Design your life to conquer humanity happily.
1. การเข้าใจความสุข
- นิยามความสุข: ความสุขคืออะไร?
- ความสำคัญของความสุข: ทำไมความสุขถึงสำคัญในชีวิต?
- Martin Seligman: นิยามความสุขผ่านแนวคิด PERMA (Positive Emotion, Engagement, Relationships, Meaning, Accomplishment) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าความสุขมาจากความรู้สึกดี การมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่น่าสนใจ ความสัมพันธ์ที่ดี ความหมายในชีวิต และการบรรลุเป้าหมาย
- Sonja Lyubomirsky: ระบุว่า ความสุขคือการประสบความสำเร็จในชีวิตที่เต็มไปด้วยความพอใจและการมีความสุขในทุกๆ วัน โดยไม่จำกัดแค่ความรู้สึกดีชั่วขณะ
- Richard Easterlin: เสนอว่า ความสุขไม่ใช่แค่ระดับรายได้หรือความมั่งคั่ง แต่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคนและความพอใจในชีวิต โดยเชื่อว่าหลังจากระดับรายได้ที่เพียงพอ ความสุขไม่เพิ่มขึ้นตามรายได้
- Diane Coyle: สนับสนุนแนวคิดว่า ความสุขควรถูกมองในบริบทของคุณภาพชีวิตและสวัสดิการ ซึ่งรวมถึงปัจจัยเชิงสังคมและจิตใจ
- Aristotle: นิยามความสุขว่าเป็น eudaimonia หรือ "การมีชีวิตที่ดี" ซึ่งมาจากการใช้เหตุผลและการพัฒนาคุณธรรม
- John Stuart Mill: ให้ความสำคัญกับความสุขในฐานะผลรวมของความพอใจและการหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด
- Well-Being: มีแนวคิดที่เน้นถึงความเป็นอยู่ที่ดีซึ่งรวมถึงสุขภาพจิต, ความสัมพันธ์, ความหมายในชีวิต, และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ทำให้มีความสุข
2. การค้นหาความหมาย จาก หนังสือ "Man's Search for Meaning" โดย Viktor Frankl
- การตั้งเป้าหมาย: วิธีการตั้งเป้าหมายที่มีความหมาย
- การสร้างวิสัยทัศน์: การมองเห็นอนาคตที่ต้องการ
1. การค้นหาความหมายผ่านประสบการณ์
- Frankl เน้นว่าความหมายสามารถพบได้ในทุกสถานการณ์ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่น การเผชิญกับความทุกข์และความทุกข์ทรมาน
- ผู้คนสามารถหาความหมายในชีวิตจากการใช้ประสบการณ์ที่ท้าทายเหล่านี้เป็นแรงผลักดันในการเติบโต
2. ความสำคัญของการมีจุดมุ่งหมาย
- Frankl กล่าวถึง "การมีจุดมุ่งหมาย" ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต โดยผู้ที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตจะมีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคได้ดีขึ้น
- เขาเสนอให้ตั้งคำถามว่า "ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์นี้?" แทนที่จะถามว่า "ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นกับฉัน?"
3. การใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจ
- ความรักต่อผู้อื่นสามารถช่วยให้เราพบความหมายในชีวิต Frankl ยกตัวอย่างถึงความรักที่เขามีต่อภรรยา ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้เขายังมีความหวังแม้ในช่วงที่ต้องเผชิญความทุกข์
4. การรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง
- Frankl เน้นว่าเรามีความรับผิดชอบในการค้นหาความหมายและเลือกท่าทีในการเผชิญกับชีวิต ไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม
- เขาใช้คำว่า "การตัดสินใจในแบบที่เราเลือก" ว่าความหมายของชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเอง
5. การมองหาความหมายในสิ่งที่ทำ
- ค้นหาความหมายในงานที่ทำ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจและคุณค่าของตนเอง
- Frankl ย้ำว่าแม้ในงานที่เรียบง่าย หากเราสามารถมองเห็นความสำคัญและผลกระทบของมัน จะช่วยสร้างความหมายในชีวิต
6. การเข้าใจว่าชีวิตมีความหมายในทุกช่วง
- Frankl สอนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชีวิตมีความหมายในตัวของมันเอง ซึ่งเราสามารถค้นพบได้ตลอดเวลา
- การมีจิตใจที่เปิดกว้างต่อประสบการณ์ชีวิตและการเรียนรู้จะช่วยให้เราสามารถค้นหาความหมายในทุกสถานการณ์เพ
3. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
- การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ: เทคนิคการฟังและพูดคุย
- การสร้างและรักษามิตรภาพ: วิธีการสร้างเครือข่ายสนับสนุน
Robert Waldinger เป็นหนึ่งในนักวิจัยหลักของ Harvard Study of Adult Development ซึ่งเป็นการศึกษาเชิงยาวนานเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนและความสุขในวัยผู้ใหญ่ เขาได้เน้นถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิตอย่างชัดเจน โดยมีข้อคิดหลักๆ ดังนี้:
1. ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ
- Waldinger ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดี โดยเฉพาะกับครอบครัวและเพื่อน มีความสำคัญต่อสุขภาพจิตและความสุขในชีวิต การมีคนที่เราเชื่อถือและสามารถพึ่งพาได้เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความพอใจในชีวิต ความสัมพันธ์ทางสังคมมีผลต่อเรามาก คุณภาพของความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญ ความสัมพันธ์ที่ดีช่วยปกป้องสมองของเราได้
2. การสื่อสารที่เปิดเผย
- การสื่อสารที่ดีและเปิดเผยระหว่างกันช่วยสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น การแลกเปลี่ยนความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาทำให้เกิดการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้ง
3. การสนับสนุนซึ่งกันและกัน
- การให้การสนับสนุนในยามที่มีความท้าทายหรือปัญหาช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น การมีคนที่สามารถช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ถือเป็นความสุขที่สำคัญ
4. การใช้เวลาอยู่ร่วมกัน
- การใช้เวลาร่วมกันในกิจกรรมที่มีความหมายช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ การมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันทำให้เกิดความทรงจำที่ดีและสร้างความผูกพัน
5. การให้อภัยและความอดทน
- ความสามารถในการให้อภัยและอดทนต่อกันในความสัมพันธ์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี การยอมรับข้อบกพร่องและข้อจำกัดของกันและกันช่วยให้ความสัมพันธ์มีความยั่งยืน
ชีวิตสั้นนัก จนไม่มีเวลา สำหรับการทะเลาะ การขอโทษ การอิจฉาริษยา และการต่อว่า มีเพียงเวลาเพื่อรัก และจะว่าไปแล้ว ก็แสนสั้นเช่นกันมาร์ก ทเวน (Mark Twain)
6. การให้ความสำคัญกับความสุขของผู้อื่น
- Waldinger กล่าวถึงความสำคัญของการมองเห็นและใส่ใจต่อความสุขของคนรอบข้าง การมีจิตใจที่ดีต่อกันสร้างบรรยากาศที่ดีในความสัมพันธ์
การศึกษา Harvard Study of Adult Development สรุปได้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในระยะยาวอีกด้วย!
ความสุขและสุขภาพที่ดีของชีวิตมาจากความสัมพันธ์ที่ดี (Good relationships keep us happier and healthier) โดยพบว่าการมีความสัมพันธ์ทางสังคม (social connections) ที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเราผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวกับเพื่อนกับคนรอบข้างจะเป็นผู้ที่มีสุขภาพที่แข็งแรงมีความสุขและอายุยืนมากกว่า พวกที่ชอบอยู่ตัวคนเดียวไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ผู้ที่ชอบอยู่คนเดียวหรือปลีกตัวจากสังคมและผู้อื่นจะกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความสุขสุขภาพจะเริ่มเสื่อมโทรม เมื่อถึงวัยกลางคนการทำงานของสมองจะเสื่อมเร็วกว่าและสุดท้ายมักจะเป็นผู้ที่มีอายุสั้นกว่า
อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าจะต้องมีเพื่อนเยอะๆ มีคนรู้จักเยอะๆ แล้วจะมีความสุขสุขภาพดีอายุยืนนะครับ ที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพของความสัมพันธ์ที่มีอยู่ด้วยครับ การใช้ชีวิตอยู่กับบุคคลรอบข้างโดยเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างกันนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำลายสุขภาพ ยิ่งถ้าเป็นชีวิตสมรสที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งโดยขาดความรักระหว่างกันนั้น พบว่าส่งผลต่อสุขภาพยิ่งกว่าการหย่าร้างกันเสียอีกครับ
สรุปง่ายๆ คือความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดระหว่างบุคคลจะส่งผลดีต่อสุขภาพและความสุขของเรา ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องใหม่เลยนะครับเป็นสิ่งที่พูดและสั่งสอนกันมานาน เพียงแต่ในปัจจุบันเราอาจจะไปให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเงินทองหรือชื่อเสียงหรือการทำงานหนักแทนที่จะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคล เคยได้ยินหรืออ่านเจอว่าคนใกล้ตายคนไหนไหมครับที่มาเสียใจก่อนเสียชีวิตว่า “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะใช้เวลาบนโต๊ะทำงานและห้องประชุมให้มากกว่านี้”
1. ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพคือกุญแจสู่ความสุข
- ความสัมพันธ์ที่ดีและการมีคนที่รักใกล้ชิดมีความสำคัญที่สุดต่อความสุขและความพอใจในชีวิต การมีเครือข่ายสนับสนุนช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก
2. ความสัมพันธ์ที่ดีมีผลต่อสุขภาพ
- ผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมักมีสุขภาพกายและจิตที่ดีกว่า รวมถึงมีอายุยืนยาวขึ้น โดยความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพช่วยลดความเครียดและเพิ่มความรู้สึกของความปลอดภัย
3. การสื่อสารที่เปิดเผย
- การพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยในความสัมพันธ์ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นขึ้น
4. การทำกิจกรรมร่วมกัน
- การใช้เวลาร่วมกันในกิจกรรมที่มีความหมายหรือสนุกสนานช่วยสร้างความทรงจำที่ดีและความผูกพันระหว่างกัน
5. ความสามารถในการให้อภัย
- การให้อภัยและการอดทนต่อกันในความสัมพันธ์ช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน แม้จะมีความขัดแย้งหรือปัญหาเกิดขึ้น
6. การดูแลตัวเอง
- นอกจากความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว การดูแลสุขภาพจิตและกายของตนเองก็มีความสำคัญ ควรให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มพูนความสุขในชีวิตประจำวัน
7. การหาความหมายในชีวิต
- การตั้งเป้าหมายและค้นหาความหมายในสิ่งที่ทำช่วยเสริมสร้างความพอใจในชีวิตและทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต
8. การเรียนรู้และเติบโต
- การเปิดใจเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งดีและร้ายช่วยให้เราสามารถเติบโตและพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น
9. การมีส่วนร่วมในชุมชน
- การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนและการช่วยเหลือผู้อื่นช่วยเสริมสร้างความรู้สึกของความเชื่อมโยงและความสุข
4. การพัฒนาตนเอง
- การเรียนรู้ตลอดชีวิต: วิธีการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ
- การตั้งค่าเป้าหมายในการเติบโต: การประเมินและปรับเป้าหมาย
- Achor กล่าวว่า การมีทัศนคติในเชิงบวกช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ซึ่งเชื่อมโยงกับการเติบโตในด้านอาชีพและความสุข
- Seligman เสนอแนวทางการพัฒนาความสามารถของตนเองผ่านการตั้งเป้าหมายที่มีความหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างสรรค์
5. การดูแลสุขภาพจิตและกาย
- การทำสมาธิและการฝึกสติ: เทคนิคการสร้างสมดุล
- การออกกำลังกายและโภชนาการ: วิธีดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
6. การจัดการอารมณ์และความเครียด
- การระบุอารมณ์: วิธีการเข้าใจและจัดการอารมณ์
- เทคนิคการผ่อนคลาย: วิธีจัดการกับความเครียด
7. การสร้างนิสัยที่ดี
- การพัฒนานิสัยใหม่: วิธีการสร้างและรักษานิสัยที่ดี
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม: เทคนิคในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเชิงลบ
8. การใช้เวลาอย่างมีคุณค่า
- การบริหารจัดการเวลา: เทคนิคการจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพ
- การให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่มีคุณค่า: วิธีการเลือกทำสิ่งที่สำคัญ
9. การปฏิบัติตนอย่างมีจริยธรรม
- การเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง: สร้างความสำนึกในความถูกต้อง
- การมีส่วนร่วมในสังคม: วิธีการช่วยเหลือผู้อื่นและสร้างผลกระทบที่ดี
10. การประเมินและปรับปรุงชีวิต
- การสะท้อนความคิด: วิธีการประเมินความก้าวหน้าในชีวิต
- การปรับเปลี่ยนแนวทาง: การเปลี่ยนแปลงตามความต้องการและสถานการณ์
11. ข้อคิดและแรงบันดาลใจ
- คำคมและบทเรียนจากผู้ประสบความสำเร็จ: แบ่งปันประสบการณ์และข้อคิดที่เป็นแรงบันดาลใจ
คู่มือเหล่านี้สามารถจัดเรียงในรูปแบบที่เข้าใจง่าย พร้อมกิจกรรมหรือแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง!
หนังสืออ้างอิง
- "The Happiness Advantage" โดย Shawn Achor
- "Flourish" โดย Martin Seligman
- "Man's Search for Meaning" โดย Viktor Frankl
การออกแบบชีวิตเพื่อความสุขนั้นขึ้นอยู่กับการนำปัจจัยและพฤติกรรมในแต่ละด้านมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างสมดุลและเพิ่มความพึงพอใจในทุก ๆ ด้านของชีวิต!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น