วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กลวิธีหลีหญิง


ฉบับที่ 43 พฤศจิกายน 2533 "เปิดกระป๋อง" โน้ตน่ามึน (หลานเจ๊นี้ขายผลไม้)


ของอย่างนี้ไม่ต้องสอน มันเป็นเอง กระทำสืบต่อกันมาเองอย่างสมัครใจ หาได้มีพ.ร.บ. กฎหมายควบคุม แต่อย่างใดไม่ เป็นกิจกรรมระทึกใจ ที่จะมาปรากฏให้เห็นในช่วงชีวิตของเราบางตอน มีผลทำให้ชีวิตในช่วงนั้น กระชุ่มกระชวยด้วยความระทึกใจ ใครขี้หลีหน่อย ก็ระทึกใจบ่อยหน่อย เป็นธรรมดา ไม่ว่ากันอยู่แล้ว

หลีหญิง ไม่ได้มีอะไรมหัศจรรย์มากไปกว่าการแสดงวีรกรรม, อำ, พราง เพื่อหวังผลให้เพศตรงข้ามสนใจ และเปิดประตูรับเราเข้าไป ในจินตนาการของหล่อน จินตนาการแห่งรักอันหอมหวาน... ซ่อนเปรี้ยว

จุดเริ่มต้นที่จะทำให้หญิงเกิดความสนใจชาย จนเกิดเป็นความรักนั้น มีรูปแบบแตกต่าง ตามลักษณะประชากร และสภาวะเศรษฐกิจ หลายร้อยวิธี มีเพียบ นับกันไม่ไหว

แต่ที่นิยมปฏิบัติกันทั่ว ก็มีไ่ม่เท่าไหร่หรอก ส่วนใหญ่ก็เป็นไอ้วิธีที่สาวแก่แม่ยาย หลายรุ่นหลายสมัย ต่างคุ้นเคยและสนิทสนมเป็นอันดีแล้ว เข้าทำนอง เห็นหน้าก็รู้ชื่อพ่อนั้นเลย

และต่อไปนี้ คือการหลีหญิง ที่เราจะเห็นได้บ่อยครั้ง ตามสถานที่ราชการหรือเอกชนทั่วไป ดาดดื่นไปหมด

แซว


อันนี้ยอดฮิต เป็นการเรียกร้องความสนใจจากหญิง โดยอาศัยอวัยวะปากเป็นแกนนำ นิยมทำกันเป็นหมู่คณะ นัยว่าเพื่อก่อให้เกิด ความสามัคคีและอุ่นใจ และสามารถช่วยกันสร้างสรรค์คำใหม่ๆ ขึ้นมาแซวต่อได้ โดยไม่มีการติดขัด

ผู้ถูกแซวจะมีอาการหน้าแดง หูแดง เสียจังหวะการเดิน เรียนไม่เก่ง ชอบกินไก่เป็นๆ ถ้าอาการหนักกว่านี้ ควรล้างคอให้อาเจียน แล้วปรึกษาแพทย์

สำหรับผู้แซวเอง ทันตแพทย์ลงความเห็นแล้วว่า วิธีนี้ไม่มีผลต่อรำมะนาดที่เหงือกแต่อย่างใด เว้นแต่จะถูกแฟนของหญิงผู้นั้น ชกสวิงเข้าที่กรามซ้าย ซึ่งอาจป้องกันได้ ด้วยการใส่ฟันยางเสียแต่เนิ่นๆ

รักแรกปะทะ


นี้ก็บ่อย หนุ่มๆ จะได้รู้จักผู้หญิงสักคน หนุ่มๆ จะถือหนังสือสัก 2-3 เล่ม ข้าวของจุกจิกอีกเล็กน้อย หนุ่มๆ เหล่านั้นจะแฝงตัวอยู่ตามมุมตึก เสาไฟฟ้า หรือร้านค้าปากซอย เพื่อรอจังหวะที่จะใช้หัวไหล่ของตนเอง ปะทะกับ หัวไหล่ของหญิงที่ตนหมายปอง ขณะเดินสวนมา เพราะการปะทะด้วยหัวไหล่นั้น จะส่งผลให้ข้าวของที่มีอยู่ในมือตัวเอง และมือเธอ หล่นกระจัดกระจายเป็นหย่อมๆ

มีบ้างที่ใช้เข่า แต่นั่นนอกจากที่จะทำให้ข้าวของของเธอ หล่นไปไกลเกินเหตุแล้ว อาจมีผลให้ไขมันหน้าท้องหญิงอุดตันได้ หญิงไม่ชอบ จึงไม่สู้นิยมนัก

เมื่อของหญิงตก ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษหนุ่ม ที่ต้องช่วยเก็บด้วยอาการกุลีกุจอ และรอจังหวะ ที่จะเก็บชิ้นสุดท้ายพร้อมกับเธอ ทำนองว่า ใจตรงกัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วสบตากับหญิงเบาๆ ตะลึงหน่อยก็แจ๋ว กะว่านานพอที่หญิงจะจำหน้าได้แล้ว ก็ทุเลาอาการลง ไม่นิยมยื้อ เพราะอาจสร้างความเหม็นหน้าได้

ทำการบ้านให้


ถ้าหนุ่มขึ้นมาหน่อย ก็เป็นจดรายงาน หรือช่วยแบ่งเบาภาระของหญิงจากการเรียน การงาน เป็นความเสียสละขั้นต้น ที่จะทำให้หญิงรู้สึกสงสาร เห็นใจในความเหนื่อยยากของหนุ่มๆ ระยะนี้หนุ่มจะมีพลังงาน เสียสละมาก เพื่อต้องการพิสูจน์ให้รู้ว่า เพื่อเธอฉันทนได้ ผู้หญิงที่รู้แกวก่อน ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากหนุ่มๆ ในช่วงนี้อย่างเต็มที่ ถ้าเป็นชาวนา ก็เรียกว่าเป็น ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต จะได้มากน้อย ก็แล้วแต่ความปรารถนาเถิด

นัดพบ


ตื่นเต้นมากก... เป็นก้าวแรกของชายที่จะได้รู้จักหญิง มักนิยมนัดพบในเทศกาลวันเกิด หรือปาร์ตี้ เพราะเป็นงานที่เปิดเผย หญิงสามารถจะมาร่วมในงานได้โดยสะดวก โดยไม่มีอุปสรรคจากบิดาหรือมารดา การนัดพบเช่นนี้ จะก่อให้เกิดการพูดคุย หยอกเอิน เมื่อหยอกเอินบ่อย ตัวมิตรภาพที่หลบซ่อนอยู่แถวๆ ไรฟัน ก็จะโผล่ออกมาให้ชายทำความคุ้นเคย

เลี้ยงหนัง


อันนี้ของชัวร์ สูตรสำเร็จอีกอย่างหนึ่งคือเลี้ยงหนัง สาวๆ ส่วนมากจะถูกหนุ่มๆ เชื้อเชิญให้ไปชมภาพยนตร์ ที่มีเรื่องราวคล้ายกับ ชีวิตของเขาเอง จะใช้หนังเป็นตัวแทนความในใจ ว่างั้นเถอะ ถ้าเค้าคนนั้นเป็นหนุ่มร.ด. คุณก็ได้ดูหนังบู๊ แต่ถ้าเป็นหนุ่มหัวงู สาวๆ ก็ได้ดูหนังประเภท เก้านรก หมวยยกล้อ ตี๋โลกีย์เข้ม หรือตี๋โลกีย์เข้มตลอด ตามลำดับ

ขอรูป


เป็นที่พึ่งทางใจของหนุ่มๆ ชนิดนึง ไกลกันหรือยามคิดถึงแล้วนึกหน้าไม่ออก คิดถึงทีไร หน้าสันติสุขลอยมาทุกที รูปหญิงเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาในหมู่เพื่อนฝูงอย่างหนึ่ง คล้ายๆ กับการันตีว่า "หญิงมีใจ" กะกูนะครับ

โดยเฉพาะรูปที่มีกลอนเปล่าหรือความในใจอยู่เบื้องหลัง จะเด็ดสุด หนุ่มๆ มักจะพกพาไว้ที่กระเป๋าสตางค์ หรือขยายติดตามห้องนอน แต่ถ้าหญิงให้รูปติดบัตรประชาชนมา หนุ่มๆ ก็จะเปลี่ยนไปเก็บไว้ บนหิ้งพระประจำบ้านแทน

