นักวิจัยจากไต้หวัน “เหลียนอี้ว์ซิง” ผู้ค้นคว้าศาสตร์แห่งลายผิววิทยากับศักยภาพของมนุษย์
(การศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างลายผิวที่ปรากฏบริเวณนิ้วมือ ฝ่ามือ นิ้วเท้า
และฝ่าเท้า กับลักษณะของสมองในแต่ละบุคคล
สะท้อนถึงบุคลิกภาพอละความเป็นตัวตนที่แท้จริง) จึงเลือกที่จะเปรียบเทียบบุคลิกภาพและพฤติกรรมของมนุษย์
ผ่านลักษณะของนก 5 ประเภท เป็นตัวแทนบุคลิกภาพ ได้แก่
1. เหยี่ยว (falcon) บุคลิกเชิงรุกเน้นเป้าหมาย เน้นผลลัพธ์ ควบคุมกระบวนการ สถานการณ์ คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ บุกเบิก กล้าเสี่ยง
กระตือรือร้น รวดเร็ว ทิฐิ ยึดมั่นในความคิดของตน
2. ห่านป่า (wild goose) บุคลิกเชิงรับ
เน้นเป้าหมาย เน้นผลลัพธ์ เน้นคุณภาพ
รายละเอียด ความถูกต้อง มีมาตรฐาน ขั้นตอน กระบวนการ สร้างกฎ กติกา รักษาระเบียบ
ความเป็นมืออาชีพ ความรับผิดชอบสูง อนุรักษนิยม
3. นกยูง (peacock) บุคลิกเชิงรุก เน้นความสัมพันธ์กับผู้คน ใช้วาทศิลป์ การแสดงออก
การแบ่งปันข้อมูล การนำเสนอ รักษาภาพลักษณ์ มีชีวิตชีวา สดใส สนุกสนาน สมานฉันท์
ให้ความร่วมมือ
4. นกกระจอกเทศ (ostrich)
บุคลิกเชิงรับ เน้นความสัมพันธ์กับผู้คน
อยู่ท่ามกลางผู้คนอย่างมีความสุข สุภาพ อ่อนน้อม อ่อนโยน ทำงานเป็นทีม
ให้ความร่วมมือ สุขุม อดทน อดกลั้น
5. นกแก้ว (parrot) ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี รวบรวมทรัพยากรบูรณาการข้อมูล
ประยุกต์ สร้างรูปแบบเฉพาะตน ปฏิบัติอย่างเป็นระบบ วางแผนเชิงกลยุทธ์
มนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นกลางเปลี่ยนแปลงความคิดตามสถานการณ์
เหยี่ยวมีบุคลิกลักษณะเชิงรุกเช่นเดียวกับนกยูง
แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสัตว์มุ่งงาน (target oriented) เน้นผลลัพธ์เหมือนกับห่านป่า
ขณะที่นกยูงถึงจะเป็นสัตว์ชอบรุกฮึ่มๆ แต่ก็มีรสนิยมเน้นสัมพันธ์กับผู้คน (people oriented) แบบเดียวกับนกกระจอกเทศ
ส่วนห่านป่าชอบไปให้ถึงเป้าหมายก็ไม่ต่างอะไรกับนกกระจอกเทศ
คือโปรดปรานเชิงรับเหมือนกัน เรื่องสนุกของนกกระจอกเทศ คือ
ถึงตัวจะอ้วนกลมบินไม่ได้เหมือนใครเขาแต่กลับสนุกกับการเดินทางวันละหลายกิโลพร้อมสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนไปพร้อมๆกัน
บรรดาเบญจวิหคหรือนก 5 ประเภทเหล่านี้
ดูเหมือนว่านกแก้วจะมีภาษีดีที่สุดเพราะจัดประเภทเป็นพวกผสมผสาน (integrated resource) ไม่ถึงออกอาการ “นกสองหัว” แต่เป็นจำพวกตีแตก “หัวอก” ของนกทุกตัว รู้จักยุทธวิธีรุกรบอย่างเป็นจังหวะ มีมนุษยสัมพันธ์ดี
ลีลาแบบนักการฑูต
แต่ละคนมีลักษณะหลักเป็นนกตัวใดตัวหนึ่ง
และลักษณะรองเป็นนกตัวอื่นๆผสมกัน ทำให้นำไปสู่ความแตกต่างหลากหลาย การที่ได้รับรู้ว่าคนใกล้ตัวเป็นนกอะไร
และตัวเองเป็นนกอะไร นำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ทั้งในสังคมการทำงานและครอบครัว
ฉะนั้นแล้วหากบังเอิญใครเป็นเหยี่ยวขยันรุก
หรือห่านป่าขยันรับ ถึงทั้งสองตัวมุ่งเป้าหมายในงานเหมือนกัน
ก็ใช่ว่าจะไปคาดหวังว่าเจ้านกกระจอกเทศตัวอ้วนตุ๊ต๊ะจะบินได้สูงเหมือนเหยี่ยว หรือบินไกลอย่างห่านป่า นั่นย่อมเป็นการเสียเวลาเปล่า
คราวนี้ถ้าบังเอิญต้องวิสาสะหรือร่วมงานกับนกแต่ละตัวล่ะ? ควรวางตัวอย่างไรดี
คำแนะนำมีอยู่ว่า ถ้าเมื่อไรต้องคุยกับพี่เหยี่ยว ทำความเคารพเข้าไว้
จริงใจเป็นฐานที่มั่น พี่เหยี่ยวเขาชอบตรงประเด็น
กระชับ ฉับไว อย่าเผลอตัวไปออกคำสั่งกับตั๊วเฮียเขา ทำตัวนอบน้อม
ขอคำปรึกษาหารือโดยเฉพาะกับเรื่องท้าทาย น่าสนใจ พี่ใหญ่เขาจะกระโดดฮุบ
เอ๊ย...ตะครุบเองหละ
แล้วถ้าเป็นอาเสี่ย/ซือเจ๊ห่านป่าล่ะ? He/She ต้องการให้ยอมรับอย่างมีเหตุผลสืบสาวราวเรื่องได้แบบซีรีส์ CSI หลักฐานเท่านั้นที่เสี่ยหรือเจ๊ห่านป่าต้องการ
ยิ่งรายละเอียดมากยิ่งดี แต่แค่นี้ยังไม่พอ ต้องถูกต้อง เชื่อถือได้
ตรวจสอบกลับได้ ทุกซอกทุกมุมตามหลักฐานมืออาชีพ
มาถึงคุณหนูนกยูงวุ่นวาย
กับคุณชายนกยูงไฮโซ เวาลาจะสนทนาพาที ให้นึกถึงบรรยากาศงานกาล่าดินเนอร์เข้าไว้ เพราะเขาและเธอต้องการให้ยอมรับในบุคลิก
เวลาพูดเวลาจาต้องปั้นสีหน้าให้ดูตื่นเต้น เร้าใจไม่ใช้น้ำเสียงจืดชืดไร้อารมณ์
แสดงการยกย่องชมเชยเธอให้มาก เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศที่ดีในการสนทนา
แต่ถ้าคุยกับนกกระจอกเทศ
ให้นึกซะว่ากำลังคุยกับเด็ก Generation Y หรือ Generation Internet (อายุต่ำกว่า 30 ปีลงมา)
กำลังอยู่ในวัยที่ต้องการการดูแลใส่ใจ ใช้คำสุภาพ ฟังง่าย เข้าใจง่ายเข้าไว้ ไม่ต้องอาศัยศัพท์แสงปีนบันไดฟัง
ขอเพียงน้ำเสียงนุ่นนวล ไพเราะ เพียงเท่านี้นกกระจอกเทศก็ “ตายใจ” เอ๊ย...สบายใจ
ตัวพองกลมแล้วหละ
มาถึงตัวยืนประสานสี่ทิศ
นกแก้วผู้ช่างต่อรอง เวลาคุยกับเธอต้อง “ต่อเวลา” ให้เยอะๆหน่อย
เพราะนกแก้วต้องการเวลาเพื่อตัดสินใจ และเวลาที่ขอเพิ่มก็จะหมดไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลรอบด้าน
เท่านั้นยังไม่พอนกแก้วยังวาง plan
A, plan B สร้างทางเลือกกับแผนสำรองเอาไว้อีก
เพราะฉะนั้นเวลาทำงานร่วมกับนกแก้ว อย่าได้เร่งรัด กดดัน
บีบบังคับเขาและเธอกันเลยเชียว!!!
นกทั้ง 5 ประเภทนี้เป็นสัญลักษณ์ของเครื่องมือตรวจวัดวิเคราะห์ศักยภาพจากลายผิว
ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (P-PAC) บริษัท ปัญญธารา จำกัด บริษัทในเครือบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
เป้าหมายหลักเพื่อค้นหาและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กร
ให้เหมาะสมกับงานในหน้าที่รับผิดชอบ
นำไปต่อยอดและใช้เป็นแนวทางการจัดการฝึกอบรม (Training Plan) การจัดทำผังความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) การจัดผังทดแทนตำแหน่งงาน
(Succession Plan) รวมถึงแผนพัฒนา คนเก่งมากฝีมือ (Talent Development)
เพราะความสำเร็จขององค์กรไม่ได้ถูกชี้วัดจากนกสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งแต่เป็นผลรวมความสำเร็จจากการร่วมด้วยช่วยกระพือปีกของนกทุกๆตัว...
นายเป็นเหยี่ยว
ลักษณะเฉพาะตัวของนกเหยี่ยว คือ
มีความขะมักเขม้น ทำอย่างมีเป้าหมาย มีความสร้างสรรค์ กล้าที่จะแข่งขัน
และควบคุมสถานการณ์
ลูกน้องเป็นนกยูง
ลักษณะเฉพาะตัวของนกยูง คือ ชอบแบ่งปันความคิดกับผู้อื่นให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์
มีอารมณ์ขัน ถนัดในการแสดงออกส่งเสริมเรื่องการมีความเห็นที่ตรงกัน
ข้อแนะนำ
ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างเจ้านายและลูกน้องคู่น้องนี้ก็คือ
ลูกน้องมักให้ข้อมูลเยอะมาก เพราะชอบที่แบ่งปันข้อมูล ในขณะที่โดยบุคลิกของนายคือต้องการข้อมูลที่ตรงประเด็น
ไม่เยิ่นเย้อ
รูปแบบการนำเสนองานของลูกน้องอาจจะไม่ตรงใจกับนายที่มีบุคลิกเป็นเหยี่ยวที่ต้องการข้อมูบที่กระชับบุคลิกเด่นอีกอย่างหนึ่งของนกยูงก็คือการแสดงออก
ซึ่งในบ้างครั้งก็อาจจะมากจนเกินหน้านาย ทำให้นายอาจเขม่นได้ เพราะสำหรับนายที่เป็นเหยี่ยวนั้น
มักจะรักหน้า ไม่ชอบให้ใครมาข้ามหน้าข้ามตา
ในขณะเดียวกันสำหรับการบริหารจัดการลูกน้องที่เป็นนกยูงการแสดงความชื่นชมผลงานของลูกน้องมีความสำคัญมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าผู้ร่วมงานคนอื่นๆ
การทำเช่นนี้จะทำให้เกิดขวัญและกำลังใจในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งการเข้าใจว่าลูกน้องที่เป็นนกยูงนั้น ชอบที่ท่ามกลางผู้คน
การมอบหมายงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า
อาจจะเหมาะสมกว่าการมอบหมายงานที่ต้องเก้บตัวอยู่แต่ในสำนักงาน
นายเป็นนกกระจอกเทศ
ลักษณะเฉพาะตัวของนกกระจอกเทศ คือ
ยึดมั่นในกฎเกณฑ์ให้ความร่วมมืออย่างกลมเกลียว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่รีบร้อน
