วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ตายอย่างรู้ ดูอย่างเห็น

ตายอย่างรู้ ดูอย่างเห็น

เกิดมาทั้งที ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าจะตายยังไง ดูยังไง

อธุวัง เม ชีวิตัง ชีวิตของเราไม่ยั่งยืน, ธุวัง เมสมรณัง ความตายของเรายั่งยืน,สอนิยะตัง เม ชีวิตัง ชีวิตของเราไม่เที่ยง, นิยะตัง เมสมะระณัง ความตายของเราเที่ยง,

เมื่ออวิชชาหมดเสียแล้ว อกุศลกรรมที่เกิดจากอวิชชาย่อมยุติ และเมื่อปราศจาก
อวิชชา ย่อมปราศจากอุปาทานและการยึดติดใด ๆ สิ้น กระแสกรรมเก่าต่าง ๆ ที่มีมาแต่
ไหนแต่ไร ก็สิ้นกระแสที่จะแสดงอำนาจได้อีกต่อไป วัฏฏสงสารอันส่งผลไปสู่การเกิด
ใหม่ ย่อมถึงจุดที่ยุติไว้ได้แต่เพียงนั้น

ศีลจะรู้ได้เพราะ อยู่ร่วมกันนานๆ
เราจะรู้ว่าเค้าเป็นอย่างไรนั้น เพราะเราเห็นเค้าอยู่เป็นนิจ ได้รู้จักมากขึ้น ศีลถึงจะเผยออกมา
ธาตุแท้ก็จะโผล่

มาอีกแล้วความสุข
เราจะพบความสุขที่แท้จริงที่เรียกว่าความสุขนิรันดร,ความสุขที่ไม่ต้องอิงอาศัยปัจจัยภายนอก,ความสุขที่ไม่ต้องอิงอาศัยวัตถุภายนอก แต่เป็นความสุขที่เกิดจากใจที่มีความรักความเมตตา ความสุขที่เกิดจากปิติ ที่เกิดจากเราได้รวมกับสรรพสิ่ง หรือกลับคืนไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง เหมือนน้ำตกที่มันกลับคืนไปสู่อ้อมอกของแม่น้ำ เรากลับคืนไปสู่ธรรมชาติ จาคะสละความรู้สึกว่ามีตัวเราไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับความเป็นทั้งหมดหรือสรรพสิ่งอันกว้างใหญ่ไพศาลอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด เราก็จะเข้าใจชีวิต,เข้าใจโลก,เข้าใจจักรวาล, เข้าใจธรรมชาติ, เข้าใจความหมายของการดำรงชีวิตอย่างพรหมจรรย์ นี่คือแนวทางการศึกษาการเรียนรู้ที่พระพุทธองค์ทรงวางหลักการไว้หรือให้คำตอบแก่ชาวโลกว่า
ถ้าเราจะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขแล้ว ให้ดำเนินชีวิตในทัศนะที่เห็นโลกตามความเป็นจริง คือเห็นโลกมันเป็นเช่นนั้นเองหรือตามที่มันเป็น ไม่ใช่เห็นโลกเป็นของคู่ๆ ไม่เห็นโลกสุดโต่งไปในส่วนที่เห็นว่ามันมีอยู่หรือไม่มีอยู่ ถ้าเราเห็นโลกแล้ว เราไม่อาจกล่าวได้ว่ามันมีอยู่หรือมันไม่มีอยู่ นี่แหละคือทัศนะของพระพุทธองค์ที่เราได้เข้าถึงความจริงสูงสุด หรือได้ไปเป็นหนึ่งเดียวกับสัจจะ

เมื่อเมตตาเกิดขึ้น กรุณาจะตามมาพร้อมกัน

กตัญญูกตเวทิตา : ธรรมที่สร้างคนให้เป็นคนดี

ผู้ใดมีกตัญญูกตเวทีอย่างจริงใจ เป็นเหตุให้ผู้นั้นเป็นคนคิดดี พูดดี ทำดี

คนดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแม้เพียงคนเดียว เป็นคุณเป็นประโยชน์แก่หมู่คณะเป็นอันมาก ให้ความร่มเย็นเป็นสุขได้กว้างไกล

ไม่มีใคร จะได้รับผลดีจากการแสดงสัมมาคารวะ นอกจากเจ้าตัวเองที่ได้กระทำเท่านั้น

การกราบไหว้ผู้ทรงพระคุณ แม้ที่ล่วงลับแล้ว เป็นการแสดงความมีกตัญญูกตเวทีตาธรรม

ความไม่ละเมิดศีล โดยไม่ตั้งใจรักษาศีล แม้เช่นนี้ความมีศีลก็เกิดขึ้นแล้ว

พรหมวิหาร กับการวางใจไว้ให้ถูกที่ ให้สวยงาม ดับความผูกโกรธเสียได้ จิตใจจักผ่องใสเยือกเย็น ความคิดที่ไม่ประกอบด้วยเมตตาเพียงพอ ก็อาจพาให้เกิดความริษยาแก่ผู้นั้นได้

ผู้มีปัญญา แม้มิสามารถดับความริษยาได้จริง จึงแก้ไขป้องกันควบคุมมิให้เกิดง่ายและแรง

การแสดงออกซึ่งความรู้สึกรู้จริงเห็นจริง ไม่ต้องอาศัยความคิดปรุงแต่ง...ไม่ใช่มายา

เมื่อความรู้สึกแข่งดีเกิดขึ้นกับผู้ใด ความรู้สึกถูกผิดของผู้นั้น ย่อมดับไป

ไม่มีความคิดเห็น: