วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

กฎ 50 ข้อของคนรักกัน

กฎ 50 ข้อของคนรักกัน







::
ถ้าคุณต้องการจะอ่าน ต้องอ่านมันให้จบแล้วคุณจะมีความสุข หากคุณอ่านไม่จบคุณจะ......





1.
ดูพระอาทิดตกดินด้วย กัน

2.
กระซิบถึงกันและกัน

3.
ทำอาหารให้กัน

4.
เดิน ท่ามกลางฝนตก

5.
จับมือ

6.
ซื้อของขวัญให้กัน

7.
ดอก กุหลาบ

8.
ถามว่าน้ำหอมสุดโปรดคือกลิ่นไหน และใช้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน

9.
เดินริมทะเลตอน เที่ยงคืนด้วยกัน

10.
เขียนกลอนให้กัน

11.
การกอดคือยาที่ดีที่สุด

12.
พูดว่า'รักเธอ' ตอนที่รู้สึกว่ารัก จิงๆ และทำให้เค้ารู้ว่าเรารู้สึกรักจิงๆ

13.
ให้ ของขวัญเล็กๆ ดอกไม้/ลูกอม/กลอน

14.
บอกเธอ/เขา ว่าเธอ/เขา คือผู้หญิง/ผู้ชาย ที่คุณต้องการมากที่สุด

15.
อยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ ได้

16.
มองตากันและกัน.

17. (
เฉพาะผู้ชาย) ดันคางเธอขึ้นเบาๆ มองตาเธอ บอกว่ารักเธ อมากที่สุด และจูบเธอเบาๆ 'เบาๆ ' ล่ะ

18.
ในที่สาธารนะชน แค่จีบกันเฉยๆ อย่าทำอย่างอื่น

19.
ใส่จดหมายรักใน กระเป๋าเขา/เธอ เมื่อเธอ/เขาไม่เห็น

20.
ซื้อ แหวนให้เธอ (เฉพาะผู้ชาย)

21.
ร้องเพลงให้กันและ กัน

22. (
เฉพาะผู้ชาย) โอบกอดเทอตรงสะโพกเสมอ

23.
พาไปกินข้าว2ต่อ2

24.
กินสปาเก็ตตี้ (เคยดูเรื่องทรามวัยกับไอ้ตูบมั๊ย)

25. (
เฉพาะผู้ชาย)จับมือเธอ มองตาเธอ จูบมือเธอแล้ววางไว้บนหัวใจ

26.
เต้นด้วยกัน

27. (
เฉพาะผู้หญิง) เวลาอยู่ด้วยกัน นอนตักเขา

28.
ทำเรื่องน่ารักๆ เช่น เขียนว่า 'ฉันรักเธอ' ในสมุดโน้ต

29.
หาเรื่องมาเรียก เธอ/เขา ทุกๆ5นาที

30.
ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน โทรไปหาเขา/เธอ และบอกว่า'ฉันรักเธอ'

31.
โทรจากสถานที่ๆคุณไปเที่ยวและบอกว่า คุณคิดถึงเขา/เธอ เสมอ

32.
จำฝันของคุณและเล่า ให้เขา/เธอ ฟัง

33.
บอกความกลัวและความ ลับสุดยอดของคุณให้เธอ/เขา ฟัง

34.
ทำดีกับพ่อแม่ของ เธอ/เขา

35. (
เฉพาะผู้ชาย) ลูบผมออกจากใบหน้าของเธอเบาๆ 'เบาๆ' ล่ะ

36.
ไปเที่ยวกับเ พื่อนของเธอ/เขา

37.
ไป วัด/อธิษฐาน/สาบาน ด้วยกัน

38.
พาไปดูหนังโรแมนติ คและจำส่วนที่เธอ/เขาชอบ

39.
เรียนรู้กันและกัน และอย่าทำผิดแบบเดิมเกิน2ครั้ง

40.
บอกว่าคุณรู้สึกดียังไงที่ได้อยู่กับ เธอ/เขา

41.
เสียสละให้กันและกัน

42.
รักกันมากๆ ถ้าไม่อย่างนั้นก้อเลิกกันไปเลย

43.
ทำให้ไม่มีนาทีไหน ที่คุณไม่คิดถึงเขา/เธอ

44.
รักตัวเองก่อนที่จะ ไปรักใคร

45.
หัดพูดคำหวานๆในภาษา อื่น

46.
ขอเพลงให้เขา/เธอ ในวิทยุ

47.
หลับคาโทรศัพท์ด้วยกัน

48.
ปกป้องเธอ/เขา เมื่อคนอื่นพูดอะไรไม่ดีต่อเขา/เธอ

49.
ห้าม ลืมการจูบgood night และพูดว่า'ฝันดีนะ' เสมอ นี่คือจดหมายศักดิ์สิทธิ์ ห้ามลบทิ้ง....ส่งต่อไปเรื่อยๆ ถ้าคุณลบ คุณจะอกหักตลอดชีวิต

50.
และสุดท้ายต้องขอขอบ คุณที่โลกสร้างเธอ/เขาขึ้นมา

สูตร แห่งความสุข...ตำราชีวิตประจำวัน By สุทธิชัย หยุ่น


สูตรที่ว่านี้มีง่าย ๆ อย่างนี้
๑. ดื่ม น้ำให้มาก
๒. กิน อาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทาน อาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, ให้วาดภาพ ว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยงและตก เย็นแล้ว, ทำตัวเป็น ยาจก, ไม่มีอะไรจะ กิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
๓.กินอาหาร ที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีก เลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
๔.ใช้ชีวิตบน หลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือ ตือร้นและ empathy คือเอาใจเขา มาใส่ใจเราให้มาก ๆ
๕. หา เวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
๖. เล่น เกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียด กันนักเลย
๗. อ่าน หนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
๘. นั่ง เงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาที ให้ได้
๙. นอน วันละ 7 ชั่วโมง
๑๐.เดินสัก วันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะ กวด, ไม่ต้องเครียดกับมัน, วันไหนไม่ ได้เดิน, ก็ อย่าหงุดหงิดกับมัน
๑๑.ระหว่าง เดิน, อย่าลืมยิ้ม
นั่นเป็น เรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ, หากทำเป็น กิจวัตร,ชีวิตก็จะแจ่มใส,แต่อย่าทำให้ ตัวเองเครียดด้วยการรู้สึกผิดถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้ วันนี้ทำไม่ได้, พรุ่งนี้ทำก็ได้ แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกัน พรุ่ง, ซึ่งเป็นคน ละเรื่องกัน
สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพ มีอย่างนี้ครับ
๑. อย่า เปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไร บ้าง
๒. อย่า คิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเท กำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่า ทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔. อย่า เอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่า เสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอก เสียจากว่ามันจะทำให้คุณ ผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จง ฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่าย หนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิต นี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐.ประกาศสงบ ศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑.ไม่มีใคร กำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒.จงเข้าใจ เสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้ว ก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณ ตลอดชีวิต
๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่า เราเห็นแตกต่างกัน ได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

แล้วเรา ควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ?
๑. อย่า ลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จง หาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จง ให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จง หาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และ ต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายาม ทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คน อื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสัก หน่อย
๗. งาน ของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณ
ในยามคุณ มีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่าง เหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด
และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้
๑. ทำ สิ่งที่ควรทำ
๒. อะไร ที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่า รื่นรมย์, จงทิ้งไป เสีย...เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลา และพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
๔. ไม่ ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็ เปลี่ยน
๕. ไม่ ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุกจาก เตียง, แต่งตัวและ ปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เรา ร่วมงานด้วย...get up, dress up and show up.
๖. สิ่ง ที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้า คุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบ คุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือ เสียด้วย
๘. เชื่อ เถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของ คุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

บันทึกช่วยจำของ“เหลียงจี้จาง”

บันทึกช่วยจำของ“เหลียงจี้จาง”
“เหลียงจี้จาง”เป็น พิธีกรดังของ TVB ในฮ่องกงและเป็นนักเขียนด้วย บันทึกช่วยจำที่เขาเขียนให้ลูก ได้รับการเผยแพร่เป็นวงกว้างเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากแสดงถึงความห่วงหาอาทรที่พ่อมีต่อลูกเฉกเช่นคุณพ่อทั่วๆไป มุมมองของเขาบางเรื่อง(แบบสังคมฮ่องกง) แม้บางคนจะเคยประสบมาบ้างเหมือนกัน อ่านแล้วก็ยังอดอึ้งไม่ได้ เลยถ่ายทอดสู่กันฟัง...