มีน้ำใจกับผุ้อื่นและมีความอดทน
ลูกน้องเป็นนกเหยี่ยว
ลักษณะเฉพาะตัวของนกเหยี่ยว
มีความขะมักเขม้น ทำอย่างมีเป้าหมาย มีความสร้างสรรค์ กล้าที่จะแข่งขัน
ควบคุมสถานการณ์
ข้อแนะนำ
ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้ก็คือ
ลูกน้องอาจจะรู้สึกอึดอัดกลับความใจเย็นของเจ้านาย
ที่มีกไม่กระตือรือร้นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยฉับพลัน
ในขณะที่เจ้านายเองอาจจะต้องเอือมระอา กับปัญหาและความขัดแย้งกับลูกน้องคนนี้
กับเพื่อนร่วมงานหรือทีมงาน
ด้วยเพราะบุคลิกของนกเหยี่ยวมักจะเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง
และเป็นคนที่ไม่แคร์ความรู้สึกของคนรอบข้าง
หากแต่จะมุ่งเน้นเรื่องของงานและเป้าหมายเป็นหลัก
การบริหารจัดการลูกน้องที่มีความกระตือรือร้นมากนั้น
สำหรับเจ้านายนกกระจอกเทศแล้ว อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็สามารถทำได้
หากเข้าใจว่าลูกน้องนกเหยี่ยวนั้นมีความต้องการที่จะทำงานที่ท้าทาย
และต้องการการยอมรับว่าตนเองนั้นมีความสามารถ การวิเคราะห์ศักยภาพของบุคคล ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และยากต่อการอธิบายบุคคลิกของแต่ละบุคคลให้เข้าใจได้โดยง่าย ทางศูนย์ฯ จึงได้มีการพัฒนารูปแบบในการวิเคราะห์บุคคลเปรียบเทียบกับวิธีการใช้ชีวิต และจุดยืนของนก 5 ชนิด คือ นกเหยี่ยว นกแก้ว นกกระจอกเทศ นกยูง และห่านป่า | |||||||
ลักษณะแนวโน้มในการแสดงออกเชิงพฤติกรรมของนกแต่ละชนิด | |||||||
|
| ||||||
|
| ||||||
|
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สหนก เบญจวิหก
ทายนิสัยของตัวคุณเองด้วยวิธีการ "อุซะ อุซะ"
ลองทำแบบสนุกๆไม่ต้องคิดมากครับ :-)
มารู้จักสมองของคนเรากันก่อน ?
ฝั่งขวา เนี่ยเป็นเรื่องของจิตนาการ, ความรู้สึก, สัญชาติญาณ สมองฝั่งนี้ทำให้ถนัดในการใช้จินตนาการ เก่งเรื่องศิลปะ และคิดค้น มักทำอะไรโดยไม่รู้สึกตัว ว่ากันว่าฝั่งขวามเป็นตัวควบคุมสัญชาตญาณ
ฝั่งซ้าย นั้นเป็นเรื่องของการคำนวณ, วิเคราะห์, เหตุผล ทำให้ถนัดด้านภาษาและคำนวณ คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล อิงกับหลักวิทยาศาสตร์ คิดอะไรเป็นขั้นเป็นตอน จัดการทุกเรื่องอย่างรอบคอบ และใช้เหตุผลก่อน
เริ่มทำการทดสอบตัวเองด้วยวิธีการ "อุซะ อุซะ" กันดีกว่าครับ ลองดุแบบสนุกๆไม่ต้องคิดมากครับ :-)
เริ่มต้นด้วยการสำรวจตัวเอง
1. ทำการประสานมือของท่านเข้าด้วยกัน หลังจากประสานมือแล้วให้สังเกตุว่านิ้วมือของท่านนิ้วไหนซ้อนทับนิ้วไหนนะครับ ?
เฉลยแบบสำรวจ
วิธีการนี้เป็นการทดสอบง่ายๆ เพื่อจะบอกความสามารถพิเศษในการรับรู้ข้อมูลจากภายนอกของท่านว่าใช้สมองฝั่งไหนรับข้อมูล
- ถ้านิ้วโป้งมือซ้ายทับขวา คือ “อุ” เป็นคนที่ใช้สมองฝั่งขวาเป็นหลักในการรับข้อมูล
- ถ้านิ้วโป้งมือขวาทับซ้าย คือ “ซะ” เป็นคนที่ใช้สมองฝั่งขวาเป็นหลักในการรับข้อมูล
2. ทดสอบเอามือกอดอกของท่าน เพื่อจะดูว่าแขนไหนทับแขนไหน จะได้รู้ว่าเราส่งข้อมูลที่มีอยู่ออกไปด้วยสมองซีกไหน
- ถ้าแขนขวาอยู่ล่าง คือ "อุ" เวลาท่านฟัง พูด คิด จะใช้สมองซีกขวาเป็นหลัก
- ถ้าแขนซ้ายอยู่ล่าง คือ "ซะ" เวลาท่านฟัง พูด คิด จะใช้สมองซีกซ้ายเป็นหลัก
มาดูว่าคุณเป็นแบบไหน
"อุอุ" เป็นคนที่ใช้สมองซีกขวาเป็นหลักในการจัดการเรื่องราวต่างๆและการแสดงออกจะร่าเริงกระฉับกระเฉงเสมอ เป็นพวกดูแข็งๆ เพื่อนๆอาจจะบอกว่าเป็นคนตลก และเปลี่ยนแปลงง่ายพวก อุอุ เมื่อรู้สึกว่ามีอันตรายก็จะหนีอย่างเร็ว จึงไม่ค่อยจมอยู่กับปัญหาซักเท่าไหร่
"อุซะ" เป็นคนที่มักจะคอยสังเกตุถึงความรู้สึกถึงคนอื่น มักจะคิดถึงอีกฝ่ายว่า ปฏิบัติกับเขาให้ดีกว่านี้อีกจะเอาตัวเองออกรับก่อน เป็นคนใจอ่อนไม่ยอมพูดคำว่า ไม่ เด็ดขาด
"ซะอุ" เป็นคนอ่านบรรยากาศได้เก่ง ถนัดที่จะติดต่อสื่อสารกับคนอื่น เจอใครครั้งแรกก็จะสามารถเป็นมิตรได้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มักจะถูกยกให้เป็นลูกพี่จากพวกเดียวกัน เพราะคอยดูแลเป็นอย่างดีแต่บางครั้งก็จุ๊นเกินไป
"ซะซะ" เป็นคนที่ใช้สมองซีกซ้ายเป็นหลักในการจัดการเรื่องราวต่างๆและการแสดงออก ไม่ว่าอะไรจะคิดเป็นทฤษฎีพื้นฐานของเหตุผล เป็นพวกไม่แสดงออกทางความรัก มั่นใจในตัวเองมาก รักความยุติธรรมไม่ชอบการกระทำของคนที่เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ
และ
สาวอุซะ คือ กุลสตรีอ่อนโยน อ่อนไหวสมเป็นหญิง เป็นสาวอารมณ์อ่านไหว เดาใจความรู้สึกฝ่ายตรงข้ามด้วยสัญชาตญาณ และความสามารถเข้าถึงคนอื่นอย่างเนียนๆ แบบเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เบื้องหน้า แต่เป็นพวกที่เดินตามหลังคนอื่น และคอยช่วยเหลือ ปกติแล้วเป็นนักฟังที่ดี แต่กับคนที่สามารถเข้าถึงใจคุณได้ก็จะทำตัวเป็นเด็กขี้อ้อนในบางทีข้อดี ถ้าถูกไหว้วานให้ทำอะไรจะไม่กล้าปฎิเสธ เป็นคนจริงใจ และความรับผิดชอบสูง ถึงแม้ต้องลำบากแต่ก็เลือกจะดูแล และช่วยคนอื่นข้อเสีย อ่อนไหว ต่อคำอย่าง “ทำดีแล้วน่ะ” ไม่ก็“ขอบคุณ” เมื่อปักใจเชื่อใครก็จะไม่สงสัยอะไรเลย ดังนั้นถ้าถูกหักหลังจะเจ็บนานหน่อย คำแนะนำ ระวังจะถูกล้อเล่นกะความรู้สึก และจงแสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้าง
