องแยก "งานในชีวิต" ของคุณออกจากงานในชีวิตของผู้อื่น คุณไม่สามารถควบคุมสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณได้ ดังนั้นทำไมต้องกังวลด้วย คุณไม่สามารถควบคุมได้ว่าคนอื่นจะนอกใจหรือเอาเปรียบคุณหรือไม่ ดังนั้นจงเข้าหาความสัมพันธ์ด้วยความไว้วางใจอย่างไม่มีเงื่อนไข สิ่งนี้สรุปได้ว่าเป็นการยอมรับตัวเอง หากคุณรู้สึกสบายใจในตัวเองและควบคุมสิ่งที่คุณควบคุมได้ สิ่งอื่นใดก็ไม่สำคัญ จงกล้าที่จะถูกคนอื่นรังเกียจและใช้ชีวิตในแบบของคุณเอง หากมีใครไม่ชอบคุณ นั่นหมายความว่าคุณใช้ชีวิตอย่างอิสระในแบบที่คุณต้องการ
Confidence in Others ความมั่นใจในผู้อื่น
ไม่ได้หมายความว่าเราควรหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อชีวิตที่มีความหมาย แต่เราต้องเข้าหาความสัมพันธ์เหล่านี้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง แอดเลอร์แยกแยะความสัมพันธ์ในแนวตั้งและแนวนอน ความสัมพันธ์ในแนวตั้งมีลำดับชั้น เช่น เจ้านาย/ลูกจ้าง พ่อแม่/ลูก โค้ช/ผู้เล่น ความสัมพันธ์ในแนวนอนมีความเท่าเทียมกันและปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกัน แอดเลอร์เชื่อว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดควรเป็นแนวนอน เราควรมีความมั่นใจในผู้อื่นและไม่พยายามจัดการหรือบงการ (หรือถูกบงการ)
Contribution to Others การมีส่วนสนับสนุนผู้อื่น
นอกเหนือจากการยอมรับตนเองและความมั่นใจในผู้อื่นแล้ว เสาหลักที่สามในมุมมองของ Adler เกี่ยวกับชีวิตที่มีความสุขก็คือความรู้สึกว่าคุณมีส่วนสนับสนุนผู้อื่น คุณไม่จำเป็นต้องมีส่วนสนับสนุนผ่านการกระทำของคุณด้วยซ้ำ จงตระหนักว่าการเป็นเพียงตัวของตัวเองก็มีส่วนสนับสนุนผู้อื่นได้ ปู่ย่าตายายสูงอายุในบ้านพักคนชราไม่ได้หมายความว่าจะ "ทำ" อะไรที่เป็นประโยชน์ได้มากนัก แต่เธอเป็นที่รักของครอบครัวและการมีอยู่ของเธอทำให้ชีวิตของพวกเขามีคุณค่ามากขึ้น การรับรู้และยอมรับสิ่งนี้คือกุญแจสำคัญของความสุข เสาหลักสามประการของ Adler ได้แก่ Self-acceptance, confidence in others, and contribution to others reinforce each other in a positive feedback loop การยอมรับตนเอง ความมั่นใจในผู้อื่น และการมีส่วนสนับสนุนผู้อื่นจะเสริมซึ่งกันและกันในวงจรการตอบรับเชิงบวก
Life is Like a Series of Moments ชีวิตก็เหมือนกับช่วงเวลาต่างๆ
สิ่งสำคัญประการสุดท้ายคือการเข้าใจว่าชีวิตคือช่วงเวลาต่างๆ ให้คิดว่าชีวิตเป็นเหมือนการเต้นรำ เมื่อคุณเต้นรำกับคู่ของคุณ คุณอาจลงเอยที่จุดที่แตกต่างไปจากจุดเริ่มต้น แต่การย้ายจากจุด A ไปยังจุด B ไม่ใช่เป้าหมาย การเต้นรำต่างหากคือเป้าหมาย ชีวิตก็คล้ายๆ กัน หากคุณทุ่มเทชีวิตทั้งหมดให้กับการบรรลุเป้าหมายเฉพาะ แต่ทำไม่ได้ คุณจะรู้สึกว่าตัวเองไร้ความหมาย จงมุ่งเน้นไปที่การเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง คุณไม่สามารถควบคุมอดีตหรืออนาคตได้ แต่ควบคุมปัจจุบันได้เท่านั้น ดังนั้น จงโอบรับมัน เพลิดเพลินกับมัน และใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีสติ
### ขั้นตอนในการพัฒนาความกล้าตามแนวทางของ Alfred Adler
#### 1. **ยอมรับความรู้สึกด้อยค่า (Inferiority) และแปลงมันเป็นแรงบันดาลใจ**
- **Adler** เชื่อว่าความรู้สึกด้อยค่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญในชีวิต และมันสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา หากเราเลือกที่จะใช้มันเป็นแรงผลักดันในการปรับปรุงตัวเองแทนที่จะหลีกหนีจากมัน
- **แนวทาง**: เรียนรู้ที่จะยอมรับความรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง แทนที่จะหลีกเลี่ยงหรือหมกมุ่นกับความรู้สึกนั้น ให้ใช้มันเป็นแรงกระตุ้นให้คุณพัฒนาทักษะหรือทำสิ่งที่กลัว เช่น ถ้าคุณรู้สึกด้อยในเรื่องการพูดในที่สาธารณะ คุณอาจเริ่มฝึกฝนการพูดด้วยการฝึกในกลุ่มเล็กๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
#### 2. **ตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย (Set Challenging Goals)**
- การตั้งเป้าหมายที่มีความหมายและท้าทายจะช่วยกระตุ้นให้คุณก้าวออกจากเขตความสะดวกสบาย และเสริมสร้างความกล้าในการทำสิ่งใหม่ๆ
- **แนวทาง**: กำหนดเป้าหมายที่มีความท้าทายแต่สามารถทำได้จริง เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือการเผชิญกับสิ่งที่คุณเคยหลีกเลี่ยง เช่น การเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า หรือการทำงานที่ต้องการทักษะใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือการตั้งเป้าหมายที่พอดีกับความสามารถของคุณและสามารถทำได้ในระยะเวลาที่คุณกำหนด
#### 3. **เรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและคนอื่น**
- Adler เชื่อในการเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตทั้งของตัวเองและของผู้อื่น เพราะมันช่วยให้เราเข้าใจถึงวิธีการแก้ปัญหาหรือเผชิญกับความท้าทายอย่างมีสติ
- **แนวทาง**: สะท้อนถึงประสบการณ์ของคุณเองโดยถามตัวเองว่า “ฉันเคยเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในอดีตได้อย่างไร?” และใช้ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นแนวทางในการจัดการกับความกลัวในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังควรฟังคำแนะนำจากผู้ที่ผ่านประสบการณ์คล้ายๆ กัน เพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีที่มีประสิทธิภาพในการเผชิญกับความกลัว
#### 4. **พัฒนาความมั่นใจในตนเอง (Self-Confidence)**
- การสร้างความมั่นใจในตนเองเป็นการเสริมสร้างความกล้าหาญในการเผชิญกับสิ่งที่ท้าทาย ความมั่นใจในตัวเองช่วยให้เรากล้าที่จะทำสิ่งที่กลัว
- **แนวทาง**: ฝึกฝนการทำสิ่งที่ยากๆ และประสบความสำเร็จเล็กๆ ในการทำสิ่งเหล่านั้น เช่น เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ให้แบ่งขั้นตอนการทำให้เป็นส่วนเล็กๆ และเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆ เมื่อทำได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้คุณกล้าที่จะทำสิ่งที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต
#### 5. **พัฒนาความรับผิดชอบต่อผู้อื่น (Social Interest & Community Feeling)**
- ตามแนวคิดของ Adler, การที่เราให้ความสำคัญกับผู้อื่นและสังคมจะช่วยให้เรารู้สึกมีคุณค่าและมีความกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาได้ เพราะเมื่อเราใส่ใจและช่วยเหลือผู้อื่นจะทำให้เราเติบโตทั้งในด้านจิตใจและความกล้า
- **แนวทาง**: เริ่มต้นจากการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นในทางใดทางหนึ่ง เช่น การช่วยเหลือเพื่อน, การทำงานอาสาสมัคร, หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาชุมชน การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นและทำให้คุณรู้สึกกล้าที่จะทำสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นในชีวิต
#### 6. **ยอมรับความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต**
- **Adler** เชื่อว่า "ความล้มเหลว" ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา การยอมรับความล้มเหลวช่วยให้เรามีความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยไม่กลัวผลลัพธ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ
- **แนวทาง**: เมื่อคุณเผชิญกับความล้มเหลว, มองมันเป็นโอกาสในการเรียนรู้ แทนที่จะท้อถอย ให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ฉันได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้?" และใช้ความผิดพลาดเป็นแรงกระตุ้นในการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น
#### 7. **ทำงานในสิ่งที่คุณรักและสร้างความหมายให้กับชีวิต**
- เมื่อคุณทำสิ่งที่มีความหมายและเชื่อมโยงกับคุณค่าของตัวเอง, คุณจะรู้สึกกล้าในการทำสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น เพราะมันจะมีแรงบันดาลใจจากภายใน
- **แนวทาง**: ค้นหาว่าคุณสนใจและรักอะไรในชีวิต เช่น การทำงานที่มีผลกระทบต่อผู้อื่น, การทำงานศิลปะ, หรือการทำกิจกรรมที่มีคุณค่า ให้ทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความกล้าในการทำสิ่งที่ท้าทายในชีวิต
#### 8. **พัฒนาทักษะการเผชิญหน้ากับความกลัว (Confronting Fear)**
- การเผชิญหน้ากับความกลัวเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการพัฒนาความกล้า Adler แนะนำให้เราเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวอย่างช้าๆ เพื่อให้เราได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน
- **แนวทาง**: ทำงานกับความกลัวของตัวเอง โดยเริ่มจากการเผชิญหน้ากับมันในระดับเล็กๆ ก่อน เช่น ถ้าคุณกลัวการพูดในที่สาธารณะ, คุณอาจเริ่มจากการพูดในกลุ่มเล็กๆ ก่อนแล้วค่อยๆ ขยายไปสู่การพูดในที่ที่มีผู้ฟังมากขึ้น
### สรุป:
ตามแนวทางของ **Alfred Adler**, การพัฒนาความกล้าเกี่ยวข้องกับการยอมรับและใช้ความรู้สึกด้อยค่าเป็นแรงผลักดัน, การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย, การพัฒนาความมั่นใจในตัวเอง, และการมีส่วนร่วมในสังคมเพื่อให้เกิดความรู้สึกมีคุณค่า สิ่งสำคัญคือการเผชิญหน้ากับความกลัวและความล้มเหลวด้วยทัศนคติที่เปิดกว้างและมองหาการเติบโตจากทุกประสบการณ์
การพัฒนาความกล้าตามแนวทางของ Alfred Adler สามารถทำได้ผ่าน สี่ขั้นตอนหลัก ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและสร้างความกล้าในชีวิต โดยที่แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นใจและพัฒนาทักษะในการเผชิญกับความท้าทาย ดังนี้:
1) Base interpersonal relationships on respect and trust (สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นบนพื้นฐานของความเคารพและความไว้วางใจ)
Adler เชื่อว่า ความสัมพันธ์ที่มีสุขภาพดี เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาความกล้า เพราะเมื่อคุณรู้สึกว่าคุณได้รับความเคารพและไว้วางใจจากผู้อื่น คุณจะกล้าแสดงตัวตนและเผชิญหน้ากับความท้าทายได้มากขึ้น
- รายละเอียด: การสร้างความสัมพันธ์ที่มีความเคารพและไว้วางใจกันทำให้คุณรู้สึกมั่นคงและสามารถเปิดเผยตัวตนได้โดยไม่ต้องกลัวการถูกตัดสินหรือวิจารณ์ หากคุณรู้สึกว่าคนรอบข้างมีความเคารพในตัวคุณ คุณจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในการพัฒนาความกล้าในการทำสิ่งต่างๆ
- ตัวอย่าง: ใช้ทักษะในการฟังที่ดี, ให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดเผยและซื่อสัตย์, และแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อความคิดและความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่มั่นคง
2) Recognize differences in personality (ตระหนักถึงความแตกต่างของบุคลิกภาพ)