ลูกรัก..
ที่ พ่อเขียนบันทึกช่วยจำฉบับนี้ให้ลูก มีเหตุผลอยู่ 3 ประการ คือ
1. สรรพสิ่งล้วนอนิจัง จะมีชิวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดไม่มีใครบอกได้ พ่อจึงคิดว่า บางเรื่องพ่อน่าจะสั่งเสียไว้แต่เนิ่นๆ ย่อมจะดีกว่า

2. เพราะพ่อเป็นพ่อของลูก ถ้าพ่อไม่บอกลูก ไม่มีใครหรอกที่เขาจะบอกลูกแบบที่พ่อบอก

3. สิ่งที่พ่อบันทึกไว้นี้ ล้วนเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดที่พ่อได้เรียนรู้มา มันจะทำให้ลูกไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนรู้มันอีก



ในชีวิตของ ลูก ขอให้จำสิ่งต่างๆเหล่านี้ไว้ให้ดี



1. คนที่ไม่ดีต่อเรา ไม่ต้องไปใส่ใจนัก ในชีวิตคนเรา ไม่มีใครมีหน้าที่ที่จะต้องมาดีต่อเรา ยกเว้นพ่อกับแม่ของลูก สำหรับคนที่ดีกับลูก นอกจากลูกต้องหวงแหนและขอบคุณเขาแล้ว ยังต้องคอยระวังตัวไว้ด้วย เพราะคนเราทุกคน ทำอะไรย่อมมีจุดประสงค์ เขาทำดีกับลูก ใช่ว่าเขาจะทำเพราะชอบลูกเสมอไป
ลูกต้องตระหนักจุดนี้ให้ดี อย่าเพิ่งรับเขาเป็นเพื่อนเร็วเกินไป (น่ากลัวไหม)

2.ไม่มีคนที่ทด แทนกันไม่ได้ และไม่มีสิ่งใดที่ต้องมีให้ได้
ถ้าเข้าใจจุดนี้ หากวันใดคนข้างกายของลูกไม่ต้องการลูกอีกต่อไป หรือวันใดที่ลูกต้องเสียสิ่งที่รักที่สุดไป ลูกจะได้เข้าใจ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรเลย

3. ชีวิตนี้แสนสั้น (จะอยู่แค่ 160 ปีเอง)
หากลูกยังใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นคุณค่า พรุ่งนี้ลูกจะพบว่าชีวิตจะหลุดลอยไปไกลยิ่งขึ้น ดังนั้น ยิ่งรู้จักถนอมชีวิตเร็วเท่าใด เวลาที่ลูกจะได้รับความสุขจากชีวิตก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
หาความสุข เสียแต่วันนี้ ดีกว่านั่งหวังให้มีอายุยืนนาน
4. ในโลกนี้ไม่มีเรื่องรักนิรันด์กาล ความรักเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ โดยความรู้สึกนี้ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและอารมณ์ หากสิ่งที่ลูกรักมากที่สุดจากลูกไป ขอให้รอคอยอย่างอดทน ให้เวลาช่วยชะล้าง ให้จิตใจค่อยๆตกตะกอน แล้วความทุกข์ของลูกจะค่อยๆจางหายไป..
อย่าวาด หวังความรักให้สวยเกินไป และอย่าซ้ำเติมการอกหักให้ทุกข์เกินเหตุ
5. แม้ว่าคนหลายคนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ไม่ได้เรียนมาสูง แต่ไม่ได้หมายความว่า หากไม่ขยันเรียน แล้วจะได้ดี
ความรู้คืออาวุธ คนเราอาจสู้แล้วรวย แต่ไม่มีทางรวยได้ หากปราศจากอาวุธสู้.. จำไว้
6. พ่อจะไม่ขอให้ลูกเลี้ยงดูครึ่งชีวิตหลังของพ่อ เพราะพ่อก็จะไม่เลี้ยงดูครึ่งชีวิตหลังของลูกเช่นกัน
เมื่อลูกโตพอจน เป็นอิสระได้แล้ว พ่อก็หมดหน้าที่แล้วเช่นกัน หลังจากนั้นไป ลูกจะนั่งรถเมล์หรือจะนั่งรถเบ๊นซ์ จะกินหูฉลามหรือจะกินบะหมี่ยำๆ ลูกต้องเลือกเอง
7. ต้องทำดีต่อผู้อื่น แต่อย่าหวังว่าผู้อื่นต้องทำดีต่อเรา
เราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร มิได้หมายความว่าผู้อื่นก็จะปฏิบัติตอบต่อเราในแบบเดียวกัน.. ลูกต้องเข้าใจในข้อนี้ จะได้ไม่หาทุกข์ใส่ตัวโดยไม่จำเป็น
8. พ่อซื้อล๊อตเตอรี่มาตลอดชีวิต ยังยากจนเหมือนเดิม แม้แต่รางวัลเลขท้ายยังไม่เคยถูกเลย
นี่เป็นบทพิสูจน์ว่า คนเราจะเจริญก้าวหน้าได้ ต้องขยันขันแข็งอย่างเดียวเท่านั้น
ในโลกนี้ ไม่มีมื้อเที่ยงที่ไม่ต้องเสียตังค์
(No free lunch)
9. ญาติ มิตร หรือสหาย ล้วนเป็นกันชาตินี้ชาติเดียว ฉะนั้น จงหวนแหนโอกาสที่ได้อยู่ด้วยกันและแสนมีค่านี้ เพราะในชาติหน้า ไม่ว่าท่านจะรักใครหรือชังใคร ท่านก็จะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก (หมายเหตุ ถึงพบกันก็ไม่รู้=

ฉลาดกับโง่

"คนฉลาด" คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้
ส่วน " คนโง่" นั้น คือ คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้แต่ทำตัวราวกับเป็นผู้รู้

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

รักคนธรรมดา - หนึ่ง ณรงค์วิทย์

รักคนธรรมดา - หนึ่ง ณรงค์วิทย์

อาจมีเวลาให้เธอไม่พอ เหมือนใคร
อาจดูว่าเราห่างไกลด้วยความจำเป็น
ไม่ได้คอยดูแลทุกเช้าเย็น
ไม่ได้เป็นคนรักที่เหมือนใคร
ไม่ได้เจอกันเท่าไหร่ได้แต่คิดถึง

แต่เธอก็ยังตกลงที่จะรักกัน
มั่นใจ และคนอย่างฉันไม่หวั่นอะไร
ไม่เคยท้อซักนิดให้เป็นห่วง
ไม่เคยหวงใครๆ เพราะไว้ใจ
ทั้งที่มีใครที่ดีกว่าฉันตั้งมากมาย

เหนื่อยหน่อยนะที่รักคนธรรมดาอย่างฉัน
เหนื่อยหน่อยนะที่ต้องฝ่าฟันร่วมทางกันไป
ได้มั้ย ช่วยรอหน่อย อดทนอีกนิดนึง
ต้องมีวันใดวันหนึ่ง .... จะพาเธอไปให้ถึงในวันของเรา

อยากทำอะไรมากมายให้เธอชื่นใจ
อยากทำให้เธอสบาย ไม่เหนื่อยเกินไป
ไม่ต้องเหงาเพราะฉันไม่ค่อยอยู่
อยู่กับเธอเวลาทุกข์ร้อนใจ
ไม่ต้องเดียวดายเผชิญอะไรแค่คนเดียว

เหนื่อยหน่อยนะ ที่รักคนธรรมดาอย่างฉัน
เหนื่อยหน่อยนะ ที่ต้องฟ่าฟันร่วมทางกันไป
ได้มั้ย ช่วยรอหน่อย อดทนอีกนิดนึง
ต้องมีวันใดวันหนึ่ง .... จะพาเธอไปให้ถึงในวันของเรา

เหนื่อยหน่อยนะ ที่รักคนธรรมดาอย่างฉัน
เหนื่อยหน่อยนะ ที่ต้องฟ่าฟันร่วมทางกันไป
ได้มั้ย ช่วยรอหน่อย อดทนอีกนิดนึง
ต้องมีวันใดวันหนึ่ง .... จะพาเธอไปให้ถึงในวันของเรา
ต้องมีวันใดวันหนึ่ง .... จะพาเธอไปให้ถึงในวันของเรา