สาวซะอุ เป็นพี่สาวที่ชอบดูแลคนอื่น อ่านสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีเยี่ยม เป็นคนที่มีทั้งส่วนที่นิ่งเงียบสามารถวิเคราะห์บรรยากาศในตอนนั้นได้ และส่วนที่อบอุ่น สามารถดูแลและเข้าถึงจิตใจผู้อื่น ความนิ่งเงียบ แต่บางทีดูห้าวๆ นั้น ทำให้ใครๆ ก็มองว่าเป้นพี่สาวและมีแต่คนเข้ามาหาโดยไม่รู้ตัว แถมยังวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ทำให้สามารถเลือกอะไรดีๆ ให้ตัวเองได้เสมอข้อดี เข้ากับคนง่าย ไปงานไหนก็เข้ากับเขาได้หมด สามารถสร้างบรรยากาศให้สนุกได้ ดังนั้นมักจะเป็นที่ชื่นชอบของคนรอบข้างอยุ่เสมอข้อเสีย มักจะดูแลคนอื่นจนเกินความจำเป็นบางทีอาจจะเป็นการก้าวก่ายคนอื่นเกินไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ข้อแนะนำ ระวังจะโดนรำคาญเพราะดูแลมากไป และอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น จะทำให้หงุดหงิดเปล่าๆ
สาวซะซะ คุณคือหัวหน้าผู้ชาญฉลาด และไม่ประมาทในทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหาทางออกด้วยวิชาการ มีลักษณะคล้ายผู้ชาย ทั้งความเย่อหยิ่งสูง และซื่อตรง ดังนั้นถ้าเป็นพวกเดียวกันล่ะก็เชื่อถือกันได้แน่ๆ แต่ถ้าเป็นศัตรูกันละก็รังควาญกันไม่เลิกเลย กับคนที่เจอกันครั้งแรกนั้นอาจดูเข้าถึงได้ยาก มีความสามารถที่จะแสดงความน่ารักออกมาได้อย่างดีข้อดี มีสมองปราดเปรื่องดังนั้นเมื่อคนเห็นคุณกำลังคุยเรื่องที่เป็นวิชาการก็จะทึ่งและนับถือ ชอบอะรที่เนี้ยบ ไร้ที่ติข้อเสีย เพราะเป็นคนจริงจังจึงไม่ถนัดการปั้นหัวเราะ อาจปล่อยออร่าความตึงเครียดออกมาได้บางทีอาจเย็นชาใส่คนที่ตามไม่ทันกับเรื่องที่คุณพูดคำแนะนำ เพราะชอบสั่งสอนเทศน์คนอื่น ถ้าแสดงออกมากไปจะโดนรำคาญได้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็มักจะใช้หลักการเป็นหลัก ลองปล่อยวางทำตัวสบายๆ ดูบ้างก็ดีนะ
หนุ่มอุอุ เมื่อตัดสินใจแล้วก็มุ่งมั่น หนุ่มมองโลกในแง่บวก ซื่อตรงไร้เดียงสา ดูเหมือนจะเป็นคนไม่มีลับลมคมใน ด้านความรักมักจะตกหลุมรักทันที แล้วก็คิดเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอว่าสาวต้องชอบตัวเองแน่ๆ และถ้าไฟรักโหมกระพือแล้วล่ะก็ จะขนร้อยแปดพันวิธีไปชนะใจให้ได้ แต่มักจะหลงใหลตัวเองมากกว่าที่จะอยากให้ฝ่ายตรงข้ามหันมาสนใจ ไม่ค่อยอยากนอกใจ โกหกไม่เก่ง แถมอกหักแล้วฟื้นตัวได้เร็วอีกต่างหาก เป็นประเภที่เข้าใจได้ง่ายจริงๆ
หนุ่มอุซะ เป็นหนุ่มโรแมนติกที่ถือเรื่องรักเป็นเรื่องสำคัญ ภายนอกดูเท่ห็ และเหมือนไม่ค่อยคิดถึงจิตใจคนอื่น แต่จริงๆ แล้วเป็นคนอารมณ์บอบบางอ่านไหว และเป็นพี่ชายที่ชอบดูแลคนอื่น ถึงทำเป็นเก็ก แต่จริงๆ แล้วมีจิตใจใสสะอาดนะ เขาเป็นคนที่อยากได้รับความรัก และอยากเป็นที่สนใจมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว เมื่อคบกันไปแล้ว คุณจะได้พบรสชาติความรักที่เข้มข้น แต่ขณะเดียวกันก็มักจะเรียกร้องจากอีกฝ่ากมากเกินไป จนเกิดหึงหวงกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้เป็นคนที่รักใครรักจริง ดังนั้นถึงจะเลิกกันไปแล้วก็มักจะเหลือเยื่อใยอยู่
หนุ่มซะอุ เป็นหนุ่มที่คิดว่าถ้ามีโอกาสบ้างจะเป็นฝ่ายรุก เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่จะเลือกคบคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ โดยจะวางระยะห่างไว้พอประมาณ มักจะสนใจว่า “สามารถรักกับคนนี้ได้มั้ย” หรือ “คนนี้จะหันมาชอบเรามั้ย” มากกว่าที่จะดูว่าตัวเองชอบคนนี้จริงๆ หรือเปล่า เพราะว่าจะเข้าหาเฉพาะคนที่ดูว่าน่าจะคบด้วยได้ ดังนั้นถึงจะมีคุณหนูไฮโซเข้ามาใกล้ แต่ก็มักจะไม่ทำอะไรเลย แต่ถ้าสาวคนนั้นเข้ามาติดกับเขาแล้วหล่ะก็เข้าจะให้คำพูดหวานหยด เพื่อจีบเธอ โดยพื้นฐานเป็นคนไม่ชอบการต่อสู้ ดังนั้นเหมาะสำหรับที่จะมีความรักยาวนานแบบเรียบๆ
หนุ่มซะซะ เป็นหนุ่มสามัญสำนึก ชอบไล่ตามจินตนาการที่วาดไว้ เป็นคนที่มีสามัญสำนึก และจิตใจที่มั่นคง ดังนั้นจึงค่อยๆ คบไปที่ละก้าว เป็นประเภทที่ชอบอ่านหนังสือแนะนำความรัก โดยทั่วไปแล้วไม่เชียวชาญเรื่องรักเท่าไหร่ ว่าเครื่องจะร้อนก็ต้องใช้เวลา ถึงจะเป็นแค่รักข้างเดียวก็ตาม ถ้าปักใจชอบใครแล้ว จะมั่นคงรักเดียวเท่านั้น แต่อีกด้านเขาจะวาดภาพผู้หญิงในอุดมคติไว้เสียดิบดี ดังนั้นถ้าความรักไม่เป็นไปตามที่คิดละก็ อาจคิดมากจนเครียด หนุ่มประเภทนี้มักจะวิ่งหนีผู้หญิงที่ธรรมดาบ้านๆ ทั่วไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)