วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำนายชื่อ เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์

ผลรวมของชื่อ ได้ เฉลิมชัย

หมายเลข 36 ไม่ขาดเงินทองและความรัก   หมายเลข 36 เป็นดาวคู่มิตรกัน ผู้มีเงินทองไม่ขาดมือ เพราะความขยันหาเงินทำมาหากิน ให้ผลดีทางการค้าขาย และมีเพื่อนฝูงมาก แต่มักมีปัญหาทางครอบครัว ผู้พยายามขวนขวายหาเงินทองโดยไม่เลือกอาชีพหนักเอาเบาสู้ จะมีคนให้การอุปถัมภ์ค้ำจุนช่วยเหลือ สติปัญญาดี มีเสน่ห์ดึงดูดใจเพศตรงข้าม แต่อาจมีข้อเสียระวังจะผิดศิลธรรมกับเพศตรงข้าม เพราะขยันหาคู่ด้วย รักมาก รักขาดๆเกิน รักสามเส้า แฟนมาก เจ้าชู้ โดยเฉพาะเพศชาย เพราะขาดความยับยั้งชั่งใจ ควรระวังเรื่องนี้ไว้ก็ไม่เป็นอะไร แต่ชีวิตประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ถ้าถอดรหัสของชื่อได้หมายเลข 36 ถือว่าเป็นเลขดีมาก ถ้านามสกุลเป็นหมายเลข 36 ควรตั้งชื่อให้ได้หมายเลข 14,15,19,23,24 จะทำให้ชีวิตดีขึ้น 100%
ผลรวมของนามสกุล ได้ 81
หมายเลข 81 อุปสรรคแห่งรัก   มีความทะเยอทะยาน และมัวเมาในเรื่องเกียรติยศอำนาจตำแหน่งหน้าที่การงาน มักได้ลาภยศด้วยความยากลำบาก เป็นหมายเลขอับเฉาเลขหนึ่ง ชีวิตมักจะกำพร้า ขาดหลักประกันในชีวิต พลัดพรากจากบิดามารดา ชีวิตอยู่ไม่เป็นที่ มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย ถ้าเป็นสุภาพสตรีจะตกพุ่มหม้าย ไร้สามี พลัดพรากจากคู่ มีคู่เหมือนไม่มี ต่างคนต่างอยู่ ชีวิตจะวุ่นวาย มีภรรยาหลายคน มีแม่หม้ายมาติดพัน และก่อความยุ่งยาก มีโรคเกี่ยวกับสายตา ส่วนใหญ่จะเป็นรหัสของผลรวมของชื่อและนามสกุล ถ้าเอาตัวเลขของชื่อและนามสกุลบวกกันได้ผลรวมเป็น หมายเลข 81 ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ได้เลขดี โดยเอานามสกุลปัจจุบันเป็นตัวกำหนดจึงจะทำให้ชีวิตดีขึ้น
ผลรวมของทั้งหมด 17
หมายเลข 17 อำนาจที่ถูกริดรอน   เป็นดาวคู่ธาตุไฟ ทรงไว้ซึ่งงความร้อน ความวุ่นวาย แสวงหาริเริ่มงานใหม่ เหน็ดเหนื่อย ต่อสู่ แสวงหายศศักดิ์อำนาจ ให้มีชื่อเสียงและตำแหน่ง เลยทำให้มียศใหญ่โตขึ้น แต่จะผิดหวังเรื่องความรักทุกรูปแบบ เช่นแต่งงานช้า ไม่ได้แต่ง หรือแต่งแล้วต้องเลิกกัน จะพลัดพรากจากกัน เป็นเมียน้อย หย่าร้าง รักสามเส้า เป็นหมายเลขร้ายกับชีวิต ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี ยุ่งยากในชีวิตบ่อยๆ กดดัน กลั่นแกล้ง อิจฉาริษยา ถูกเอาเปรียบ ถูกเบีดบังเอาความดีความชอบ ระวังโรคถุงน้ำดี โรคตับอักเสบ ไมเกรน เจ็บกระดูก ตามข้อ ถ้าถอดรหัสชื่อออกมาได้หมายเลข 17 ควรรีบทำการเปลี่ยนแปลงชื่อโดยเร็ว ให้เป็นหมายเลขอื่นที่ดีกว่า โดยเอานามสกุลของท่านเป็นตัวกำหนด หรือถ้านามสกุลของท่านถอดออกมาได้หมายเลข 17 ท่านต้องตั้งชื่อใหม่ ให้ได้หมายเลข 24 หรือ 42 เมื่อนำมาบวกกับนามสกุล จะได้ผลรวมเป็นหมายเลข 41 ,59 ให้คุณกับชีวิต 80% ถ้านามสกุลถอดเลข 17 ควรเปลี่ยนชื่อถอดได้หมายเลข 24 หรือ 42


ฟ้าไม่เคยมืดเกินมองเห็นดาว

ถ้าเค้าไม่ให้ความสำคัญกับเรา ก็อย่าไปให้ราคาและความสำคัญกับเค้าเลย

มีคนเป็นล้านที่ได้วนมาเจอกัน ถ้าเจอสักคนก็อย่าปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ

บางทีสิ่งที่เธอชอบกิน เราไม่ได้ชอบเหมือนเธอ แต่เราแค่อยากกินด้วยกันกับเธอ แค่นั้นเอง

"เราไม่ชอบให้คนอื่น มาตัดสินเราอย่างไร คนอื่นก็ไม่ชอบให้เรา มาตัดสินเขาอย่างนั้น"

"ที่ว่าง"น้อยไปก็อึดอัด มากไปก็กลายเป็น... "ช่องว่าง"

คนบางคน, ต่อให้ยังรักมากแค่ไหน, แต่เก็บกันและกันเอาไว้แค่ในความทรงจำ, อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

อยู่ด้วยกันในฐานะอะไร ไม่สำคัญเท่า ไม่ว่าในฐานะอะไร เราจะยังอยู่ด้วยกัน

การต้องทำทุกอย่างตามความพึงพอใจของผู้อื่น จนลืมเสียงหัวใจของตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ใจมีความสุขได้เลย

ความรักเมื่อมันเป็นเรื่องของคนสองคน มันจึงไม่ใช่ ที่ใครคนใดจะต้องแบกรับความรู้สึกรักนั้นไว้คนเดียว

'เป็นให้ได้อย่างตุ๊กตาล้มลุก ล้มกี่ครั้ง ลุกทุกครั้ง'

ในวันที่เรารู้สึกว่าปัญหาที่มีมันหนักเกินจะรับไหว ท้อและเหนื่อยจนหมดแรงเดิน
รู้สึกเหมือนรอบกายมันมืดจนมองไม่เห็นทางออก ไม่รู้ว่าควรเดินต่อไปทางไหนดี

บางที...คุณอาจแค่ต้องการนั่งพัก แหงนมองท้องฟ้า เพื่อค้นพบว่าในวันที่ฟ้ามืดที่สุด... มันก็ยังมีประกายสว่างจากดาวดวงเล็กๆ ให้เราเห็น... ปัญหาของเราก็เหมือนกัน หากเราสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองดีๆ ก็คงจะมองเห็นแสงสว่างเล็กๆ ตรงทางออก

อย่ามีแฟนเพียงเพราะแค่อยากมี, เพราะการมีแฟน, หมายถึงการที่คุณมีอีกคนเข้ามาในชีวิต, ให้คุณต้องดูแลใส่ใจ

อย่าให้ความคาดหวัง ทำลายความสุขที่เคยมี

"เราไม่ชอบให้คนอื่น มาตัดสินเราอย่างไร คนอื่นก็ไม่ชอบให้เรา มาตัดสินเขาอย่างนั้น"



How to Love someone

การที่จะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลว่าทำไมจึงไปรักได้ แต่ให้รู้ไว้ว่าทุกวันนี้รัก และต้องรักให้ดีที่สุดก็พอ

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ต้องสนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน แต่ควรนึกขอบคุณโชคชะตาที่สร้างให้มีอุปสรรค เพื่อให้ทั้งสองได้ร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดว่าทำอะไรเพื่อเราบ้าง แต่ให้มานั่งถามตัวเองดูว่าวันนี้ทำอะไรเพื่อคนที่รักแล้วหรือยัง

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปมัวระแวงว่าจะไปมีใครอื่นนอกเหนือจากเรา แต่ควรระวังใจของตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะไม่รับใครเข้ามาในใจอีก

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตว่าเคยมีใครยังไง แต่ให้คิดไว้ว่าทุกวันนี้มีเขาและเราอยู่ด้วยกัน...อดีต..ถึงอย่างไรก็คืออดีต

การที่จะรักใครสักคน...เมื่อทะเลาะกัน คำว่าแพ้หรือชนะก็ไม่สำคัญ จึงยอมให้เป็นฝ่ายชนะเสมอ ถ้าทำให้สบายใจ

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขา แต่ควรพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับเขาจะดีกว่า

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ควรหูเบา เพราะอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่รักได้

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ใช่การสัมผัสกันด้วยร่างกาย แต่เป็นการสัมผัสกันด้วยหัวใจต่างหาก

การที่จะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องบอกรักกันทุกวัน เพราะการที่คอยห่วงใยกันอยู่เสมอๆ สามารถทดแทนคำว่ารักได้ดีแม้สักล้านคำ

การที่จะรักใครสักคน...ไม่เกี่ยวกับสิ่งของนอกกายใดๆ เลย เพราะความรักไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือแลกมาได้ด้วยทรัพย์สิน

การที่จะรักใครสักคน...ไม่ต้องคอยนับว่ามีข้อเสียมากมายสักกี่ข้อ เพราะข้อดีก็มีมากพอที่จะทำให้ลืมข้อเสียทั้งหมดได้

การที่จะรักใครสักคน....ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลา แค่มีอยู่ในใจทุกนาทีก็พอ

การที่จะรักใครสักคน...เมื่อเห็นเสียใจ ไม่ต้องรอจนกระทั่งเสียน้ำตา แล้วค่อยเข้าไปปลอบใจ แต่ควรรีบเข้าไปแบ่งเบาความทุกข์เสียตั้งแต่เมื่อเห็นเงียบๆ ซึมๆ ไปเพราะหากปล่อยไว้จนสายเกินผลสุดท้ายแล้ว คนที่จะเสียใจที่สุดเมื่อรู้ตัวก็คือตัวเราเอง

การที่จะรักใครสักคน...อย่ารอที่จะบอกรัก ให้รีบบอกคนที่รักซะก่อนที่จะไม่มีคนนั้นให้บอกอีกต่อไป

การที่จะรักใครสักคน...แม้ว่าอาจทำให้ตาบอด แต่ก็ทำให้ได้รับรู้ และเข้าใจว่าความสุขจากการที่ได้รักใครสักคนมันมีมากมายแค่ไหน

การที่จะรักใครสักคน...จงเชื่อมั่นในตัวเขาให้มากๆ

การที่จะรักใครสักคน...ง่ายยิ่งกว่าการพยายามลบออกไปจากหัวใจ...ความรัก สอนให้ได้เรียนรู้หลายๆ สิ่ง ความรักเป็นบทเรียนดีๆ ที่ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง

ความรักทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้เข้าใจอะไรๆ มากขึ้น ความรักทำให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ นี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้...จากการที่ได้....รัก....ใครสักคน...

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

โอวาท ท่านปรมาจารย์แห่งนิกายเซน

โอวาท ท่านปรมาจารย์ ตักม้อ
"ผู้ยิ่งใหญ่ แห่ง วัดเส้าหลิน"
สังฆปรินายกองค์ที่ ๒๘ แห่งชมพูทวีป
และเป็นองค์ที่ ๑ แห่งจีน สมัยราชวงศ์ซ่ง


๑. ...เมื่อละทิ้งความคิดเพ้อเจ้อ
ใจย่อมสุขสงบเอง ตามธรรมชาติ...
"ใจสงบก็คือ ความรู้สึกเหมือนหิน
ตกลงบนพื้นโลกอันกว้างใหญ่..."

๒."...อย่าดำรงชีวิต โดยเกาะแน่น
กับความกลุ้มใจเด็ดขาด.."

๓. หลักแท้ในการบำเพ็ญวิปัสสนาญาณ
ต้องมีปัญญาคอยกำกับ และต้องปฏิบัติตาม
หลัก ๔ ประการขณะบำเพ็ญ คือ
๑.ชดใช้บาป ๒.ตามลิขิตกรรม
๓.ไม่แสวงหาสิ่งใด ๔.ยึดถือธรรม

๔. ...ผจญทุกข์ไม่บ่น รับไว้โดยเต็มใจ...

๕. ถ้าใจเกิดความละโมบ..ทุกข์ตามมาทันที

๖. "..จิตเดิมแท้นั้นคือธรรม..ต้องละทิ้งความคิด
เพ้อเจ้อ ตั้งหน้าปฏิบัติธรรมสู่ความว่าง
ละทิ้งใจที่ตระหนี่ถี่เหนียว"

๗. สวรรค์และนรกต่างก็อยู่ที่ใจ...
อย่าดื้อรั้นถือตัวจนเกินไป...!
๘.หลงและตื่นตัว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน...
ถ้าไม่หลง ก็ไม่สำนึก!

๙. "ให้เข้าใจความว่าง แต่อย่าหลงความว่าง...
ไม่ยึดมั่น ใจจึงว่าง"

๑๐. "มองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านไปในอดีต
เหมือนภาพในความฝัน...
มองดูทุกสิ่งทุกอย่างในปัจจุบัน เหมือนเป็นฟ้าแลบ..
มองดูทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคต..
เหมือนเมฆหมอกที่ล่องลอยอยู่ไปมา.."

๑๑. ..อารมณ์ความคิดทั้งหลายก็ล้วน เกิดดับ..

๑๒. "ไม่ยึดมั่นในเรื่องได้เสีย
จิตที่เป็นทุกข์ จะเป็นอิสระ"

๑๓. "ดำรงชีวิตด้วยใจอิสระ
ไม่ถูกความอยากควบคุม..."

๑๔. "มองเห็นจิตเดิมแท้ของตน"
...นี่คือจุดหมายของวิปัสสนาญาณ

๑๕. ถ้าเราสำคัญสิ่งใดเป็นสิ่งดี และเข้าใกล้มัน
ใจเราเริ่มเอียงเอนแล้ว...

๑๖. ...สนใจธรรมมากเกินไป
ย่อมผูกมัดตนเองไม่มีอิสระ...

๑๗. นักปราชญ์ผู้สร้างประโยชน์แก่มนุษย์
รู้ว่าใจ คือ ธรรม..
...แต่คนโง่เที่ยวแสวงหาธรรม
ไปในที่ต่างๆ อย่างไร้จุดหมาย

๑๘. "ใจ คือ พระธรรม...ดังนั้น
จึงไม่ต้องไปหาพระธรรมนอกใจ"

๑๙. "ถ้าคิดที่จะปฏิบัติธรรม...
ต้องพัฒนาจิตใจให้ยิ่งใหญ่
เกรียงไกรและต้องวางใจ
ไว้นอกเหนือกฎเกณฑ์ที่มีเขตจำกัด.."

๒๐. ...ไม่สนใจจุดยืน
ไม่เป็นผู้ยึดมั่นใดๆ ทำใจสงบสุข..

๒๑. "เพียงอาศัยคำสอน ของผู้มีชื่อเสียง
ไม่ใช่สัจธรรมแท้...ไม่ใช่สัจธรรมแท้..."

๒๒. ...ยึดมั่นในความคิดของตนเกินไป
จะไม่สามารถเข้าถึงพุทธธรรม

๒๓. "รวมทุกข์ กับสุข เป็นอันหนึ่งอันเดียว...
นั่นคือ หนทางแห่งพุทธธรรม"

๒๔. เห็นสรรพสิ่ง แต่ใจไม่หวั่นไหว
สับสน ใจไม่ฟุ้งซ่าน...

๒๕. ...แท้จริง "เกิดกับตาย คือ นิพพาน"
ซึ่งอยู่ ณ กลางใจ..



แปลโดย วันทิพย์ สินสูงสุด
หนังสือ อภิมหามงคลธรรม