Adler เชื่อว่าเราแต่ละคนมี บุคลิกภาพที่แตกต่างกัน และการยอมรับความแตกต่างเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจตนเองและคนอื่นได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความกลัวในการเผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
- รายละเอียด: การเข้าใจว่าแต่ละคนมีวิธีการคิดและการทำงานที่แตกต่างกันช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เหมือนกับคนอื่น การยอมรับในความแตกต่างจะทำให้คุณกล้าแสดงตัวตนและใช้จุดแข็งของตัวเองได้
- ตัวอย่าง: หากคุณพบว่าคนในทีมของคุณมีวิธีการทำงานที่แตกต่างจากคุณ เช่น บางคนอาจทำงานได้รวดเร็ว แต่คุณอาจชอบทำงานช้าและละเอียด การยอมรับความแตกต่างเหล่านี้ช่วยให้คุณรู้สึกมั่นคงในการทำงานของตัวเองและไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
3) Turn weaknesses into strengths (เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง)
ตามแนวคิดของ Adler, ทุกคนมี จุดอ่อน หรือความท้าทายที่ต้องเผชิญ และแทนที่จะมองว่าจุดอ่อนเหล่านั้นเป็นอุปสรรค คุณสามารถเปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็น จุดแข็ง ได้โดยการใช้มันเป็นแรงผลักดันในการเติบโตและพัฒนา
- รายละเอียด: จุดอ่อนหรือความกลัวสามารถกลายเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา หากคุณมองว่า "ความกลัว" เป็นสัญญาณว่าเรากำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ มันจะทำให้คุณกล้าที่จะเผชิญกับสถานการณ์นั้นแทนที่จะหลีกหนีจากมัน
- ตัวอย่าง: หากคุณกลัวการพูดในที่สาธารณะ แทนที่จะหลีกเลี่ยงมัน คุณอาจฝึกฝนตัวเองให้พูดในที่สาธารณะบ่อยขึ้น จนกระทั่งการพูดกลายเป็นทักษะที่คุณสามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ
4) Allow occasional confrontation (อนุญาตให้มีการเผชิญหน้าเป็นบางครั้ง)
Adler เชื่อว่า การเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากๆ หรือการเผชิญหน้ากับคนอื่นในบางครั้ง เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาความกล้า การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ามักทำให้เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รายละเอียด: การเผชิญหน้าบางครั้งเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาความกล้าและการเผชิญกับความท้าทายอย่างตรงไปตรงมา การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทำให้เราไม่สามารถเรียนรู้จากสถานการณ์นั้นๆ หรือไม่สามารถพัฒนาความกล้าในการเผชิญหน้ากับปัญหาหรือคนอื่นๆ ได้
- ตัวอย่าง: หากมีปัญหาหรือความไม่พอใจในความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว แทนที่จะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกัน คุณอาจลองใช้วิธีที่เปิดเผยและตรงไปตรงมาในการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาหรือความเข้าใจผิด การทำเช่นนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และทำให้คุณรู้สึกกล้าที่จะเผชิญกับสถานการณ์ในอนาคต
สรุป:
การพัฒนาความกล้าตามแนวทางของ Alfred Adler สามารถทำได้ผ่าน สี่ขั้นตอนหลัก ที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี, การยอมรับความแตกต่างในบุคลิกภาพ, การเปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง, และการอนุญาตให้มีการเผชิญหน้าบางครั้ง การทำตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้คุณพัฒนาความกล้าในการเผชิญกับความท้าทายในชีวิตและเติบโตในด้านจิตใจและอารมณ์ได้อย่างมั่นคง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น