ให้ดอกไม้


ดอกไม้เป็นตัวแทนแห่งความสดชื่น ยิ่งวันวาเลนไทน์ด้วยแล้ว ดอกไม้ดูจะมีค่าและมีความหมายเกินดอกไม้ไปมาก ยิ่งเป็นดอกกุหลาบด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ หนุ่มต่างก็รอกวันนี้ด้วยใจจ่อ เพราะการมอบดอกไม้ ภายในวันนี้ ก็เป็นการบอกความประสงค์ในใจ ที่จะลำบากมาก ถ้าจะให้เอ่ยออกมาเป็นภาษามนุษย์ เป็นการบอกความรู้สึก ผ่านดอกไม้ใบหญ้า ถึงตอนให้ชายไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็ตาม หญิงผู้รับก็จะเอาไปตีความเองจนได้แหละ ให้กุหลาบดอกเดียว ก็อาจคิดว่า ชายรักเดียวใจเดียว ให้ดอกเยอบีร่า ก็ชอบไปใหญ่ คิดว่าชมในความร่าเริงไปโน่น แล้วแต่จิตใครจะหลอนกว่า

ดอกไม้จึงเป็นการตอบแทนค่าที่เข้าท่ามากในความรู้สึกของผู้ชาย ไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด มันเก่งจริงๆ

ไปส่งบ้าน


อันนี้ยอดนิยม ถ้าเริ่มรู้จักหรือจีบระยะต้น ฝ่ายชายจะชอบไปส่งฝ่ายหญิงที่บ้าน ไม่รู้ทำไม เค้ากลับเองมาตั้งแต่เด็กแล้ว อยู่ๆ ไปส่งเค้าเฉยเลย ประเภทตอนไปส่งก็ไม่รู้จักทางก็มี พาเค้าหลงหายสาบสูญไปก็เยอะ การนำหญิงไปส่ง มีหลายคอเลคชั่น ตามแต่สภาพครอบครัวของหนุ่มจะอำนวย จะถึงบ้านด้วยนิสสันหรือเฟสสัน ก็แล้วแต่บุญบารมีที่สตรีสร้างมา บางรายไม่เพียงแต่ส่งกลับบ้าน ส่งเรียนเลยก็มี ส่งเสียกันตั้งแต่อนุบาล จนเค้ามีลูกมีเต้าไปกับคนอื่นแล้ว ก็ยังไม่หยุด อ้างว่าเป็นคนขี้ลืม

ระยะนี้ ชายหนุ่มเค้าจะมีความรู้สึกว่า ตนเองเสมือนเทพารักษ์ ที่จะต้องมีหน้าที่ คอยปกปักรักษาลูกสาวชาวบ้านให้พ้นภัย อีกทั้งยังได้ประกาศความเป็นเจ้าของโดยอ้อมอีกด้วย

ลีลาที่ผ่านตาไปนี้ ยังมีให้ดูอยู่เสมอๆ มาเถอะครับ คุณผู้ชาย มาสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป เอาให้ชนิดหญิงไม่ทันรู้ตัว กว่าจะไหวตัวว่าถูกหลี ก็มีลูกคนที่สี่ให้อุ้มแล้ว มาเถอะครับ อย่ากระดาก ค่อยๆ เริ่มจากวิธีง่ายๆไปก่อนก็ได้ อาทิ หลีแบบชวนไปทำบุญ หลีแบบเผาที่ทำงาน หรือขับรถชนก็ว่าไป หรือถ้าใครมีเด็ดกว่านี้ ก็รีบๆ เอาออกมาใช้เถอะครับ จะได้เป็นทางเดินสู่มิติใหม่ ก่อให้เกิดความหลากหลายในวงการ ที่แน่ๆ ก็จะได้เป็นต้นแบบให้ลูกๆ หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ได้กระทำสืบต่อกันไป เพื่อดำรงไว้ ซึ่งเสถียรภาพของผู้ชายขี้หลีทั้งปวง

กลวิธีหลีหญิง
http://www.katikala.com/somethingelse/special/strategy.html

ไม่มีความคิดเห็น: